29 มิถุนายน 2551 10:23 น.
พิมญดา
เอาคำถามมาต่อถ้อยร้อยเหตุผล
เหตุอันใดใจของคนสับสนนัก
วานนี้รักวันนี้ลืมอาการหนัก
โลกของรักช่างวุ่นวายคล้ายเล่นกล
หรือเอาลมปากเปล่ามาเล่าขาน
คอยสาบานต่อดินฟ้าพาสับสน
รักเท่าฟ้ารักกานดาพายิลยล
พอสมเหตุสมผลคนโลเล
ดอกไม้สวยแต่ว่าเธอสวยยิ่งกว่า
พรรณาทั่วพื้นฟ้ามากล่อมเห่
คำชวนฝันยิ่งกว่าพระเอกลิเก
คนร้อนเล่ห์หาอุบายหมายใจนาง
โทรทั้งเสียงเรียงคำอ้อนก่อนนิทรา
ชี้ชวนชมจันทร์ดารา อุษาสาง
ความคิดถึงไม่เคยกั้นระยะทาง
ถึงอ้างว้างเสียงแนบข้างนางฝันดี
ส่งเมล์หายามกลับมาอ่านเสียก่อน
อย่าอาวรณ์จะกินนอนอาลัยพี่
ไม่เคยเลยจะคิดนอกใจนารี
ขอคนดีเชื่อใจกันไม่ผันไกล
อุปมาอุปไมยกันร้อยเรื่อง
หวานจนเลื่องลือกันวันฟ้าใส
เพื่อนเย้าแหย่คำก็รักดั่งดวงใจ
เหตุผลไหนหรือจะขัดตัดเยื่อใย
พอสมใจได้ทุกสิ่งมีหญิงอื่น
รักเคยชื่นบอกขอคืนจะได้ไหม
คำสัญญาขอโทษเธอแค่เผลอไป
ก็เมื่อใจแบ่งเป็นสองต้องร้างลา
นี่คือเหตุและผลคนทิ้งกัน
คำใดอันออกจากปากยากเชื่อหนา
ร้อยพันคำที่เสกสรรค์ปั้นออกมา
มันไร้ค่ากลายเป็นศูนย์ทุนละลาย
เหตุผลฟังพิกลคำหนึ่งนี้
เธอคนดีเกินไปฉันใจหาย
หรือต้องเลวก่อนดีไหมค่อยกลับกลาย
โธ่..ผู้ชายสันดานเลว.เลี้ยวได้ใจ...
.........*-*...........
28 มิถุนายน 2551 19:07 น.
พิมญดา
ฝนกระหน่ำตกลงมาอย่างบ้าคลั่ง
รักคงพังเหมือนกันเลยใช่ไหม
ถึงคร่ำครวญหวนไห้อย่างอาลัย
ตกมากลางหว่างใจใครอีกคน
ฝนจ๋าฝนข้าก็คนโดนเขาทิ้ง
เหมือนทุกสิ่งพังสลายพ่ายสับสน
ดั่งคมมีดกรีดฤทัยในกมล
น้ำตาหล่นไหลอาบแก้มแสนช้ำใจ
น้ำฝนไหลน้ำตาหลั่งคลั่งในอก
เหมือนคนตกนรกที่หมกไหม้
ใจมันสุมด้วยเพลิงรักปักทรวงใน
ฝนอย่าไกลช่วยดับไฟหทัยที
ฝนช่วยล้างเงาคนที่ลวงหลอก
ไหลผ่านออกนอกฤทัยใจดวงนี้
สู่มหาสมุทรด้วยยิ่งดี
วินาทีต่อนี้ไปบอกใจพอ
ฝนจ๋าฝนข้าขอบนฟ้าฝนสั่ง
อย่าชิงชังคนมีกรรมจำร้องขอ
ทุกคืนค่ำนอนระกำน้ำตาคลอ
ฝนอย่ารอ..ช่วยล้างใจ..ให้หายพลัน. ...
27 มิถุนายน 2551 08:32 น.
พิมญดา
ฤดูกาลผันผ่านนานเหลือเกิน
จมอยู่กับความห่างเหินเกินใฝ่หา
สู้โดดเดี่ยวคอยเกาะเกี่ยวกาลเวลา
ผ่านช้าช้าม่านน้ำตายังพร่าพราย
ยามลมหนาวเวียนวนทนหนาวเหน็บ
สู้ทนเก็บความเจ็บช้ำนานคงหาย
กอดตัวเองจมรักเหงาเศร้าเดียวดาย
สิ่งสุดท้ายที่เหลืออยู่คู่กับใจ
ยามร้อนผ่านวนมาครารักร้าง
มองหน้าต่างใบไม้ร่วงทรวงหวั่นไหว
คิดถึงรักเคยผลิดอกออกเยื่อใย
แต่บัดนี้ร่วงหล่นไกล..ไม่หวนคืน
ยามฝนมายิ่งนำพาน้ำตาริน
มองฟ้าดินถวิลหาพาใจฝืน
รักเอ๋ยรักเจ้าทำไมไร้จุดยืน
ปล่อยฉันกลืนความเจ็บช้ำนำชีวี
ฤดูไหนติดบ่วงใจไม่ห่างหาย
ไร้จุดหมายไร้ทางไปในทุกที่
ฝนจะตกแดดจะออกไม่ยินดี
แผลร้าวนี้ทุกนาทีมีแต่ตรม.......
25 มิถุนายน 2551 15:00 น.
พิมญดา
กอดตัวเองทุกครั้งยามหวนคิด
ถึงความผิดพลาดอดีตขีดใจช้ำ
โดนเล่ห์รักหลอกลวงบ่วงระกำ
จมถลำแผลร้าวลึกผนึกทรวง
อยู่อย่างคนไร้หัวใจไปวันวัน
ไม่มีฝันของเงารักให้ห่วงหวง
ไม่มีแสงเงาราตรีที่เด่นดวง
มองทุกช่วงมืดสนิทปิดฤทัย
เฝ้าแต่รอเมื่อไหร่หนอขอสิ้นเวร
จบเรื่องรักเหลือเดนอย่าหวั่นไหว
หรือต้องสิ้นลมจากโลกใบนี้ไป
อยู่อย่างไรให้มีหวังดั่งเคยมี
ฉันเคยยิ้มให้ตะวันยามเช้าตรู่
แต่ตอนนี้มุดรูอยู่กลัวแสงสี
เคยมองโลกสวยงามตามฤดี
แต่ตอนนี้สิ้นแสงสีมีแต่ตรม
กอดตัวเองพอประทังลมหายใจ
กอดเอาไว้บอกกับใจอย่าขื่นขม
รอวันหนึ่งหวังจะฟื้นคืนระทม
ถ้าไม่ล้ม.ดับชีวีพลีรักเอย.. ...
24 มิถุนายน 2551 17:55 น.
พิมญดา
แหงนมองดาวพร่างพราวบนราวฟ้า
ดวงจันทราแจ่มใสไร้หม่นหมอง
ยามพระพายโชยพริ้วแผ่วแว่วทำนอง
เพลงรักล่องลอยไกลใจรำพัน
โอ้ดาวเอ๋ย ช่วยเฉลยเอ่ยคำไข
ว่าคนไกลที่คอยรอต่อความฝัน
บอกด้วยว่าข้าคิดถึงเขาเหมือนกัน
ทุกคืนวันที่ปลายฟ้าข้ายังคอย
ดอกราตรีหอมหวลชวนคิดถึง
รักตราตรึงไม่มีลดเลยสักน้อย
เหม่อมองฟ้าเจ้าดวงแขแลตาปรอย
บอกคิดถึงเขาบ่อยบ่อยอย่าน้อยใจ
คืนราตรีประดับดาวสกาวพร่าง
ใจนวลนางเหงานักจักหวั่นไหว
เกรงจะลาลับร้างคราห่างไกล
ส่งเยื่อใยข้ามขอบฟ้าดารานำ
ดอกราตรีหอมแซมแก้มนวลน้อง
คอยประคองสองปรางมิให้ช้ำ
ค่ำคืนนี้ใจสาวร้าวระกำ
ส่งน้ำคำมาอ้อน...เมื่อค่อนคืน.......*-*