7 มีนาคม 2549 09:37 น.

ติดลบ

พี่ดอกแก้ว

สายลมร้อนลิ่วสายไปสู่สวน 
ทักทายมวลแมกไม้ใบบางหนา 
แตะช่อดอกหยอกไหวกิ่งไปมา 
สัมผัสผลหล่นถลาร่วงหาดิน 

ตามไปดูหมู่ผลหล่นเสียหาย 
ความเสียดายหวงแหนแสนถวิล 
โทษแรงลมร้อนร้ายไม่คลายจินต์ 
พร่ำบ่นไม่สุดสิ้นรำพึงรำพัน 

นั่นน่ะหรือคือใจใฝ่ติดลบ 
เมื่อใดพบเหตุการณ์ก็หุนหัน 
มองแง่ร้ายแง่เดียวเข้าเกี่ยวพัน 
แง่ดีนั้นยากมีที่สายตา 

ผลไม้มากอยู่ในหมู่ต้น 
ที่ร่วงหล่นคือผลมีปัญหา 
หล่นมาแล้วเป็นอาหารมดนานา 
แมลงลิ้มโอชาสืบชีวี 

เหตุการณ์หนึ่งพึงตรองให้มากหน 
เพื่อหลุดพ้นแง่ร้ายคลายหมองศรี 
แม้เรื่องนั้นจะไม่ใช่เรื่องที่ดี 
แต่ก็มีค่าให้รู้เร่งดูตน 

ทุกสิ่งนั้นไร้ความมั่นคงแท้ 
ต้องเปลี่ยนแปรเกิดดับนับหลายหน 
พิศครั้งหนึ่งพึงสร้างสรรค์กมล 
มองให้พ้นม่านลวงปวงลวดลาย 

เมื่อเกิดมีสิ่งที่เป็นปัญหา 
อย่าคร่ำครวญเสียเวลาให้มากหลาย 
แม้แก้ไขแล้วไม่ดีคืนคลาย 
จงยืดกายที่เพียรเพื่อเปลี่ยนแปลง 

บางเรื่องราวอย่าเศร้าเมื่อรับรู้ 
จงมองดูด้วยใจไร้แสลง 
ไม่ก่นด่าผู้ใดให้ร้ายแรง 
ครองตนพ้นเหตุแห่งอกุศลกรรม				
28 กุมภาพันธ์ 2549 14:40 น.

..คิด..

พี่ดอกแก้ว

เพราะความคิดจึงลิขิตถ้อยอักษร 
มธุรสบทกลอนอันอ่อนหวาน 
บ้างดุเดือดดึงดันอันธพาล 
เพราะบึ้งดาลแดนใจให้อารมณ์ 

เพราะความคิดยึดติดในทัศน์ตน 
จึงหลากล้นความต่างอ้างผสม 
มีหลายมุมแตกกลุ่มเป็นเงื่อนปม
ปวงคารมโต้แย้งแสดงมา 

เพราะความคิดที่ประดิษฐ์สิ่งสร้างสรรค์ 
ความเจริญวัตถุนั้นจึงแน่นหนา 
อัศจรรย์สื่อสารผ่านนภา 
ไปเยี่ยมเยียนจันทราถึงผิวนวล 

เพราะความคิดจึงถือสิทธิ์การตัดสิน 
คำดูหมิ่นถากถางอ้างไต่สวน 
ขยายเหตุผลตนคนชักชวน 
ให้เขาล้วนเห็นตามถ้อยความตน 

เพราะความคิดจึงมีจิตเป็นสองฝ่าย 
ดีกับชั่วสืบสายอนุสนธิ์ 
ประกอบกรรมทำกิจในชีพชนม์ 
ย้ำกมลสันดานมานานวัน 

เพราะความคิดปวงบัณฑิตจึงตั้งกฎ 
ศึกษาธรรมกำหนดเพื่อเหหัน 
ให้จิตไร้ความคิดสารพัน 
เพียงรู้และเท่าทันไม่ฟุ้งใจ 

เพราะความคิดชีวิตจึงสืบเนื่อง 
อยู่กับเรื่องสมมุติที่เฉไฉ 
เมื่อไม่คิดเพียงรู้ดูผ่านไป 
จึ่งพ้นภัยความคิดและจิตมาร 				
25 กุมภาพันธ์ 2549 07:15 น.

๏ร้อน๏

พี่ดอกแก้ว

โลกวันนี้ร้อนรนจนร้อนใน
ร้อนกายและร้อนใจไฟเผาจิต
ร้อนด้วยโรคด้วยภัยมลพิษ
เศรษฐกิจการเมืองเรื่องร้อนรน
 
ร้อนอากาศขาดร่มและลมเย็น
ร้อนความเห็นขัดแย้งแห่งเหตุผล
ร้อนวาจาท้าทายระหว่างคน
ร้อนโทสะมากล้นจนร้อนนาน
 
ช่วยกันดับความร้อนที่ภายใน
ใช้เห็นใจเมตตามาผสาน
สงบนิ่งสิ่งปะทุกุไฟพาล
สงบถ้อยระรานระหว่างกัน
 
แม้นอากาศจะร้อนตอนยามไหน
หากมีใจกรุณามาสร้างสรรค์
ความเย็นที่ภายในส่วนสำคัญ
จะคลายร้อนนอกนั้นให้สบาย
 
เข้าร่มธรรมสักนิดก่อนจิตไหม้
รักษาใจให้ฉ่ำดื่มด่ำสาย
ด้วยทานศีลภาวนาอย่ารู้คลาย
สุขมากมายจะเกิดมีที่จิตตน				
16 กุมภาพันธ์ 2549 07:06 น.

ไม่คุ้มเลย

พี่ดอกแก้ว

อาจล้มลุกคลุกดินสิ้นสะอาด
เสื้อผ้าขาดร่างกายมีหลายแผล
ถูกเขาผลักเขาไสไร้คนแล
เคยพ่ายแพ้ผิดพลาดขาดเชื้อชัย
 
เรื่องเช่นนั้นผ่านวันผ่านเวลา
หลายเดือนปีผ่านมานานแค่ไหน
หากยังย้ำพร่ำความเข้าถามใจ
หาเป็นทางแก้ไขให้เติมเต็ม
 
แต่กลับเป็นเช่นรอยที่ลึกกว้าง
ยิ่งคร่ำครวญยิ่งสร้างรอยขีดเข็ม
ที่กดกรีดขีดคุ้ยขุยเนื้อเล็ม
ให้พร่องจากส่วนเต็มของเนื้อใจ
 
คิดหนึ่งครั้งคือฝังรอยเข็มซ้ำ
คิดบ่อยครั้งยิ่งช้ำยากแก้ไข
คิดเรื่องเก่าความเศร้าทวีชัย
คิดวกวนทำให้อกุศลครอง
 
คิดแก้ไขเปิดใจใส่กุศล
มองที่ตนเริ่มใหม่ไม่หม่นหมอง
เดินหนีจากเรื่องเก่าที่เน่ากอง
เลิกใฝ่ปองเล่าอดีตกรีดทบทวน
 
ใช้เวลาปัจจุบันสรรค์สร้างจิต
การครวญคิดท้อใจใฝ่กำสรวล
คือพร่าผลาญเวลาไร้ค่าควร
จดจำล้วนเรื่องกลุ้มไม่คุ้มเลย				
10 กุมภาพันธ์ 2549 11:25 น.

มาฆบูชา ๒๕๔๙

พี่ดอกแก้ว

เพ็ญเดือนสามงามล้ำฉ่ำชื่นสรวง 
จันทร์แจ่มดวงเฉิดแสงแจ้งนิศา 
ราตรีงามท่ามกลางไพรพนา 
พระศาสดาประทานธรรมนำหลักการ 

ตรัสโอวาทปาฏิโมกข์สู่โลกหล้า 
พระอรหันต์สดับค่านำสืบสาน 
พุทธวิธีเป็นครูผู้เบิกบาน 
และรินหลั่งธรรมทานสู่ผองชน 

เพ็ญเดือนสามยามนั้นอัศจรรย์แสน 
พระอรหันต์ทั่วแคว้นในทุกหน 
ทั้งหนึ่งพันสองร้อยห้าสิบบุคคล 
ล้วนเอหิภิกขุชนอภิญญา 

รับหลักการสานธรรมนำสืบสาย 
การแจงจ่ายความรู้ไตรสิกขา 
ตามคำสั่งแห่งองค์พระศาสดา 
นับแต่กาลนั้นมาเพื่อสืบวงศ์ 

เพ็ญเดือนสามยามนี้ที่นบน้อม 
กายวาจาใจพร้อมด้วยประสงค์ 
กราบบูชาแทบบาทพระพุทธองค์ 
กราบพระธรรมพระสงฆ์น้อมสักการ์ 				
Calendar
Lovers  1 คน เลิฟพี่ดอกแก้ว
Lovings  พี่ดอกแก้ว เลิฟ 1 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟพี่ดอกแก้ว
Lovings  พี่ดอกแก้ว เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟพี่ดอกแก้ว
Lovings  พี่ดอกแก้ว เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงพี่ดอกแก้ว