27 กรกฎาคม 2551 20:56 น.
พิมญดา
หัวใจฉันมันมักง่ายอยากขายขาด
คอยแต่บาดอารมณ์คนจนหวั่นไหว
เที่ยวซุกซนลอยลมบนอยู่ร่ำไป
ดื้อนักใจชอบทักทายใครเรื่อยมา
ถึงหัวใจจะมักง่ายใช่หลายรัก
ลองสมัครมาดูได้ใช่ยักษา
มีหลายคนบ่นให้ฟังจนระอา
เลือกสักคราเถิดน้องเจ้าเฝ้ากลมเกลียว
หัวใจนี้ลองพิสูจน์ดีไหมเอ่ย
มาเฉลยว่าสีแดงหรือสีเขียว
ใจยังว่างแม้ช้ำบ้างร้างเลยเชียว
ใครอย่าเที่ยวว่าระคายใจง่ายจัง
ทักคนโน้นชมคนนี้ไมตรีตอบ
ไม่เคยมีออกนอกรอบมอบความหวัง
รักกันไว้ดีกว่าเกลียดเครียดชิงชัง
ดั่งฟ้าสั่งสวรรค์ส่งลงมาเจอ
หัวใจฉันดั่งมีกรรมนำคำสาป
เคยเลือดอาบจากคมรักผลักยามเผลอ
เลยกล้ากล้ากลัวกลัวคนละเมอ
มาทำเบลอแบบรักแถบแนบกานท์กลอน
หัวใจฉันคล้ายดั่งผึ้งดึงความหวาน
เปิดตำนานหวานกวีศรีอักษร
ชอบทายทักใช่เร่รักทุกบทตอน
พึงสังวรด้วยรู้ตัวทั่วพร้อมเอย........
^-^=เบลอรักแถม=แบบรักเธอ^-^
25 กรกฎาคม 2551 09:33 น.
พิมญดา
มองผืนฟ้าเอาปากกาจรดถ้อย
กระดาษน้อยคอยบันทึกผนึกรัก
จดเท่าไหร่ยังไม่พอจึงตระหนัก
แท้ก็รักเราใหญ่กว่าฟ้าเบื้องบน
ก้มลงมองผืนดินขีดเส้นสาย
วาดลวยลายคล้ายเส้นความสับสน
ขีดเท่าไหร่ก็ไม่พอหนอใจคน
มันวกวนกลับไปมาว่ารักเธอ
ขอตั้งจิตอธิฐานต่อดินฟ้า
ปรารถนารักแต่เขาเฝ้าเสนอ
รักเหมือนฟ้ารักดินจินต์บำเรอ
ฉันรักเธอคนเดียวเกี่ยวหัวใจ
ขอฟ้าดินเป็นพยานผ่านรักนี้
โปรดปราณีดลรักสาวสกาวใส
นอนอาดูรทุกทิวาหาคนไกล
รักจากใจดั่งดาวเรียงเคียงจันทรา
ฟ้าคือฟ้าดินคือดินครองคู่โลก
มองคนโศกมองคนสุขสุดเวหา
หากเทียบกันกับฟ้าดินสิ้นเวลา
นั่นแหละค่าแห่งรักจักสิ้นลง........
24 กรกฎาคม 2551 09:11 น.
พิมญดา
เอาหัวใจร้อยใส่ด้ายลายผ้าปัก
แล้วสลักว่ารักเธอสีสวยใส
ผ้าเช็ดหน้าแทนคุณค่าเวลาไกล
สานสายใยให้คำนึงถึงรักเรา
เอาใจร้อยถ้อยอักษรด้วยคิดถึง
ผ้าผืนหนึ่งคงแทนค่าเวลาเหงา
หากพี่เหนื่อยก็ซับเหงื่อพี่เบาเบา
ถนอมเอานะพี่มีผืนเดียว
ร้อยผ้าสวยด้วยรอยรักสลักจิต
รอยลิขิตนิมิตหมายให้เฉลียว
ผ้าผืนน้อยร้อยฝีมือน้องเลยเชียว
พี่อย่าเที่ยวปันใจให้ใครชม
ก่อนจะส่งน้องบรรจงจูบรับผ้า
แนบอุราส่งใจห่อขอสุขสม
กลิ่นเนื้อนวลหอมติดผ้าคราพี่ชม
อย่าหลงลมสาวเมืองฟ้าบ้านนาคอย
น้องจะรอพี่กลับนามารับขัวญ
ขอพี่หวนกลับบ้านเราที่เหงาหงอย
สาวบ้านนายังรอพี่อย่างเลื่อนลอย
เอียงแก้มคอยร้อยผ้าปัก..รักจากใจ..
22 กรกฎาคม 2551 22:24 น.
พิมญดา
หวานใดเท่าหวานใจไหนเท่ารัก
หวานประจักษ์ยามคนรักไม่ห่างเหิน
หวานน้ำตาลยังด้อยค่าคราประเมิน
หวานจนเขินยามเธอเอ่ยเผยรักมา
อันน้ำผึ้งว่าหวานมิเทียมเทียบ
หากจะเปรียบกับอ้อยตาลหวานน้อยกว่า
หวานคำอ้อนหยอดคำหวานลักขณา
หวานภาษาจากปากพี่เหมือนมีมนต์
หวานอันใดไหนจะเท่าวจีพี่
ดวงฤดีไหวหวั่นพลันสับสน
ลมจากปากกลัวยิ่งนักอลวน
กลัวลมคนลวงหลอกบอกตายใจ
หวานเป็นลมขมเป็นยาสุภาษิต
พรหมลิขิตรักส่งมาพาหวั่นไหว
กลัวจะหวานเริ่มต้นขมถัดไป
จะหวานอีกสักแค่ไหนใจคนดี
ขอพี่หวานเหมือนวันนี้จะได้ไหม
กลัวสมใจก็เอารักหักถอยหนี
เอ่ยสัญญาผ่านเดือนดาวผ่าววจี
ใจนารีกลัวหวานนักจักเป็นลม........