4 พฤศจิกายน 2549 07:39 น.
พี่ดอกแก้ว
เรืองรองผ่องระยับ
ประกายวับสะท้อนธาร
เรื่อเรืองแสงชวาล
ลอยเลื่อมสินธุ์ระรินนอง
อธิษฐานกระทงธรรม
โปรดน้อมนำกุศลผอง
บวงสรวงพระบาททอง
องค์พุทธาพระศาสดาจารย์
อธิษฐานโคมหัวใจ
จงลอยไปยังทิพย์สถาน
นอบน้อมนมัสการ
พระจุฬามณีองค์
อธิษฐานกลางเพ็ญฉาย
ด้วยมุ่งหมายให้พ้นหลง
ขอเดินอย่างมั่นคง
บนทางดีมีสัมมา
อธิษฐานคยาโพธิ์
ตั้งนะโมเพื่อบูชา
ขอร่มแห่งพฤกษา
จงคุ้มอาสน์ไม่ขาดใบ
อธิษฐานขอขมา
ต่อธาราที่เย็นใส
โปรดรับกระทงใจ
ใบน้อยนี้ที่รู้คุณ
2 พฤศจิกายน 2549 11:08 น.
พี่ดอกแก้ว
ห้วงคำนึงนึกถึงอดีตกาล
ย้อนรอยผ่านเวลาคราหนหลัง
หลากเรื่องราวเรียงผ่านม่านภวังค์
เหมือนเติมเต็มพลังให้แก่ใจ
ปวงกุศลเคยทำในกรรมดี
รอยความถี่มีมากเกินนับไหว
เมื่อนึกถึงก็เบิกบานฤทัย
มิต้องมาให้ใครแสร้งชื่นชม
เพียงเท่านี้ ก็มีแรงแข่งวิบาก
ที่ไหลหลากรินรสในบทขม
มีกำลังทายท้าฝ่าคลื่นลม
กู้เรือไม่ให้จมความอ่อนแอ
เพียงเท่านี้ ก็มีกำลังสู้
แม้ศัตรูมีมากฝากรอยแผล
เมื่อเชื่อมั่นความดีไม่ปรวนแปร
ความชั่วย่อมพ่ายแพ้แก่ความดี
เพียงเท่านี้ วิธีเสริมสร้างใจ
ไม่รบกวนผู้ใดและไม่หนี
นึกถึงความดีเก่าที่เรามี
กระตุ้นใจอีกทีให้สราญ
เมื่อเคยทำความดีที่คราเก่า
ปัจจุบันนี้ เราต้องสืบสาน
เคยทำได้ ต้องทำได้ ไม่พ่ายมาร
และทำดีนานนานจึงได้ดี
รักษาดีเก่าต่อก่อดีใหม่
มุ่งทำดีเรื่อยไปในวิถี
จากอดีตสู่อนาคตไม่หมดดี
คิดและนึกเช่นนี้ ดีเพิ่มพูน
23 ตุลาคม 2549 19:57 น.
พี่ดอกแก้ว
ในท่ามกลางผู้คนบนพื้นโลก
ต่างชุ่มโชกกิเลสเหตุหมองศรี
จึงทำกรรมหลากหลายในชีวี
มากลวดลายสันสีที่ฉาบทา
ต้องเรียนรู้ดูไปให้แจ้งชัด
อย่าผูกมัดกับใครจนแน่นหนา
เรื่องของใจเปลี่ยนแปลงทุกเวลา
จึงไม่ควรถือสาความคิดใคร
บางคนดีมีเมตตาคราสงบ
แต่เมื่อฟังคำกระทบกลับหวั่นไหว
โทสะแล่นแซงปัญญามาฉับไว
ไม่ตรองในถ้อยความยามรับฟัง
บางคนดีมีน้ำใจไม่ข้องขัด
รับแจงจัดเรื่องราวทั้งหน้าหลัง
จึงเคยชินเปลี่ยนเรื่องและปิดบัง
อ้างจริงจังทำไปเพื่อให้ดี
บางคนดีมีความถามทุกข์สุข
เพื่อปลอบปลุกทุกฝ่ายให้สดศรี
แต่ไม่เชี่ยวชาญคำทำไมตรี
น้ำใจดีน้ำคำแย่แผลเพิ่มรอย
บางคนดีมีใจใฝ่สละ
ชอบปะทะใช้แรงแซงไม่ถอย
และใจร้อนเร่งสู้ไม่อยู่คอย
ผู้อื่นพลอยผิดใจในจุดยืน
บางคนดีมีใจใฝ่สัมพันธ์
วาจาสรรค์ไมตรีไม่มีฝืน
พอนานวันอัตตาพายั่งยืน
คิดว่าเข้าใจคนอื่นถูกทุกคน
นี่เป็นเพียงบางคนบนโลกนี้
ใช้ชีวีเคียงข้างเราบางหน
มีบกพร่องไปบ้างอย่างปุถุชน
ยอมรับแล้วเตือนตน....ให้อภัย
และเราไซร้ใช่ดีมีงามทั่ว
ข้อบกพร่องที่ตัวต้องแก้ไข
หันกลับมาฝึกตนให้พ้นภัย
อย่าปล่อยปละเหลวไหลเหมือนบางคน
20 ตุลาคม 2549 05:23 น.
พี่ดอกแก้ว
เมื่อทุกข์โถมโหมซัดสารพัดทิศ
รวบรวมจิตแข็งข้ออย่าท้อขวัญ
เรื่องหนักหนาเจียนตายแต่ละวัน
ล้วนผ่านผันพ้นแน่แค่ต้องรอ
ดั่งสายน้ำมีมากหลากท่วมทั่ว
อย่าได้มัวส่งเสียงเพียงร้องขอ
รักษาตนเอาไว้ไม่ด่าทอ
ฝนชลอน้ำลดหมดอุทกภัย
เมื่อฝนพ้นคนดีที่เข้มแข็ง
ต้องปรับแปลงถิ่นฐานงานแก้ไข
เตรียมรับมือกับน้ำปีต่อไป
ไม่หมดใจต่อสู้รู้ทำดี
เพราะยังมีปวงภัยไล่ตามล่า
หมดฝนฟ้ามีลมพรมวิถี
หนาวเหน็บเยือนเรือนเหย้าเข้าอีกที
จิตต้องมีพลังครั้งทุกข์มา
ครั้นหมดหนาวถึงคราวเข้าหน้าร้อน
ทุกข์มิได้หยุดจรเข้ามาหา
ความแห้งแล้งระอุพสุธา
ทุกข์อีกคราต้องเตรียมอย่าเกรียมใจ
เพราะชีวิตคือพิษผลพวงทุกข์
อยากพบสุขต้องทนรอผลไสว
กอปรกุศลเสริมฐานเหตุปัจจัย
รอสุกงอมเมื่อไรสิ้นทุกข์พลัน
9 ตุลาคม 2549 19:38 น.
พี่ดอกแก้ว
เดินมาตามลายแทงแห่งศรัทธา
พบปัญหาย่ำแย่ให้แก้ไข
ที่หนักหนาคือเรื่องควบคุมใจ
ให้เป็นไปด้วยบุญเพิ่มทุนรอน
หลายครั้งคราปัญญามาติดขัด
เชือกที่รัดคือทิฏฐิยากถ่ายถอน
ความเดือดดาลพล่านจิตติดนิวรณ์
คือประตูใส่กลอนขังปัญญา
หาที่พึ่งตรึงใจให้สงบ
ยากจะพบความสงัดตัดปัญหา
ทรุดกายลงตรงเบื้องพระปฏิมา
สวดบูชาพระไตรรัตน์ขจัดภัย
ไร้นิยามความคิดให้จิตพล่าน
ทุกวรรคตอนขับขานด้วยเสียงใส
กล่าวบูชาเทิดพระรัตนตรัย
เป็นธงชัยสรณะละจิตมาร
แล้วความเย็นก็ดับเข็ญในดวงจิต
กตัญญูปกาศิตบุญสืบสาน
ระลึกคุณพ่อแม่ครูอาจารย์
มาเป็นฉัตรกั้นพาลที่พึ่งพิง
แล้วธรรมะก็ชนะอธรรมผอง
ความหม่นหมองคลายไปไม่สุงสิง
เมื่อสงบก็เปิดทางให้มิตรจริง
คือปัญญาเข้าชิงขุมทรัพย์ธรรม