2 กันยายน 2551 19:07 น.
พิมญดา
อยู่ใต้ฟ้าอย่ากลัวฟ้าท้าลมฝน
ขออดทนต่อปัญหาอย่าถอยหนี
เกิดเป็นคนอุปสรรคย่อมมากมี
ขอทำดีผลตอบแทนแสนภูมิใจ
เราทำดีย่อมมีคนคอยติฉิน
อย่ายลยินให้ดวงจิตคิดหวั่นไหว
ติเพื่อก่อยอทำลายเป็นฉันใด
ไม่มีใครอยากให้ใครได้ดีกัน
ในสังคมของคนจมแต่เปลือก
สุขทุกข์เลือกให้ตัวเองบรรเลงฝัน
กาม กิน เกียรติ เบียดสังคมจมชีวัน
เฝ้าห้ำหั่นบั่นทอนตอนสิ้นลม
เราทำดีย่อมมีผลดีตอบ
เราประกอบแต่กรรมดีไม่มีขม
เราศรัทธาการทำดีไม่มีจม
ความสุขสมคอยพรมใจให้ก้าวเดิน
ฟ้าว่ากว้างขอให้ใจกว้างกว่าฟ้า
อหิงสากันเถิดหนาอย่าห่างเหิน
ล้วนเพื่อนทุกข์เจ็บตายวายเผชิญ
คนสรรเสริญเป็นตำนาน....ทานความดี
1 กันยายน 2551 21:50 น.
พิมญดา
ขอสืบฮอยร้อยงานเพลงบรรเลงศิลป์
ศิลปินผู้ ล่วงลับ ดับสังขาร
ผู้สร้างสรรค์ดนตรีมีผลงาน
เบิกตำนานดนตรีไทยในล้านนา
ขอไหว้สา ครูจรัญ มโนเพ็ชร
ผู้สำเร็จ วรรณกรรม งานล้ำค่า
แต่งโฟล์คซองเพลงคำเมืองเลื่องลือชา
เปรียบเปิ้นว่ากวีคีตกาล
งานเพลงล้ำสื่อสารหวานคำอ้าง
เปิ้นเบิกทางชนยลยิลถวิทหวาน
ราชัยน์แห่งสุริยะศิลป์ตระการ
เพลงตำนานคือฮ่มฟ้าปารมี
งานแสดงหนังละครยอดคนเก่ง
ทั้งแต่งเพลงบรรเลงซึงตรึงทุกที่
ใช้ภาษางดงามปราญช์กวี
คือคนดีศรีล้านนาฟ้าเวียงพิงค์
สานทอฝันวันที่สามกันยาโศก
โลกทั้งโลกวูบลับดับทุกสิ่ง
แต่บทเพลงยังแว่วหวานตำนานพิง
หยุดทุกสิ่ง...ตราตรึง...ยังซึ้งทรวง..
29 สิงหาคม 2551 21:22 น.
พิมญดา
พระบรมราโชวาท เมื่อวันที่ 2ธันวาคม 2550 พระองค์ทรงเคยเตือนสติว่า
ประเทศ ของเราไม่ใช่ประเทศ ของ 1 คน 2คน เป็นประเทศของทุกคน เข้าหากัน ไม่เผชิญหน้ากันแก้ปัญหาเพราะปัญหาที่มีอยู่ที่เวลาคิด จะใช้คำว่าบ้าเลือด เวลามีคน การปฏิบัติรุนแรงมันลืมตัว ลงท้ายเขาไม่รู้ว่าตีเพราะอะไร เพียงแต่ว่า จะคิดเอาชนะ แล้วใครจะชนะ ไม่มีทาง อันตรายทั้งนั้น มีแต่แพ้คือต่างคนต่างแพ้ ผู้ที่เผชิญหน้าก็แพ้ แล้วที่แพ้ที่สุดก็คือประเทศชาติ ประชาชนจะเป็นประชาชนทั้งประเทศ ไม่ใช่ประชาชนเฉพาะกรุงเทพมหานคร เสียหายไป ประเทศก็เสียหายไปหมด แล้วจะมีประโยชน์อะไรที่จะทะนงตัวว่าชนะ เวลาอยู่กองซากปรักหักพัง
...อดทนไว้...
อดทนไว้พี่น้องไทยในความต่าง
แผ้วถางทางสามัคคีดีกว่าไหม
มาน้อมรับคำพ่อหลวงปวงชาวไทย
ชาติยิ่งใหญ่ล่มสลายใครช่วยชู
อดทนไว้ชาติเสียหายกันทุกฝ่าย
หากวางวายก็เลือดไทยกันทุกผู้
เราคนไทยคือไทยใช่ศัตรู
ขอให้อยู่อย่างสงบอย่ารบกัน
อดทนไว้ในความต่างทางความคิด
จะถูกผิดค่อยค่อยคิดอย่างสร้างสรรค์
อย่าผลีผลามใช้สติดำริพลัน
ชาติจะสั้นขวานจะบิ่นถิ่นไทยงาม
อดทนไว้อย่าทำให้เลือดไทยหลั่ง
ประวัติศาสตร์พินาศพังฝังสยาม
เคยรุ่งเรืองเลื่องชื่อระบือนาม
คนเกรงขามฤาจะปล่อยย่อยยับไป
ฟังคำสอนของพ่อขอใคร่ครวญ
อย่าเพิ่งด่วนก่อการณ์งานยิ่งใหญ่
ขอยึดมั่นในประชาธิปไตย
จงร่วมใจร่วมรักสามัคคี...........
*******************************************
28 สิงหาคม 2551 18:57 น.
พิมญดา
ทรมานเหลือเกินเผชิญช้ำ
ฝังใจจำคำว่ารักจนหนักหน่วง
โลกสลายหวังทลายพ่ายทั้งปวง
เจอคำลวงหลอกหลอนซ้อนหัวใจ
ทรมานมานานเนาเหงาเรื่อยมา
อาบน้ำตาอยู่ทุกวันฝันไม่ไหว
ภาพสีหม่นหนทางรักร้างลาไกล
จมสายใยแห่งความช้ำกรำเรื่อยมา
สายลมฝนคนช้ำหนักรักห่างหาย
สิ้นความหมายสิ้นเยื่อใยคนไร้ค่า
เขายิ้มรื่นเราขมขื่นกลืนน้ำตา
เหมือนเขาฆ่าฉันตายพ่ายทั้งเป็น
เขาเป็นสุขแต่เราโศกโลกดับแสง
อยากแสดงฉันเข้มแข็งให้เธอเห็น
รู้หรือไหมทำไม่ได้มันยากเย็น
แอบซ่อนเร้นน้ำตาตกหัวอกพัง
ทรมานเหนื่อยหนักรักพังพาบ
แผลขนาบเยินยับดับความหวัง
รักหนอรักผลักให้สุขทุกข์จีรัง
ปล่อยมันฝังไว้นานเนิ่นเกินเยียวยา.....
27 สิงหาคม 2551 13:04 น.
พิมญดา
หัวใจน้อยมีรอยแผลแพ้รักร้าง
ความเหินห่างทำเอาเจ็บเก็บรอยช้ำ
ดวงใจแยกแตกสลายเพราะชายทำ
เชื่อน้ำคำคำสัญญามานานเนา
เริ่มแต่ก่อต้นรักใจดวงน้อย
หทัยคอยถนอมไว้ ไร้ความเหงา
พอมีใครอีกคนตามเหมือนเงา
เธอเลือกเขาทิ้งฉันตรมขมหัวใจ
น้ำตาหยดรดหมอนนอนสะอื้น
แทบทุกคืนข่มอารมณ์ทนไม่ไหว
เจ็บเอ๋ยเจ็บมันหนาวเหน็บเก็บข้างใน
รักแล้วได้ผลตอบแทนแสนช้ำทรวง
อยากตัดใจตัดเท่าไหร่ใยไม่ขาด
พิศวาสบาดซ้ำรอยคอยแต่หวง
ไม่ยินยลสิ่งรอบกายหน่ายทั้งปวง
จมติดบ่วงพิษรักร้าวเศร้าชีวา
เหม่อมองฟ้าคราสีสวยด้วยตาหม่น
น้ำตาหล่นไหลอาบแก้มแสนเหว่ว้า
กอดตัวเองทุกค่ำคืนกลืนน้ำตา
มันปวดปร่าแทบสิ้นลมจมรักตาย...