8 สิงหาคม 2551 18:13 น.
พิมญดา
ฉันเหมือนนกหลงทางกางปีกหัก
ตกลงมาพักรักษาบ้านหลังหนึ่ง
บ้านหลังนี้มีความรักความคะนึง
บ้านที่ซึ่งไม่เรียกร้องเงินทองใคร
ให้ฉันอยู่อย่างเสรีฟรีในบ้าน
เติมเต็มจินตนาการให้สดใส
ไม่ต้องจ่ายค่าน้ำและค่าไฟ
เม้นเท่าไหร่ไม่ต้องจ้างสำนักพิมพ์
ฉันไม่ใช่กวีมีชื่อเสียง
เลยไม่เสี่ยงที่จะเขียนเรื่องหยุมหยิม
เรื่องอาหารไม่ถนัดเขียนให้ชิม
เรื่องของพิมญดามาฟังไว
ฉันไม่ใช่กวีมีศรีศักดิ์
ฐานันดรแห่งรักฉันยิ่งใหญ่
ดั่งนางทาสในบ้านกลอนเช็ดถูไป
เป็นนางในไทยโพเอมเต็มใจมา
ฉันไม่ใช่กวีหิวกระหาย
ฉันมาหาความหมายใต้ฟากฟ้า
โลกใบนี้เต็มไปด้วยอักษรา (รึจะเปลี่ยนเป็นกบในกะลาก็ได้นะคะ..อิอิ)
สื่อภาษาด้วยน้ำจิตมิตรไมตรี
..นิดหนึ่งนะเจ้าคะ...
ว่าแล้วบ้านหลังนี้มีอะไรดีน๊า.. ตามมาคะอาจจะยาวหน่อยนะคะ
เข้ามาบ้านหลังนี้ดีกว่าเจ้าคะ แล้วอิฉันก็รักษาปีกของตัวเองโดยใช้อักษร เรียกอะไรดีละกลอนรึ ! ไม่ใช่หรอก เขียนไม่รู้ความด้วยซ้ำ จำได้ว่า..แค่อยากเขียนให้มันได้ระบายกับความเป็นจริงที่แทบไม่อยากมีชีวิตอยู่ เพราะใครบางคน! ที่ทำร้ายอิฉันทางจิตใจ จนอิฉันไม่สามารถบินไปไหนได้ มันหมดแรง มันท้อแท้ มันไม่มีทางออก มันไม่มีที่ไปมันตีบตันทุกทาง ใช่..ฟ้ากว้างใหญ่ หลายคนปลอบอิฉัน แต่ดวงตาตอนนั้นมันมีแต่น้ำตาที่บดบังโลกสวยงามใบนี้เอาไว้ น้ำตาท่วมใจสินะ หากจะให้เข้าใจ ! ในอารมณ์ ความรู้สึกตอนนั้นที่มีแต่ แค้น ! ที่เขาทำไมทำกับเราได้ แค้นสุมในใจ ! เกิดคำถามกับตัวเองทุกวันทั้งที่ไม่เคยถามตัวเอง หรือตำหนิตัวเองเลยว่า ทำไม! เราช่างโง่นักจึงได้แต่ก้มหน้าก้มตาเขียนๆๆและก็เขียน โดยไม่รู้ว่าสัมผัสของบทกลอนคืออะไร รู้แต่ขอเขียนแบบสัมผัสใจคนเจ็บให้ได้ผ่อนคลายเป็นพอ ไม่รู้สิ..ว่าใครจะชอบหรือไม่ รู้แต่ขอตัวเองหลุดพ้นได้ไหม เกือบ80 เปอร์เซนต์ของบทกลอนที่เขียนครั้งต้นๆ เขียนขึ้นมาด้วยน้ำตาแห่งความเสียใจและอาลัยกาลเวลาของความรัก
จนถึงจุดหนึ่ง..เวลาได้ช่วยให้ผ่อนคลายอารมณ์ที่เศร้า เดียวดาย สับสน แม้จะไม่ทั้งหมดของความรู้สึกที่สูญเสียไปแต่ดิฉันก็กลับมายืนตรงความเป็นฉันได้ แต่อดิฉันก็รักบ้านและสมาชิกในบ้านหลังนี้เสียแล้ว ฉันไม่อยากกลับไปจมอยู่กับอดีตเก่าๆ ไม่อยากทิ้งอักษร ฉันแปลกใจตัวเอง ฉันเป็นอะไรในบ้านหลังนั้นมีอะไรให้ฉันประทับใจ ฉันมองเห็นเงาของตัวเอง กำลังซุกตัวกับไออุ่นของบ้านเล็กๆอย่างมีความสุข(ปัจจุบันมันไม่เล็กแล้วนะดูสิบางใครก็ใหญ่คับฟ้า..ฮา)มับอบอุ่นจนไม่อยากออกจากบ้านไปไหน กาแฟร้อนๆตอนเช้า กับบทกลอนก่อนทำงานกลายเป็นกิจวัตร ของฉันไปเสียแล้วสายตาหลายคู่มองมาอย่างเอื้ออาทร ให้กำลังใจหลายคู่มองอยู่ห่างๆ หลายคู่อาจจะมองอย่างหมั่นไส้นิดๆ
(หรืออาการหนักมากก็เชิดเมินหน้าหนี) ฉันก็นึกถึงความน่ารัก ของสมาชิกบ้านกลอนที่น่ารัก(ษา)ดีนะ.....อิอิ
ที่บ้านหลังนี้ มีผู้ดูแลบ้าน ที่น่าเห็นใจและน่าทึ่ง ที่สามารถดูแลสมาชิกที่มาจากหลายที่ทั่วโลก(ต้องประมาณนั้นเพราะสมาชิกหลายท่านอยู่ต่างประเทศ แม้แต่เจ้าของเวปเอง) ต่างระดับการศึกษา ต่างอายุ ต่างจิตต่างใจ ต่างอารมณ์ ในการนำเสนอ กระทู้กระทบกันบ้างบางกระทู้จบไม่ลงก็ต้องพึ่งผู้ดูแลบ้าน ออกมาช่วยไกล่เกลี่ยเหมือนเด็กๆทะเลาะกันคุณครูก็ต้องออกมาชี้แจง สู้ๆๆนะ ผู้ดูแลบ้านฝากจุ๊ฟๆ สัก2ฟอด..แหะๆๆ
แล้วจากคนนั้นมาคนนี้ยื่นไมตรีมีเม้นให้ ทั้งที่ต่างจิตต่างใจนำพามารู้จักกันในโลกไซเบอร์แห่งนี้พี่สาว พี่ชาย เพื่อน น้องกัลยาณมิตรทั่วราชอาณาจักร หลากหลายผู้คนที่เข้ามาอ่านกลอน มาแนะนำมาสอนสั่ง มากระเซาเย้าแหย่ตามมิตรภาพเพื่อนสมาชิกของบ้าน จนทำให้เราได้เรียนรู้ว่า บ้านหลังนี้ต่างจากเวปอื่นๆคือ มีมารยาท ไม่มีวาจาที่ทำให้เกิดการสะเทือนอารมณ์(ตอนเข้ามาใหม่ๆนะ ...ตอนนี้ต้องคิดใหม่กับหัวใจดวงเดิมๆๆนี่แระอย่าเพิ่งอ๊วกซะก่อนล่ะ ..ฮาๆ)แต่ตอนนี้ดูเหมือนบ้านกว้างเพิ่มมากขึ้นสมาชิกก็เพิ่มมากขึ้นหลายคนมาก่อน ก็รู้จักมักคุ้นหลายคนมาที หลังก็รู้จักด้วยบทกลอน
หลายคนพยายามวิ่งวนที่จะให้เป็นที่รู้จัก พอเหนื่อยสักพักก็หายไป หายเหนื่อยก็กลับมาใหม่ มีบางคนก็พยายามทำตัวเอง ให้ดูดีมีราศีเร็วๆๆก็พยายามที่จะถีบตัวเองออกมา สู่สังคมในบ้านให้รวดเร็วแต่ยิ่งทำก็เหมือน ยิ่งเหนื่อยเพราะกระแสในบ้านตอนนี้ มันนานาสาระเสียแล้วบางกระทู้เขียนรุนแรงด้วยภาษาตรงๆคุณผู้หญิงก็รับไม่ได้ เขียนหวานๆๆก็ชอบปรบมือให้มาเม้นให้จับคู่ให้เป็นขวัญใจคู่รักนักกลอนไปเลย(โอ้ย! ทีนี้ก็แวะเวียนมาอ่านตามมาเชียร์เหมือน ดาราอย่างไงอย่างงั้น ตอนแรกก็ปลื้มมากๆๆ ! อุ้ยๆ..เรามีแฟนๆๆชอบอ่านกลอนเราด้วยเรียกให้หรูหน่อยก็ แฟนคลับอะคะ อิอิ ) แต่แล้วชีวิตก็พลิกผันโดน จับให้รับบทนางเอกคู่พระเอกม้ามืดมาทีหลัง โหย !
ชีวิตนี้อาภัพนัก..ดูจิ!จะตามไปแหย่ไปเม้น ใคร คนสวยก็แสนอันตราย โดนแฟนคลับ โดดตามไปสับประณามว่าอิฉัน (แป๊บคะขอตัวเช็ดน้ำตาก่อนนะเจ้าคะ) ดึงกระดาษทิชชูเช็ดน้ำตาปรอยๆแง้งงงงง (บทเศร้าแล้วเจ้าคะ..)โดนประณามหยามเหยียด นังผู้หญิงหลายใจมั้ง หลายรักมั้ง นังพิมพิลาไลยมั้ง น๊านนน ...เปรียบอิฉันเป็นนางในวรรณคดีเลยนะเจ้าคะ กล่าวหาว่าอิฉันเป็นนางพิมสองใจ ชอบแอบไปเม้นชายคนโน้นชายคนนี้ มีอีก นังผู้หญิงสาธารณะ..
นี่ทันสมัยหน่อย วุ้ยๆๆ ยังกะอิฉันนั่งอยู่ใต้ต้นมะขามสนามหลวงแน่ะๆๆว่าไปนู่น..เหอๆๆ (แปลกดีนะ ก็นั่งขำก๊ากๆๆหน้าคอม เออ..คิดกันไปได้หนอคนเรา) ไอ้เรารึ !จะมีเพื่อนจะไปเม้นแหย่เพื่อนในบ้านมิได้เชียวรึ!
กลุ้มใจเลยทีเดียว..ทีมะก่อนไม่มีใครต่อกลอนด้วยอิฉันก็เป็นอย่างนี้นี่เจ้าคะ ซุกซนเที่ยวเม้นหยอดพี่ๆน้องๆไปทั่ว! ยิ้ม หน้าบานเป็นจานเชิง มะเห็นใครว่าเลยนี่!น่า(เฮ้อ สับสนเจ้าคะท่านผู้อ่าน)อิฉันมิใช่ดารานิ จาได้มีข่าวฉ่าวโฉ่รายวันหน้าบ้านกลอนทุกวัน เป็นกรรมของคนสวยนะเนี่ย..เฮ้อๆๆๆๆๆหลายๆๆเฮ้อ... สงสารตัวเองจังนิ (เอามือเท้าคางนั่งหน้าเศร้าทำตาปริบๆๆหน้าบ้านกลอน) ทั้งที่ความเป็นจริงชีวิตจริงมันไม่ได้เป็นอย่างที่เข้าใจเลยตัวอิฉันเองเข้าใจว่าแฟนๆคงจะอินนะเจ้าคะบางสิ่งบางอย่างเงื่อนไขในชีวิตความเป็นจริงมันมีมากมาย อิฉันก็เอ่ยความ ตามความหมายไม่ได้เลย ต้องเก็บปิดเงียบงี้แระคะ
กระทู้ของงานอักษรศิลป์ มันสวยงามตามภาษาที่มาจากใจของคนเขียนไม่ว่างานชิ้นไหนของใครก็ตาม ต่างมีบทความกระทู้มาจากใจของตัวผู้เขียนไม่มากก็น้อย บางคนอาจจะมาด้วยรัก บางคนอาจจะมาด้วยแค้นบางคนอาจจะมาด้วยชอบ บางคนก็มาด้วยพิษรัก เราไม่สามารถไปกำหนดออกกฎตายตัวให้ใครได้ ควรอ่านเพื่อความบันเทิง( ไหนๆๆก็เสียตังค์ค่าเน็ทแล้วนี่เจ้าคะ)อ่านสักหน่อยก็ดีคะมะต้องไปเดินตามซื้อหนังสือมาอ่านให้เมื่อยขา..อิอิ ตามประสาของอิฉันแระคะ(เพื่อนมานบอกว่า! งก!นะยะหล่อนยัยพิม) 5555+ แถมได้อ่านงานที่มาจากนักเขียนเก่งๆๆทั้งนั้นเลย หายากนะคะ ที่จะเหมือนเวปไทยโพเอมเพราะต่างคนต่างที่มาต่างคนต่างที่ไปต่างคนต่างรักแต่ต่างจากคำเหล่านั้นคือต่างรู้ว่าใจใครคิดยังไง อย่าครอบงำความคิดของคนอื่น อารมณ์คนเขียนหนังสืออ่อนไหวคล้ายสนต้องลมเสมอ เหวอ ..ชักเครียดมะเอามาฟังอิฉันเมาส์ต่อดีฝ่า หุหุ (แบบว่าซ้อเจ็ดอายไปเยยยยย)เหอๆๆๆๆๆ
และด้วยบังเอิญหรือเปล่าไม่ทราบที่บางกระทู้ก็ช่างตรงกับชีวิตเราเหลือเกิน(บางทีแอบคิดนะ!แอบมานั่งในใจตูเมื่อไหร่..ฟะ5555+)กระทู้บางชิ้นก็เอาเรานั่งอ่านไปน้ำหูน้ำตาหยดแหมะๆๆฮือๆๆ (บทนางเอกเข้าสิงร่างทันที) พอประทับใจก็ไปเม้นให้ บางกระทู้ก็การเมืองอ่านแล้วพานจะจับเครื่องบินตรงไปร่วมเวทีด้วย ( โหย !เกิดอาการเลือดรักชาติรุนแรงขึ้นมาทันใด) บางกระทู้กลอนธรรมะ (อ่านไปนั่งพับเพียบเรียบร้อยก่อนนอนขออ่านอีกรอบ ปลงไปในตัว !สาธุ!) บางกระทู้เขียนคำซะ ต้องไป เปิด พจนานุกรมแปลแล้วก็ทำหน้าพยักตามไปด้วยคำว่า อ๋อๆๆ อะไรหว่า .ฮาๆ ...!เออ..อิฉันว่าจะคุยเรื่องเม้น หรือตอบคอมเม้น !เนี้ย! มันคาใจมานานแระ อะไรนักหนาเนี้ย !..เล่าความตามคอมเม้นเลยนะ เวลาเราไปเม้นเพื่อนๆมันก็เกิดอาการแบบหยิกแก้มหยอก ไปเรื่อยๆทั้งผู้หญิง-ผู้ชาย จริงจังในการเม้นแบบน่ารักน่าหยิก แต่ไม่ได้จริงจังในการจะต้องไปเม้นหาคู่ (ภาษาชาวบ้าน!หาผัว..อะคะ ..ฮา) เออ.มีงี้ด้วย
แต่ก็ถึงบางอ้อ เมื่อรู้จักสมาชิกในบ้านต่างก็แจก msn ไว้ในบ้านใครบ้านมันอยากรู้จักก็ตามมาคุยนอกรอบขนาดนอกรอบยังตามมาอีก มันบุญหรือกรรมนิ ที่มีคนมาร๊ากกกก!ได้ขนาดนี้ !เชื่อไหม ว่าไอ้ที่ไปเม้นให้นะ บางทีก็จะมีหยิกแกมหยอก อ๊ะ !ให้กาแฟหนึ่งถ้วยดอกกุหลาบหนึ่งดอก วุ้ยๆๆ เอาจริงเอาจังมากมายหาว่าเราให้ท่า ไปอ่อยผู้ชายอีก โอ้! พระเจ้า! มันเอาอะไรมาคิดกันนิ พักหลังนี่!เลิกเลยไอ้อีเมค่อนรูปดอกกุหลาบเนี่ย มอบให้ชายไหวหวั่นตาม มอบให้หญิงขืนหวั่นไหวตาม ฟ้าผ่าแน่ๆๆตู 555555+ อ่านะคุณผู้อ่านอิฉันน่ะ !ไม่เข้าใจมานุษย์ เล้ย ..เหอๆๆ
อิฉันนะเจ้าคะ ..ด้วยกิติศัพท์นามปากกาสวย รวยเสน่ห์ วาจา หวาน(อันนั้นแระ เม้นแบบ หยิกแกมหยอกแระคือสาเหตุ) มีลือกันด้วยนะคะ ว่าอิฉันสวยเลิศ ประเสริฐวจีมณีรัตนายังอายเลยเจ้าคะ(คิดกันลือกันไปด้ายเน๊อะ ..คิกคิกๆๆ)ก็มีบ้างแอบยิ้มอะคะ แบบว่ามีคนชมเรา..อิอิ (ว้า!ตอนนี้! อิฉันเขียนไปยิ้มไปนะเนี่ย! ไม่ค่อยบ้ายอเท่าไหร่หรอกคะ..ฮา ๆ) นี่เลย ทำให้เหล่าบรรดา หญิงแท้แม้ไม่ได้ใกล้ชิดกับอิฉันก็เกิดอาการหมั่นไส้อิฉัน หลายคน ( คงประมาณบ่นในใจ ยี้..ยัยนี่ .ชะนีชัดๆ..ฮา) ว่ากันไปคะแล้วก็ อันชายรูปงามในบ้านกลอน ก็นับเรียงคนได้นะเจ้าคะ (แบบว่ามันหายากอะคะผู้ชายในบ้านอะ) เลยทำให้เหมือนเหล่า ชะนี อย่างอีชั้น !เฮ้ย ! เทพธิดานารี แหะๆ กำลังจ้องมองเทพบุตรไงงั้นเลยนะเจ้าคะ !เพราะว่าคารมดี มีงานศิลป์เป็นทาง ตามอ่านคำหวานทุกวัน ก็ทำเอาใจแป้วได้นะเจ้าคะ..อิอิ...ในหน้ากลอนมีหึงมีหวงมีตามจิกตามเรียก..อุ้ย!มันเพคะบางช่วง..
(ได้ข่าวแว่วๆ) มีตามหึงตามหวงนอกรอบแน่ะคะ..ยิ่งกว่าละครน้ำเน่าอีก อันนี้คอนเฟิร์มเจ้าคะเพราะอิฉันเจอมาแล้ว..ช่างเถอะคะเรื่องมันแล้วก็แล้วไป..(แต่อย่าวกกลับมาอีกแล้วกัน คราวนี้มีให้ดอกกุหลาบเจ้าปัญหาแน่คะ..5555+) ที่น่าสงนสนเท่ห์เนี่ยสิ พวกเม้นแล้วตามจิก บางคนน่าสงสารนะเจ้าคะ ไม่มีจรรยาบรรณของคนจริง แน่จริงเม้นใส่ชื่อนามสกุลเลยสิ จะได้รู้ว่าคนจริง(บางทีก็แอบสงกะสัยอะ!น๊า) ไอ้คนนี้มัน ต้องเป็นใครสักคน ในบ้านกลอนที่มัน หมั่นไส้ทุกขดของอิฉันอยู่อะคะ..มีกี่ขดขุดออกมารู้หมดเลยนะเนี่ย..อิอิ รักกันถึงไส้นี่น่าแจกดอกกุหลาบสัก3 ดอกนะเจ้าคะ 555+ แถมจุ๊บๆๆด้วยคงดีนะเคอะ เหอๆๆ. เออ..มีคนถามอิฉันว่าหากให้เป็นดอกไม้อยากเป็นดอกอะไร อิฉันก็ตอบว่า ชีวิตอิฉัน นอกจากฟ้า พระจันทร์ ตะวัน ดวงดาว อิฉันก็ชอบดอกไม้นะ(ก็เปงผู้หญิงนิ ออกจะเรียบร้อย) อิฉันว่ามีคนบางคนนั่งสำลักอยู่นะเนี่ย..อิอิ เพราะโดนด่าประจำเปงลิงเปงค่าง ตอนนี้เรียกใหม่นะเพื่อนรัก ( นัง..ชะนี ฮาๆ ) ภูมิใจมากยืดอกรับเพราะหากอิฉันเป็นชะนีพวกคุณเธอทั้งหลายก็เป็นเหมือนอิฉันอะคะ เพราะอิฉันก็มีเหมือนๆๆกันกะพวกหล่อนแระยะ 5555555+หรือไม่ใช่ถอดเสื้อผ้าออกดูดิ..แน่จริงอะป่าว555+(ออกแนวเรทอาร์แระ)เดียวก็เจอดีอีกหรอก5555+
ถึงไหนแล้วละ อ๋อ ! อิฉันก็อยากเป็นดอกกุหลาบ เพราะดอกกุหลาบคือราชินีแห่งมวลดอกไม้ทั้งโลก (ประมาณนั้นนะ)สวยมีหนามคม ยากที่ใครจะเด็ดมาดอมดมได้ง่าย เสน่ห์คือความสวยบวกหนามแหลมคมคือความฉลาด บวกตำแหน่งราชินีดอกไม้ โอ้ย..โหย่ อิฉันอะชอบมั่กๆๆเจ้าคะ จะเป็นราชินีดอกไม้ (สังเกตไหมแจกดอกกุหลาบทีไรเรื่องวุ่นๆตามมาไม่หยุดหย่อน) ก็แค่อยากเป็นอะคะ..คิกๆ (ต้องหัวเราะแบบนางเอกไว้ก่อน..)เดียวไม่สวย..เสียชื่อนางเอกหมด (นางเอกจำเป็น)
หากเป็นเช่นนั้นอิฉันก็คงต้องบอกว่า บทกลอนก็คือบทกลอนอย่าเอาความรู้สึกส่วนตัวมาปะปนเวทีชีวิตยังอีกยาวไกล เวทีชีวิตจริงต่างจากเวทีในบ้านกลอนที่เราต่างแสดงความรู้สึกออกมาแฉกัน ลองให้มาจับเข่าคุยกันข้างนอกสิ ไม่มีใครอยากจะแฉหรอกเพราะ(อาย) ไม่ไว้ใจหากเป็นตัวหนังสือแล้ว ไม่มีใครรู้จักเรานิ เขียนยังไงก็ได้ ด่าใครก็ได้ ชมใครก็ได้ สารพัดจะแสดงออก บางคนในบ้านกลอนจ้อๆๆๆๆไม่หยุดเจอตัวเป็นๆเงียบเหมือนใครปิดปากไว้ ง้างปากให้พูดยังไม่พูด (พวกเก็บกด อะคะ) อิอิ
แต่สำหรับ อิฉันรับรองจ้อจนลิงหลับยังได้เลยคะ อิอิ.. แล้วเรื่องไอพงไอพีนี่อีกนะเจ้าคะ คนเม้นอะคะ จะรู้เลยว่าใครมาเม้นเราไม่ต้องใช้นามแฝงหรอกคะ หากคุณเอาชื่อนามปากกาของคุณมาเม้นรับรองว่าจะมีศักดิ์ศรี มีน้ำหนักในคำพูด ที่น่าคล้อยตามขึ้นอีกเยอะเลยคะ อย่ามานามแฝงเพราะถ้าเราเอาไอพีไปหาในกูเกิล แล้ว ตรงกับใครน่าอายจังเลยคะ(ตอนนี้จับได้แระ2-3คนก็คนกันเองในบ้านกลอนอะ อายแทนเลยเจ้าคะโตๆๆกันแล้วยังทำเหมือนตัวอิจฉาอีก กำจริงๆๆเสีย!สุนัขไปเลยอะคะ..แหะๆ! อันนี้ !อิฉันมิได้ระบุใครนะเจ้าคะ ใครร้อนตัวก็ขอกราบพระอภัยมณีด้วยเพคะ
ชักหิวแระ ซ้อพิมเห็นทีต้องไปแระคะ แบบว่านัดซ้อเจ็ดจาไปดูหนัง ที่มีคุณค่ามีสาระ" หนึ่งใจเดียวกัน" อะคะ ใครจะตามมาดูก็ได้นะคะ ออกค่าตั๋วหนังเองนะเจ้าคะ..หุหุ
ปล.ลืมบอกสถานที่ไปอะ เซ็ลทรัทลาดพร้าวนะเจ้าคะ..เอาตั๋วที่นั่งใกล้ๆๆซ้อพิมนะเจ้าคะจะได้ แอบฟังซ้อพิมกะซ้อเจ็ดแอบคุยกัน..555555+
อ้อ..ให้รางวัลใครอ่านจบเป็นดอกกุหลาบช่อ 1 ช่อนะเจ้าคะ
ขอเม้นด้วย..หากติดใจจะได้เขียน บ้านนี้ที่ฉันร๊ากกกกกกกอีกปีที่เชียงใหม่อะเจ้าคะ..แบบว่าพิมเตรียมจอง พื้นที่กาดสวนแก้วแถลงข่าวใหญ่โตเลยเจ้าคะ