15 เมษายน 2552 09:25 น.
พิมญดา
ความเอ๋ยความรัก
ใยมาหักรักร้างไม่สร้างเสริม
ใยมาคิดจะลดไม่เพิ่มเติม
ใยริเริ่มแยกทางระหว่างเรา
ใครกันหนอก่อเหตุไม่ติดต่อ
ปล่อยคนรอเคว้งคว้างบนทางเหงา
แล้วมาตัดสัมพันธิ์คำว่าเรา
แล้วยังเอาแต่ใจไม่คิดดู
เกิดเป็นหญิงรักจริงไม่เสแสร้ง
ไม่แสดงหลายใจให้อดสู
คิดสักนิดได้ไหมยอดพธู
จะคบชู้สู่ชายไม่หมายทำ
หากไม่เชื่อใจน้องต้องขอโทษ
พี่ไม่โปรดก้มหน้าทนจมความช้ำ
มีคำพูดมาฝากจากน้ำคำ
น้องคงย้ำรักพี่นิรันดร
ใจของชายกระไรใจดำหรือ
ขอเชื่อถือสาวกวีศรีอักษร
ที่พี่เห็นเป็นเพียงการต่อกลอน
มิใช่หลอนให้พี่ช้ำระกำทรวง....
14 เมษายน 2552 14:07 น.
พิมญดา
กลับบ้านเถิดสีแดงอย่าแผลงฤทธิ์
รักษาสิทธิ์ให้ถูกต้องตามวิถี
เสียเลือดเนื้อคุ้มแล้วหรือคิดให้ดี
รักศักดิ์ศรีเราชาวไทยให้มั่นคง
กลับบ้านนอกคอกนาเถิดพี่น้อง
กลับมาร้องเพลงชาติไทยให้สูงส่ง
อย่าไปร้องเพื่อใครให้ยืนยง
เราเผ่าพงศ์คนยิ้มสวยด้วยหัวใจ
ไม่มีใครอยากร้องไห้วันแดงเดือด
แต่หากต้องเสียเลือดให้นายใหญ่
ตรองดูนิดอย่าคิดเอาใจใคร
ความบรรลัยย่อยยับยากกลับมา
กลับมารดน้ำดำหัวผู้เฒ่าแก่
ที่เฝ้าแลลูกหลานด้วยห่วงหา
อย่าหลงผิดคิดร้ายให้บรรดา
พวกอีกาจะครองฟ้าท้าอินทรี
แล้วกรรมเวรจะตามทันในไม่ช้า
พวกผีห่าความวุ่นวายกลายเป็นผี
คุ้มแล้วหรือเอาตัวตายวายชีวี
แล้วคนที่สั่ง การหน้าบานเชียว
เราบาดเจ็บล้มตายใครเล่าช่วย
หากเราป่วยสูญแขนขาน่าหวาดเสียว
ใครจะเลี้ยงคนพิการขาซีดเซียว
ใครแลเหลียวมิใช่รัฐหรืออย่างไร
..กลอับบ้านเถอะค่ะ..อย่าให้ใครต้องร้องไห้เพื่อเราอีกเลยค่ะ..ชีวิตยังมีค่ากว่าการสละเพื่อคนคนเดียวอีกมากนัก..
13 เมษายน 2552 11:37 น.
พิมญดา
ถ้อยรำพันหวั่นนักความรักเอ๋ย
มาคุ้ยเคยเชยชมพรมอักษร
ดั่งสังคีตดาวดึงซึ้งบทกลอน
มาออดอ้อนวอนเว้าเอาใจนาง
ใช่อัปสรธิดาฟ้าสวรรค์
แค่จำนรรจ์บทกวีที่สรรค์สร้าง
มธุรสหวานวจีมิอัปปาง
มิลาร้างหายไปในสายลม
เป็นแม่ญิงเขียนกลอนร่อนเร่มา
พักชายคาบ้านกลอนไทยใจสุขสม
มีเพื่อนพ้องน้องรักเฝ้าชื่นชม
คอยภิรมย์อักษรามาพากเพียร
ไม่ได้หวังจะเป็นเช่นซีไรท์
ไม่ได้หวังจะยิ่งใหญ่กับงานเขียน
ก็แค่หวังเอาเก็บไว้เป็นบทเรียน
ไม่ใช่เซียนเขียนกลอนนอนมาเลย
จารจารหวานล้ำถ้อยคำรัก
เพราะตระหนักในรักที่เอื้อนเอ่ย
จารจารขื่นขมเพราะคุ้นเคย
จึงเปิดเผยเล่าขานอ่านเป็นกลอน
12 เมษายน 2552 08:44 น.
พิมญดา
บทกลอนเก่าเฝ้าถนอมกล่อมใจน้อย
ที่เฝ้าคอยคนเขียนเปลี่ยนใจหนี
ไปร่ายรักลอยล่องท่องกวี
ให้สตรีหน้าสวยด้วยแต่งเติม
สาวเพียงดาวหนาวนักรักถูกลืม
ได้แต่ซึมกับเหงาเศร้ามาเสริม
จมน้ำตาภาพเก่าเก่าเล่าเรื่องเดิม
ไม่มีเพิ่มหรือลดหมดเยื่อใย
ยังจ่อมจมกับอดีตกรีดใจหวน
ยังทบทวนเรื่องจากพลาดตรงไหน
ในเมื่อเรารักเขาจนหมดใจ
สาเหตุใดเขาทำช้ำเหลือเกิน
สายลมพริ้วปลิวน้ำตาพาโศกศัลย์
อาบแสงจันทร์วันเหงาเขาห่างเหิน
ไม่มีแล้วไม่มีใครให้ร่วมเดิน
จึงเผชิญกับภาพเก่า-เขาร้างลา
บทกลอนเก่าหวานไหวในครึ้งหนึ่ง
ยังคงซึ้งถ้อยหวานผ่านเนื้อหา
บอกว่ารักนวลน้องพิมญดา
อ่านกี่ครายังแอบยิ้ม....แม้อิ่มลวง..
11 เมษายน 2552 12:23 น.
พิมญดา
เมื่อเราอึดอัด ............อย่ามัดตัวเองเอาไว้
ท้องฟ้ากว้างใหญ่............จงไปให้ถึงดั่งฝัน
เมื่อคิดต่างสี............อย่ามัวห้ำหั่นจาบัลย์
คนไทยทั้งนั้น ............เลือดสีเดียวกันทั้งเพ
เมื่อมีจุดยืน ............อย่ากลืนแต่สิ่งจำเจ
เที่ยวร้องป่าวเห่............เกเรไม่รู้จักพอ
ประเทศเสียหาย............วอดวายใครเล่าใครก่อ
เศรษฐกิจชะลอ............ใครหนอจะช่วยกู้คืน
เมื่อคิดแตกต่าง............อย่าอ้างว่าเป็นสีอื่น
เมื่อเราถูกกลืน............อย่าฝืนทำเพื่อชาติไทย
ปากป้องเพื่อชาติ............อนาถสร้างภาพกันใหญ่
ประชาธิปไตย ............เต็มใบรู้จริงหรือยัง
เมื่อไม่รักชาติ ............อย่าวาดภาพไทยโอหัง
รอยด่างเกระกรัง............ประทังพวกพ้องตัวเอง
เรียกรัฐไทยใหม่............คิดได้อย่างไรเส็งเครง
พวกคิดข่มเหง............ไม่ย่ำเกรงบรรพบุรุษไทย