15 กันยายน 2546 20:24 น.
พิราบสีขาว
คนหลงทาง:(พรรณนา)
เรื่อยๆปลิวไปตามสายลม
มาชื่นชมดอกไม้ในสวนใหญ่
ยินเสียงลำธารและสายน้ำไหล
นั้นอะไรชูช่อสวยกลางสระหลวง
เจ้าพุ่มพวงดวงดอกรักพักพริ้ง
เป็นสิ่งพึงปราถนาแห่งผึ้งหลวง
โปยกลิ่นไกลดอกอ่อนพริ้วปลิวร่วง
โอ้เจ้าดวงดอกลั่นทมขมชีวา
เดินมาเพลินจนเกินมาไกล
ไม่มีใครเงียบเหงาเศร้าชีวี
ผู้นำทาง:พูดแทรก
ไม่นานนักจักยินเสียงดนตรี
บทกวีเพิดพริ้วปลิวอักษร
ที่ที่แห่งนี้จะมีแสงแห่งชีวี
มีดนตรีบรรเลงเพราะเสนาะหู
มีดวงใจที่ซ่อนความรักอยู่
มีความรู้ยามเธออ่านหนังสือ
ผู้นำทาง:พูดต่อ
อย่ามัวมาเฝ้าเศร้าอยู่ใย
ยังมีใครอีกมากยังมาไม่ถึง
เจ้าผู้ซึ่งมีดวงจิตอันคิดคะนึง
เจ้ามาถึงสถานวิมานล้ำค่า
อย่ามาเสียเวลาอาลัยทำไมนัก
อันสิ่งที่รักจะกลับมาเคียงคู่
อีกไม่นานเจ้าจะพบสิ่งที่คอยอยู่
เจ้าจะได้รู้ว่าใครรักเจ้ากว่าสิ่งใด
คนหลงทาง:ถาม
ชั่วชีวิตข้าหามานานเรื่องความรัก
ไม่รู้ประจักรักเป็นเช่นใด
จะมีใครหรือที่รอข้าอยู่
ผู้ที่มีความรักให้ข้ามากกว่าผู้ใด
ผู้นำทาง:ตอบ
เจ้าจักรู้แค่เพียงสิ่งใดเล่า
อันตัวเจ้าเจ้ายังไม่รู้ใจตนเอง
เปรียบคนเมาเหล้าเอาคนตรีมาบรรเลง
คงจักครื้นเครงไฟเราะเสนาะหูกระมัง
คนหลงทาง:พูด
ท่านพูดเปรียบเปรือยอะไรเช่นนี้
มันจะมีความไพเราะได้เช่นไร
เปรียบดังควายได้ดวงมณี
ไม่มีค่ากับมันสิ้นดี
ถ้าจะมีคงเป็นไถจะเหมาะสม
ผู้นำทาง:พูด
เจ้าก็รู้แต่แกล้งโง่ไปใย
เจ้าถึงไปมองข้ามในสิ่งที่เจ้ามี
เปรียบเจ้ามีเมฆหมอกบดบังชีวี
ไม่อาจเห็นแสงสีความสวยงามที่อยู่ตรงหน้า
แต่กลับไปมองเห็นสิ่งอื่นมีค่ากว่า
ข้าไม่น่ามาเดินกับเจ้าให้เมื่อยล้า
เจ้าเพื่อนยาข้าจำใจต้องนำทาง
คนหลงทาง:พูด(เริ่มโกรธ)
ท่านบ่นเมื่อยล้าก็อย่ามากับข้า
ข้าคงชักช้าเป็นภาระลำบากท่าน
ปล่อยข้าไว้ขอข้ากลับไปที่แห่งกาฬ
ขอประทานคำขอบใจที่เคยช่วยไว้
อันความจริงตัวข้าท่านไม่มีสิทธิยุง
จะมาผยุงช่วยข้ามาเพื่ออะไร
ปล่อยข้าทิ้งไปในนรกอเวจี
อย่าได้มีบุญคุณต่อกัน
ผู้นำทาง:พูด
เย็นลงบ้าเถิดเจ้าหนุ่มน้อย
เจ้ายังด้อยอันจิตคิตสงบ
นี่คือความจริงสิ่งที่เจ้าประสบ
จงสงบแล้วหยุดฟังข้าสักประเดี๋ยว
อันที่ข้าช่วยเจ้านั้นไม่ได้เอาบุญคุณ
ข้าทำคุณมักไม่หวังสิ่งตอบสนอง
เจ้าจงลองคิดดูให้ดีหนา
ไอ้การที่ข้ามานำทางเพราะข้าอยากให้เจ้าเจอ
สิ่งเจ้าเสนอหยิบยื่นมาในวาระสุดท้าย
ยามเจ้าตายมาลมหายใจสุดท้ายเจ้าเรียกร้องมัน
อันความรักสลักจิตที่เจ้าพร้ำเพ้อ
ว่าอยากเจอจนสุดหยาดลมสุดท้าย
เมื่อยามที่เจ้าวายข้าจึงมาเพื่อนำเจ้า
จะนำเข้านรกสุดเหวก็จะอย่างไง
เพราะเห็นใจจึงพามาส่ง
เมื่อพ้นซึ่งภาระเจ้าก็ต้องกลับไป
กลับไปยังอเวจีที่เดิมของเจ้า
แต่ตอนนี้มีคนเหงาเฝ้ารออยู่
ข้านั้นรู้จึงจะพาไปหา
เจ้าจะรู้ว่าฟ้ากับความรักมิอาจกั้น
ขนาดข้ายังใจอ่อนมาช่วยเจ้า
เจ้าจะเอาแต่อารมณ์มากเพียงไหน
คนหลงทาง:พูด
ขอโทษข้าพลาดไป
ขอบคุณท่านผู้มีคุณ
ข้าเพียงคุ่นคิดจนใจร้อน
ว่ามีใครยังอาวรณ์ข้าอยู่
เมื่อข้ารู้คงเป็นสุข
คงไม่ทุกข์ใจเมื่อไปอเวจี
ชาติใหม่ข้าจะตั้งใจทำแต่ความดี
อย่าได้มีเคราะห์กรรมเช่นปรางนี้
ผู้นำทาง:พูด
นั้นไงนั้นคือใครที่เจ้าอยากเจอ
ที่เจ้าเพ้อพะวงถึงในสิ่งรัก
นั่นไงคนที่รักเจ้าสุดปักใจ
คนหลงทาง:พูด
เขาคือใครทำไมข้าจึงมองเลือนลาง
ไม่เห็นร่างนางได้ชัดเจน
ผู้นำทาง:พูด
เจ้ามัวมองนางด้วยอะไร
สำหรับนางเจ้าต้องใช้ใจมอง
เจ้าต้องลองทบทวนตระหนักเป็นหนักหนา
เพราะความรักมิอาจมองผ่านด้วยตา
เจ้าจงใช้จิตชีวาคิดไตร่ตรอง
เพียงแค่มองเจ้าคนหลงทางน้ำตานอง
เพราะสองตาที่เห็นเป็นตัวตน
คนที่รักเจ้าคนหลงทางยิ่งกว่าสิ่งใด
วันนี้ได้อาจเจอ ที่เคยพร้ำเพ้ออยู่
แค่ได้เห็นเพียงพริบเดียวเจ้าคนหลงทางเป็นซึ้ง
ทรุดลงนั้นใบหน้ายิ้มเลือนหายมลายไป
หมดเวาลาความหวังช่างอาลัย
ผู้นำทาง:พูด
เป็นอย่างไงคนที่รักเจ้ายิ่งกว่าสิ่งใด
คนนั้นคือใครที่เจ้าเห็น
เมื่อเป็นไปตามนี้ก็ควรดีใจ
ที่จริงเจ้ามีใครที่รักมากกว่ารัก
เป็นคนผูกฝักเจ้ายามเยาว์วัย
แล้วทำไมตอนนั้นเจ้าทำรายตบตี
บุพการีแม่เจ้าเฝ้าระทม
เจ้าเข้าใจหรือไม่ทำไมเจ้าถึงตกอเวจี
เป็นอย่างไงบ้างอย่าเฝ้าแต่ร้อง
เกิดใหม่ใช้กรรมเจ้าควรลอง
ตอบสนองความรักอันมีค่า
เมื่อเกิดเป็นบุตรใครอย่าให้แม่เจ้าเฝ้าเสียใจ
หมดเวลาเจ้าแล้วข้ามาทำตามที่เจ้าปราถนาหมดเวลาของเจ้าแล้ว
กลับไปยังที่ที่เจ้าควรจะไปเถิดข้าจะคอยติดตามและคอยดูเจ้าแทนคำขอที่มารดาเจ้าให้ไว้แล้วกัน