3 กันยายน 2552 15:44 น.
พิมญดา
ชั่วเจ็ดทีดีเจ็ดหนบนทางเดิน
ใครจะเมินกล่าวหาอย่าท้อถอย
เอาชนะใจตัวอย่ามัวลอย
ปากกากร่อยไร้หมึกนึกให้ดี
ใครจะอวดภูมิรู้ปล่อยเขาเถิด
ใครจะเกิดจะตายกลายเป็นผี
ปล่อยแต่เวรแต่กรรมใครพึงมี
ใครจะขี่หัวคน..บนเรือนชาน
เขาจะปิดจะเปิดเชิดหรือหยิ่ง
อย่าสูงสิงเย้าแหย่แพร่ข่าวสาร
ก้มหน้าเป็นทาสกลอนอ้อนบนลาน
สั่งประหารจะไร้สิทธิ์คิดเว้าวอน
วาสนาด้อยนักรักนางทาส
ช่างอนาถบาดใจในอักษร
ประสงค์ดีกลับกลายพ่ายสั่นคลอน
จะกินนอนอ่อนใจกระไรนา
จงทำตัวเช่นข้าทาสในเรือนเบื้ย
อย่าคุ้ยเขี่ยฝุ่นผงบ้านใครหนา
จงตั้งใจทำงานตามบัญชา
อย่าทายท้าเจ้านายหมายงานงาม
จงเป็นทาสด้วยใจให้กล้าแกร่ง
เมื่อถูกแบ่งเส้นสายคล้ายเหยียดหยาม
ศักดินาแห่งใจอย่าใฝ่ตาม
อึ่งอ่างพล่ามเบ่งลม..จะตรมเอง.
1 กันยายน 2552 20:56 น.
พิมญดา
นั่งเขียนกลอนพออ่านได้ใช่เจนจัด
บางครั้งขาดสัมผัสถนัดเสียง
เก็บเอาประสบการณ์มาร้อยเรียง
ดำน้ำเสี่ยงเขียนไปใจต้องการ
เป็นนักกลอนขาดลูกบิดคิดงานช้า
จับปากกาจรดถ้อยร้อยไขขาน
หวังบางใครถ้วนทั่วมาวิจารณ์
เปิดมาอ่านแล้วยิ้มก็อิ่มใจ
เขียนกลอนพออ่านได้ใช่คนเก่ง
ไม่อวดเบ่งอวดโตโอ่ที่ไหน
ชอบสร้างฝันปั้นกลอนอ้อนพิไล
เหมือนจับไมค์ร้องเพลงเต้นให้ฟัง
คงไม่กล้าเทียบกวีที่งานงาม
ได้แต่ตามเขียนไปใจมันสั่ง
มีเรื่องราวสุข-ทุกข์ สุมประดัง
จึงรินหลั่งหลายร้อยบทจดไม่ทัน
จึงขอมอบกลอนนี้ก่อนนิทรา
หากใครเห็นนอกสายตาอย่าเก็บฝัน
หากใครรักขอเม้นตอบจะกอดพลัน
มาแบ่งปัน..เวทีกลอนก่อนฝันดี