29 สิงหาคม 2551 21:22 น.
พิมญดา
พระบรมราโชวาท เมื่อวันที่ 2ธันวาคม 2550 พระองค์ทรงเคยเตือนสติว่า
ประเทศ ของเราไม่ใช่ประเทศ ของ 1 คน 2คน เป็นประเทศของทุกคน เข้าหากัน ไม่เผชิญหน้ากันแก้ปัญหาเพราะปัญหาที่มีอยู่ที่เวลาคิด จะใช้คำว่าบ้าเลือด เวลามีคน การปฏิบัติรุนแรงมันลืมตัว ลงท้ายเขาไม่รู้ว่าตีเพราะอะไร เพียงแต่ว่า จะคิดเอาชนะ แล้วใครจะชนะ ไม่มีทาง อันตรายทั้งนั้น มีแต่แพ้คือต่างคนต่างแพ้ ผู้ที่เผชิญหน้าก็แพ้ แล้วที่แพ้ที่สุดก็คือประเทศชาติ ประชาชนจะเป็นประชาชนทั้งประเทศ ไม่ใช่ประชาชนเฉพาะกรุงเทพมหานคร เสียหายไป ประเทศก็เสียหายไปหมด แล้วจะมีประโยชน์อะไรที่จะทะนงตัวว่าชนะ เวลาอยู่กองซากปรักหักพัง
...อดทนไว้...
อดทนไว้พี่น้องไทยในความต่าง
แผ้วถางทางสามัคคีดีกว่าไหม
มาน้อมรับคำพ่อหลวงปวงชาวไทย
ชาติยิ่งใหญ่ล่มสลายใครช่วยชู
อดทนไว้ชาติเสียหายกันทุกฝ่าย
หากวางวายก็เลือดไทยกันทุกผู้
เราคนไทยคือไทยใช่ศัตรู
ขอให้อยู่อย่างสงบอย่ารบกัน
อดทนไว้ในความต่างทางความคิด
จะถูกผิดค่อยค่อยคิดอย่างสร้างสรรค์
อย่าผลีผลามใช้สติดำริพลัน
ชาติจะสั้นขวานจะบิ่นถิ่นไทยงาม
อดทนไว้อย่าทำให้เลือดไทยหลั่ง
ประวัติศาสตร์พินาศพังฝังสยาม
เคยรุ่งเรืองเลื่องชื่อระบือนาม
คนเกรงขามฤาจะปล่อยย่อยยับไป
ฟังคำสอนของพ่อขอใคร่ครวญ
อย่าเพิ่งด่วนก่อการณ์งานยิ่งใหญ่
ขอยึดมั่นในประชาธิปไตย
จงร่วมใจร่วมรักสามัคคี...........
*******************************************
28 สิงหาคม 2551 18:57 น.
พิมญดา
ทรมานเหลือเกินเผชิญช้ำ
ฝังใจจำคำว่ารักจนหนักหน่วง
โลกสลายหวังทลายพ่ายทั้งปวง
เจอคำลวงหลอกหลอนซ้อนหัวใจ
ทรมานมานานเนาเหงาเรื่อยมา
อาบน้ำตาอยู่ทุกวันฝันไม่ไหว
ภาพสีหม่นหนทางรักร้างลาไกล
จมสายใยแห่งความช้ำกรำเรื่อยมา
สายลมฝนคนช้ำหนักรักห่างหาย
สิ้นความหมายสิ้นเยื่อใยคนไร้ค่า
เขายิ้มรื่นเราขมขื่นกลืนน้ำตา
เหมือนเขาฆ่าฉันตายพ่ายทั้งเป็น
เขาเป็นสุขแต่เราโศกโลกดับแสง
อยากแสดงฉันเข้มแข็งให้เธอเห็น
รู้หรือไหมทำไม่ได้มันยากเย็น
แอบซ่อนเร้นน้ำตาตกหัวอกพัง
ทรมานเหนื่อยหนักรักพังพาบ
แผลขนาบเยินยับดับความหวัง
รักหนอรักผลักให้สุขทุกข์จีรัง
ปล่อยมันฝังไว้นานเนิ่นเกินเยียวยา.....
27 สิงหาคม 2551 13:04 น.
พิมญดา
หัวใจน้อยมีรอยแผลแพ้รักร้าง
ความเหินห่างทำเอาเจ็บเก็บรอยช้ำ
ดวงใจแยกแตกสลายเพราะชายทำ
เชื่อน้ำคำคำสัญญามานานเนา
เริ่มแต่ก่อต้นรักใจดวงน้อย
หทัยคอยถนอมไว้ ไร้ความเหงา
พอมีใครอีกคนตามเหมือนเงา
เธอเลือกเขาทิ้งฉันตรมขมหัวใจ
น้ำตาหยดรดหมอนนอนสะอื้น
แทบทุกคืนข่มอารมณ์ทนไม่ไหว
เจ็บเอ๋ยเจ็บมันหนาวเหน็บเก็บข้างใน
รักแล้วได้ผลตอบแทนแสนช้ำทรวง
อยากตัดใจตัดเท่าไหร่ใยไม่ขาด
พิศวาสบาดซ้ำรอยคอยแต่หวง
ไม่ยินยลสิ่งรอบกายหน่ายทั้งปวง
จมติดบ่วงพิษรักร้าวเศร้าชีวา
เหม่อมองฟ้าคราสีสวยด้วยตาหม่น
น้ำตาหล่นไหลอาบแก้มแสนเหว่ว้า
กอดตัวเองทุกค่ำคืนกลืนน้ำตา
มันปวดปร่าแทบสิ้นลมจมรักตาย...
24 สิงหาคม 2551 11:53 น.
พิมญดา
ฉันไม่ใช่เจ้าหญิงผู้สูงศักดิ์
แต่มีรักยิ่งใหญ่ให้เสมอ
ฉันใช่หญิงที่สวยจนเลิศเลอ
ฉันมีเธอคนเดียวเกี่ยวฤทัย
ฉันไม่มีเวียงวังดั่งเจ้าหญิง
แอบซบอิงกระท่อมน้อยคอยอาศัย
ยามเดือนดาวสกาวฟ้ามาคราใด
แนบอุ่นไอในห้วงฟ้าดารางาม
ฉันคงไม่สามารถใส่ชุดสวย
ไม่มีทรัพย์สินอำนวยจนล้นหลาม
นุ่งผ้าถุงเสื้อเก่าเก่าเฝ้าเย็บดาม
แต่งตัวงามตามวิถีที่บ้านนา
ฉันไม่ใช่เจ้าหญิงในนิยาย
คงไม่หมายเอื้อมมือเด็ดดอกฟ้า
เผ่าพงศ์ฉันไม่ใช่หงส์อยู่ดงกา
สาวบ้านนาคงไร้สิทธิ์คิดห่วงใย
ฉันไม่ใช่เจ้าหญิงที่เลอเลิศ
รักที่เกิดเพราะความดีที่ยิ่งใหญ่
ขอรักเธอทั้งหมดของหัวใจ
เธอคงไม่หนีหน้าต่อว่ากัน
ฉันไม่ใช่เจ้าหญิงบนหอคอย
รอเจ้าชายมาสอยคอยแต่ฝัน
ฉันแค่คนธรรมดาค่าสามัญ
พิเศษนั้นฉันฝันเพียงเคียงคู่เธอ
20 สิงหาคม 2551 11:34 น.
พิมญดา
เขียนจดหมายจากใจใต้แสงดาว
ส่องสกาวพร่างพราวคราวจันทร์ฉาย
ตะเกียงน้อยทอแสงนวลชวนพระพาย
ลมหนาวคล้ายมาเยือนเตือนใจมา
หยิบกระดาษสีเหลืองงามอร่ามนัก
เขียนสลักว่าคิดถึงจึงส่งหา
ไม่อยากพิมพ์เมล์ให้กลัวไกลตา
เน็ทไม่มาเวลางานกลัวผ่านไป
ยิ้มก่อนหนาเวลาเปิดซองอ่าน
ส่งตาหวานเชื่อมดวงดาวพราวสดใส
บอกสักนิดคิดถึงหน่อยจะเป็นไร
ถักทอใยอักษราไม่น่าเชย
จะเขียนส่งไฮไฟส์อายคนอื่น
คงแตกตื่นที่ฝากรักกันเปิดเผย
จะโทรบอกกลัวว่าจักอ้ำอึ้งเลย
คนไม่เคยไฉนเลยจะเอ่ยคำ
พรรณนาเนื้อความในใช่แสดง
คำแจกแจงใช่แกล้งรักให้ใจช้ำ
ตัวอักษรตั้งใจเขียนเตือนความจำ
ท้ายจดหมายยังช่วยย้ำคำสัญญา
ขึ้นต้นด้วยถึง ที่รักที่คิดถึง
คำซึ้งซึ้งส่งด้วยใจปรารถนา
ลงท้ายด้วย..ความห่วงใยทุกเวลา
ป.ล.ว่า..รักเท่าฟ้าคุณคนเดียว.......