10 เมษายน 2548 16:24 น.

สวัสดีวันสงกรานต์

พี่ดอกแก้ว

ในตำนานปรากฏบทสงกรานต์
วัดโพธิ์จารเรื่องไว้ให้ศึกษา
เศรษฐีหนึ่งไร้บุตรสืบนามา
ถูกนักเลงสุรามาเย้ยยวน

จึงบนบานศาลกล่าวเจ้าต้นไทร
ตรงวันเปลี่ยนศกใหม่ครบปีถ้วน
พระอินทร์ให้ธรรมบาลผู้คู่ควร
เกิดเป็นส่วนบุตรของคฤหบดี

รู้ไตรเพทเจนจบครบเจ็ดขวบ
พร้อมกับควบรู้ภาษาของปักษี
ท้าวกบิลพรหมใคร่ลองดี
ตั้งปัญหาให้ตีสามเพลา

ถามราศีอยู่ที่ไหนในยามเช้า
แล้วเที่ยงเล่าราศีอยู่ไหนหนา
ในยามค่ำอยู่ที่ใดให้บอกมา
มิฉะนั้นต้องบูชาตัดเศียรตน

ธรรมบาลกุมารพลุ่งพล่านจิต
ใกล้เจ็ดวันยังคิดไม่สบผล
วันที่หกหนีจากปราสาทบน
ไปหลบอยู่ใต้ต้นตาลหลบภัย

ฟังเสียงนกสองสามีภรรยา
แก้ปัญหากบิลพรหมสมความไข
เช้าราศีอยู่ที่หน้านั่นปะไร
กลางวันไซร้อยู่ที่อกปรกประพรม

ยามค่ำอยู่ที่เท้าก่อนเข้านอน
ต้องล้างเท้าเสียก่อนจึงเหมาะสม
ธรรมบาลจำคำตอบชอบนิยม
กบิลพรหมจึงแพ้แก่ภัยตัว

ต้องตัดศีรษะตนตามเงื่อนไข
หากตกพื้นเกิดไฟไหม้ดินทั่ว
หากทิ้งบนอากาศฝนเลิกรัว
หากทิ้งน้ำน่ากลัวเหือดแห้งพลัน

จึงให้เจ็ดธิดามาจัดกะ
แห่พานรองศีรษะรอบเขตขัณฑ์
หนึ่งรอบคือสามร้อยหกสิบห้าวัน
หมุนเวียนกันแห่ใหม่ในสงกรานต์

ตามประเพณีไทยที่นานมา
เป็นพิธีบูชาเพื่อสืบสาน
สรงน้ำพระก่อกองทรายถวายทาน
ทำกุศลเมื่อผ่านอีกรอบปี

บังสุกุลอัฐิผลิกตัญญู
รดน้ำผู้สูงวัยให้สุขี
เล่นสาดน้ำเริงรื่นชื่นฤดี
รับปีใหม่ไทยนี้อย่างสุขใจ

ขออัญเชิญคุณพระศรีมณีรัตน์
จงมาเป็นร่มฉัตรคุ้มครองขัย
ให้ประสบสุขสวัสดิ์ตลอดไป
แด่พี่น้องชาวไทยทั่วหน้าเทอญ.				
4 เมษายน 2548 14:49 น.

เพียงเงารัก

พี่ดอกแก้ว

ความรู้สึกลึกลับจับใจหวาม 
ก่อคำถามงุนงงให้สงสัย 
เพียงนึกถึงก็ซึ้งซ่านฤทัย 
อิ่มเอิบในอารมณ์ชมชื่นบาน 

กี่ครั้งคราวหนาวร้อนแม้ตอนไหน 
นึกคราใดชุ่มเย็นเช่นรสหวาน 
สุขอิงแอบแนบนิ่งและเนาว์นาน 
ไร้ห้วงกาลกำหนดกฎภักดี 

ฉันจึงเดินทางต่อไม่ท้อถอย 
แม้นริ้วรอยรอบกายไร้ราศี 
คำประนามเกลื่อนกล่นล้นปฐพี 
หาได้มีความหมายให้หมดแรง 

ท่ามกลางแดดแผดเปรี้ยงเขาเลี่ยงหลบ 
แต่ฉันพบความเย็นเร้นแอบแฝง 
ที่กลางใจไหวหวานซ่านสำแดง 
เพิ่มเรี่ยวแรงตลอดทางสร้างพลัง 

อาจไม่มีใครที่คิดถึงฉัน 
ไม่สำคัญสักนิดไม่คิดหวัง 
ฉันเพียงรู้ฉันรักใครอย่างจริงจัง 
ซึ่งเป็นรักไร้หวัง..หวังเพียงรัก 

เส้นทางนี้จึงมีมากความหวาน 
มวลดอกไม้เบ่งบานให้ประจักษ์ 
มีสายลมพรมตามมาถามทัก 
เพียงเงารัก..แค่นี้ที่ฉันปอง				
31 มีนาคม 2548 09:43 น.

๏ คำหยาบ ๏

พี่ดอกแก้ว

บนร่องรอยรูปลักษณ์อักษรา 
มิอาจแจ้งเจตนานัยอักษร 
ได้ลึกซึ้งถึงรสทุกบทตอน 
และมิอาจสะท้อนถึงห้วงใจ 

คำบิดามารดาด่าแช่งบุตร 
เพื่อให้หยุดทางมารพาลนิสัย 
เจตนารักแท้อยู่ภายใน 
ตักเตือนให้ได้ดีมีปัญญา 

คำสุภาพอาบแฝงแกล้งเสียดส่อ 
หมายผู้ฟังให้ก่อไฟโทสา 
เกิดความเจ็บและอายขายหน้าตา 
เจตนากล่าวคำทำร้ายกัน 

สองคำนี้คำไหนใช่คำหยาบ? 
คำสุภาพเพื่อทำลายหมายเย้ยหยัน 
หรือคำด่าว่ากล่าวด้วยผูกพันธ์ 
บัณฑิตท่านให้ดู..เจตนา 

หากกล่าวถ้อยร้อยพจน์ด้วยรสโกรธ 
มุ่งลงโทษผู้ใดด้วยภาษา 
คำนั้นแหละคือคำ..ผรุสวาจา 
เพราะเจตนาหยาบซ้อนซ่อนคำกล 

หากกล่าวถ้อยด้อยสุภาพอาบกระด้าง 
ตักเตือนสร้างความเข้าใจไร้สับสน 
รักหวังดีไมตรีจิตสิ้นพิษปน 
เจตนาจากกมล...ไม่หยาบคาย 

เชือดนิ่มนิ่ม...ยิ้มด้วยปาก ถากด้วยตา 
แม้นภาษาไพเราะเสนาะหลาย 
เปี่ยมสุภาพสุขุมทุกกลุ่มกาย 
คือผู้ร้ายตัวจริงสิงผู้ดี 

อย่าเข้าใจว่าคำหยาบจะหยาบแท้ 
อย่าติดแค่กรอบสุภาพฉาบกลสี 
อย่าคิดว่าด่าไพเราะเยี่ยมวจี 
กรรมเช่นนี้..อุกศล..ผลร้อนเอย 

				
28 มีนาคม 2548 10:20 น.

กรรม

พี่ดอกแก้ว

ความลี้ลับกับ..กรรม..คำเดียวนี้ 
บทบาทมีปรากฏสองสถาน 
คือความสุขและทุกข์ที่พบพาน 
เป็นผลงานจากกรรมผู้นำพา 

เพียงประตูของกาลคือม่านมืด 
บ่มเพาะพืช..วิบาก..รากพฤกษา 
รอปัจจัยให้เหมาะแก่เวลา 
จึงผลิผลออกมาให้เชยชม 

ใครปลูกไม้อย่างใดในเรือกสวน 
ผลทั้งมวลออกตามพันธุ์อันเหมาะสม 
ปลูกต้นชั่วมีผลชั่วให้ช้ำตรม 
ปลูกต้นดีที่ชมคือผลดี 

เจตนา..คือกล้าไม้กลางใจตน 
ผู้รับผลก็คือตนไม่อาจหนี 
ทั้งสุขทุกข์ตนนั่นแหละสร้างให้มี 
หาใช่พรหมท่านชี้ลิขิตใคร 

ก่อนก่อกรรมทำการงานสิ่งหนึ่ง 
มองให้ซึ้งบึ้งประสงค์ตรงวิสัย 
การกระทำครั้งนี้เพื่ออะไร 
เบียดเบียนใครหรือเปล่าจงเฝ้าตรอง 

เพราะสุดท้ายไปรษณีย์ที่ได้รับ 
กรรมจ่าหน้าคืนกลับสู่เจ้าของ 
เลือกเอาเถิดจดหมายที่ในซอง 
ว่าแจกทองหรือทวงหนี้ที่โกงมา 
				
22 มีนาคม 2548 07:13 น.

อย่าเป็นเพียงโคถึกคึกคะนอง

พี่ดอกแก้ว

เมื่อวาดหวังตั้งไว้ในสิ่งหนึ่ง 
และมุ่งหมายไปถึงความใฝ่ฝัน 
นอกจากใจกล้าสู้คู่ชีวัน 
สิ่งสำคัญคือความรู้ผู้บอกทาง 

หากเป็นเพียงโคถึกคึกคะนอง 
หยิ่งผยองแรงเรี่ยวเกรี้ยวโผงผาง 
อาจมีเหยื่อมาล่อลงหลุมพราง 
ต้องร้องครางเพราะเขลาไม่เท่าทัน 

หากเหลิงหลงลมรสพจมาน 
มธุรสซาบซ่านจนเคลิ้มฝัน 
หวังอาจเปลี่ยนเวียนไปไม่เว้นวัน 
เพราะลมปากเขานั้นปั่นให้เมา 

หากทดท้อต่อคำตำหนิติง 
จนทอดทิ้งหวังไว้ในความเฉา 
เลือกความทุกข์คลุกใจจนซึมเซา 
ปล่อยความเศร้าเฝ้าความฝันให้ผันแปร 

มวลความรู้คือผู้นำสู่ชัย 
ให้รู้ภัยหลบพ้นจนไร้แผล 
วิชาโลกชาญเชี่ยวเคี่ยวดวงแด 
วิชาธรรมรู้แท้ต้องคู่กัน 

วิชาโลก...นำให้ใฝ่ฮึกเหิม 
และต่อเติมบันไดไปสู่ฝัน 
มุ่งสำเร็จในศาสตร์กาจเก่งพลัน 
ยิ่งผลักดันให้ก้าวเท้าสู่ชัย 

วิชาธรรม...นำพ้นความหม่นหมาง 
ข้ามหลุมพรางสรรเสริญเพลินคำไข 
ผ่านกับดักตำหนิคำติใคร 
รู้ทันนัยคำลวงปวงลิ้นลม 

ทั้งพยุงให้มุ่งอย่างสันติ 
ไร้อริเคี่ยวขับกับขื่นขม 
วิชาธรรมฝึกใจให้มีคม 
ตัดอารมณ์ลุ่มหลงคงปัญญา 

รู้ประโยชน์ไร้ประโยชน์ไม่โทษใคร 
รู้บทกรรมเป็นไปไม่กังขา 
รู้อภัยแก้ไขไร้โกรธา 
รู้ทิศทางเบื้องหน้าอย่างชัดเจน 
				
Calendar
Lovers  1 คน เลิฟพี่ดอกแก้ว
Lovings  พี่ดอกแก้ว เลิฟ 1 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟพี่ดอกแก้ว
Lovings  พี่ดอกแก้ว เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟพี่ดอกแก้ว
Lovings  พี่ดอกแก้ว เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงพี่ดอกแก้ว