15 กรกฎาคม 2551 08:21 น.
พิมญดา
แสนเสียดายเวลาผ่านมานัก
คนเคยรักรักกันขั้นหมั้นหมาย
ให้สัญญาจะรักมั่นจนวันตาย
แต่กลับกลายรักมาล่มจมน้ำตา
หรือจะเป็นกรรมเก่าเราเคยก่อ
ส่งผลต่อรักชาตินี้มีปัญหา
จะรักใครโดนลวงหลอกตลอดมา
กินน้ำตาแทนข้าวทุกคราวคำ
หากชาตินี้ฉันติดหนี้อะไรไว้
ขอชดใช้ด้วยน้ำตาคราชอกช้ำ
ไม่ติดใจเอาอะไรกับน้ำคำ
อโหสิกรรมฉันทีจะหนีไกล
คำสัญญาสาบานผ่านฝากฟ้า
มันสูญค่าเสียเวลาพาเหลวไหล
เก็บไปเถอะมันเลอะเทอะเปรอะหัวใจ
ไม่ชาตินี้ชาติไหนอย่าได้เจอ
ปล่อยเธอไปกับคนใหม่ใจยอมเจ็บ
ก็เธอเก็บความสองใจไว้เสนอ
หากเขาดีมากกว่าฉันเชิญเลยเธอ
ชาตินี้เจอกันครั้งเดียวไม่เหลียวมอง....
14 กรกฎาคม 2551 07:46 น.
พิมญดา
เธอคือเทียนส่องใจฉันยามมืดมิด
เธอคือสิทธิ์ของใจยามฉันเหงา
เธอคือแสงสว่างมาเลือนเงา
เธอคือเราที่ต้องเอ่ยเผยเรียกกัน
ฉันมีเธอเหมือนมีแสงส่องนำทาง
ยามอ้างว้างคอยมาแบ่งแสงแห่งฝัน
ยามฉันท้อเธอคอยต่อแรงใจพลัน
ยามโศกศัลย์เธอคอยปลอบตอบเรื่อยมา
ต้องเวียนว่ายวุ่นวายในโลกนี้
เธอคนดียังบอกฉันยิ้มเถิดหนา
หากล้มแล้วลุกสู้ใหม่ได้ทุกครา
น้องกานดาอย่าเพิ่งล้าพาอ่อนแอ
หนึ่งคำห่วงพ่วงคำรักหนักแน่นยิ่ง
เพราะทุกสิ่งที่มอบกันมั่นใจแท้
อยากให้รักเราคงอยู่ไม่ผันแปร
จวบจนแก่จนเฒ่าเราสองคน
เธอคือฝนยามฉันแห้งแล้งในจิต
ยามถูกผิดไม่เคยซ้ำทำสับสน
เกิดมาแล้วต้องพลาดพลั้งบ้างหน้ามน
ขออดทนจับมือกันฝันต่อไป...
13 กรกฎาคม 2551 08:24 น.
พิมญดา
ค่ำคืนนี้..มีดวงดาวนับล้านดวง
อยู่ในห้วงแห่งราตรีมีจันทร์ฉาย
มีดาวหนึ่งยังเงาวับจับประกาย
คือดาวใจคิดถึงคุณอุ่นทุกครา
ค่ำคืนนี้..ดวงดาราพากระซิบ
พราวระยิบสะกิดใจให้หา
ฝากคำพร่ำย้ำคำรักก่อนนิทรา
แม้อยู่ห่างครึ่งฟ้าห่วงหากัน
ค่ำคืนนี้..ถึงจะมีดาวมากมาย
แต่คุณคือดาวประกายในใจฉัน
รู้บ้างไหมฉันยืนเหงาใต้เงาจันทร์
คิดถึงคุณทุกวันฝันทุกคราว
ค่ำคืนนี้..หากมีเราเพียงสองคน
ดวงกมลคงสุขล้นชมห้วงหาว
หากคืนนี้ได้แนบชิดสะกิดดาว
น้ำค้างพราวโอบสองเราหนาวละมุน
ค่ำคืนนี้..มีบทเพลงบรรเลงแว่ว
ลอยลมแผ่วสัมผัสใจให้อบอุ่น
ส่งความรักความภักดีมาถึงคุณ
โปรดการุณสาวคนไกล.ในเวียงพิงค์
10 กรกฎาคม 2551 08:50 น.
พิมญดา
ร้อยดอกแก้วจากดอยสูงเสียดฟ้า
ข้ามนภาฟ้าไกลนะใจเอ๋ย
เที่ยวเสาะหาใครคนหนึ่งซึ่งคุ้นเคย
ลมลำเพยหอบรักจากหัวใจ
เสียงซึงแว่วลอยมาคราลมแผ่ว
ร้อยดอกแก้วขาวนวลชวนหลงใหล
ส่งกลิ่นหอมยั่วยวนป่วนฤทัย
ฝากลอยไปให้ถึงซึ่งอีกคน
สร้อยดอกแก้วงดงามบริสุทธิ์
สวยผ่องผุดสดใสไร้หมองหม่น
สวมดอกสร้อยร้อยด้วยรักปักกมล
รอใจคนอยู่แสนไกลในแววตา
ด้วยแรงรักแรงคิดถึงจึงขานไข
ร้อยดวงใจจากทุกห้วงเสน่หา
ถักทอถ้อยร้อยอักษรตลอดมา
อักษราภาษาสวยด้วยกลอนกานท์
สุดขอบฟ้าหาใช่กั้นความพันผูก
ยังคงปลูกดอกแก้วร้อยสร้อยประสาน
หวังวันหนึ่งว่าดอกรักคงเบ่งบาน
เป็นตำนานของสาวคอย"สร้อยดอกแก้ว