23 พฤศจิกายน 2546 19:45 น.
พิราบขาว
เธอบอกฉันว่า เราต้องมีใครสักคนเดินไปด้วยกัน ก้าวไปด้วยกัน ให้กำลังใจกันและกัน สู้ต่อไปด้วยหัวใจที่รวมเป็นหนึ่ง แสงสว่างจากประตูแห่งความสำเร็จที่รออยู่เบื้องหน้า แม้จะริบหรี่มืดมิดเพียงไร แต่ถ้ามีใครสักคนเดินไปด้วยกัน เราก็จะฉุดมือกันเดินไปถึงจุดหมายเป็นแน่
เธอยังบอกอีกว่า ถ้าฉันยังเลือกที่จะเดินไปอย่างนี้ บางทีกว่าที่ฉันจะตัดสินใจทำอะไรลงไป อาจช้าเกินไป ประตูตรงนั้นอาจปิดแล้วก็ได้
เธอ.......คงไม่มีใครอยากกาวเดินไปอย่างเดียวดายตามลำพัง คงไม่มีใครอยากร้องให้คนเดียวโดยไม่มีใครปลอบโยน คงไม่มีใครอยากล้มแล้วไม่มีคนยื่นมือมาคว้า แต่สำหรับคนที่ชอกช้ำและเจ็บร้าวจากคนรอบข้างอย่างฉัน เข็ดและขยาดกับการที่จะต้องผูกพันกับใคร การก้าวเดินไปสู่จุดหมายเพียงลำพังดูมีความน่ากลัวน้อยกว่าเวลาที่เราล้มลงแล้วโดนคนขางกายเหยียบย่ำซ้ำเติม เวลาร้องให้มีแต่คนยื่นผ้าขี้ริ้วให้แทนที่จะเป็นผ้าเช็ดหน้าคอยซับน้ำตา
มาครั้งนี้ฉันอยากก้าวเดินไปพรอ้มกับใครสักคน แต่เขากลับไม่ยอมรับฉัน ไม่อยากเดินไปกับฉัน ผลักฉันให้ล้มลงเพียงคนเดียว กระทืบซ้ำเติมฉัน ฉันร้องไห้อยู่เพียงลำพัง หากฉันจะลุกขึ้นมา แล้วเดินไปด้วยตัวของฉันเองเพียงคนเดียว ถึงฉันจะต้องอยู่ในโลกของฉันเองเพียงลำพัง ฉันก็พอใจเป็นกบในกะลาเล็ก ๆ มากกว่าจะออกมาให้ใครเหยียบ หัวใจฉันหยาบและกระด้างเกินกว่าจะเสียน้ำตาให้ใครอีกแล้ว อยากให้เขารับรู้ว่ายิ่งเขาด่าฉันมากเท่าไหร่ หยาบคายเท่าไหร่ โดยที่ฉันไม่ได้ตอบโต้อะไรเลย ฉันจะเป็นฝายชนะมากเท่านั้น
ขอบใจมากที่เธอให้กำลังใจฉัน ขอบใจมากที่นะนำอะไร ๆ ให้ฉัน และขอบใจมากที่ยังเห็นความสำคัญของคน ๆ นี้ แต่ฉันมันเลวเกินกว่าที่จะเดินร่วมทางกับใคร ฉันขอเดินไปตามเส้นทางที่ฉันขีดไว้ จะช้าจะเร็วฉันก็จะเดินไปให้ถึง ฉันเชื่อว่าถ้าคนเรามีความพยายาม ประตูแห่งความสำเร็จไม่มีทางปิดหรอก หากเธอยังห่วงใยฉันไปเถอะ ก้าวเดินไปพร้อม ๆ กับใครสักคนของเธอ ไปรอฉันตรงปลายทางแห่งความสำเร็จนั้น
อีกไม่นาน.......ฉันจะตามเธอไป
ทนมานานเพื่อใคร
หัวใจถูกย่ำยีกี่หน
กี่ครั้งที่ทนสุดสับสน
อย่าทนอีกเลย