30 มกราคม 2555 07:49 น.
พิพัฒนชัย พรมศรี
โคลงสี่สุภาพ :: เทพารักษ์ กับ คนขับเกวียน
๏ คนเกวียนขับเกวียนพลั้ง ....... ติดหล่ม
แทบม้วยนั่งจิตตรอม ............... ขุ่นข้อง
พร่ำเรียกร้องลั่นระงม .............. งันงก
มีแรงบ่ใช้แรงจ้อง ................... แต่เทพ นำพา
๏ พนมกรน้อมจิตไหว้ ............ เจ้าป่า
ทั้งทวยเทพยดา ..................... โปรดได้
เถิดท่านเถิดจงมา .................. โปรดช่วย
กรรฉุดกรรชากไซร้ ................. เกวียนพ้น หล่มกรรม
๏ เทพาปรากฏแล้ว .............. เสกส่ง
แนะท่านผู้นั้นจง ................... อดกลั้น
แนะท่านผู้นี้จง ..................... หมายมุ่ง
รวบแรงนั่นดึงนั้น ................. จักพ้น หล่มเอง
๏ คนเกวียนพาเกวียนพ้น ............ หล่มแล้ว
แรงตนแหละช่วยแคล้ว ................ ปลดแก้
แรงตนแหละเพริศแพร้ว ............. ประเสริฐนัก
อุปสรรคหนักจิตแท้ .................. หาได้ หนักจริง ฯ
๏ "แรงกรรมก็คือแรงแห่งการกระทำ
ต้องแก้กรรมด้วยกรรมทำถูกยิ่ง
ไม่มีเทพองค์ใดให้พึ่งพิง
ตัวเป็นสิ่งวิเศษสุดช่วยฉุดตัว"!
_______________
พิพัฒนชัย
๓๑ / มกราคม / ๒๕๕๕
* หมายเหตุ : บทแรกเป็นโคลงมหาวิชชุมาลี
จึงไม่มีบังคับเอกโทในบาทที่สี่คำที่ ๖,๗
Facebook
http://www.facebook.com/Pipat.Thaipoet
29 มกราคม 2555 07:19 น.
พิพัฒนชัย พรมศรี
๏ รุ่งรวีฉายผ่านพื้น ............. โพยม
คลายเหน็ดหนาวระทม ......... อุ่นแล้ว
นกขมิ้นลอยล่องลม ............. เรื่อยคว้าง
พฤกษ์พรั่งพรรณพร่างแพร้ว ... พรั่งพร้อม ผกาขยาย
๏ แดดสายกำจายแก้ว ...... กลิ่นผกา
สักหนึ่งเถิดสิเน่ห์หา ........... ยื่นให้
สักหนเถิดภราดา ............... จุมพิต
สักครู่ครั้งเถิดดอกไม้ ....... อย่าได้ หวงหอม
๏ ตะวันอ้อมผกนกขมิ้น ....... เริ่มจร
อัสดงเริ่มลงรอน ................. ร่อนลี้
ตักใครใคร่ขอนอน .............. หนุนพัก
ขวัญนกตระหนกฉะนี้ ....... ค่ำนี้ นอนไฉน ฯ
_________________
พิพัฒนชัย
๓๐ / มกราคม / ๒๕๕๕
Facebook
http://www.facebook.com/Pipat.Thaipoet
29 มกราคม 2555 04:43 น.
พิพัฒนชัย พรมศรี
๏ เชิญทางนี้พี่น้อง
เสียงนายกองนายทาส
เชิญมาฟังประกาศ
นโยไพร่ ไพร่ ไพร่
๏ ใครสาหกสาหัส
ใครข้องขัดขุ่นเคือง
เดี๋ยวหัวล้านหัวเรือง
จะเสกให้ ให้ ให้
๏ ป้ายตอหลดตอแหล
ป้ายตามแห่หอนเห่า
ป้ายน้ำคำน้ำเน่า
ป้ายจัญไร ไร ไร
๏ ฉันได้ทุกข์ได้ยาก
ฉันลำบากลำบน
ฉันระท้อระทน
อยู่ร่ำไร ไร ไร
๏ จะให้เลือกให้ลาก
จะให้ขากให้ถุย
ให้เป็นควายเป็นทุย
จะเป็นให้ ให้ ให้
๏ พวกขายสิทธิ์ขายเสียง
พวกนกเอี้ยงนกแสก
ไม่ทำมาหาแดก
เห็นแก่ได้ ได้ ได้
๏ พวกลงตั้งลากตั้ง
พวกหวังร่ำหวังรวย
พวกเฮงซ้ำเฮงซวย
มันพวกใคร ใคร ใคร
๏ ประเทศไทยช้ำฟก
ต้องเริ่มยกเริ่มใหม่
ต้องช่วยกันชักธงไทย
ต้องช่วยกันไล่รัฐโจร โจร โจร !.
__________
พิพัฒนชัย
๒๙ / มกราคม / ๒๕๕๕
Facebook
http://www.facebook.com/Pipat.Thaipoet
ดูต้นฉบับดิมได้ที่
http://www.facebook.com/photo.php?fbid=154049211376996&set=a.143217789126805.30253.100003157532174&type=1&ref=nf
28 มกราคม 2555 06:42 น.
พิพัฒนชัย พรมศรี
๏�สิ้นเดือนอ้ายน้ำเอื่อย
ชะไหลเรื่อยลงรี่
จวนจะย่างเดือนยี่
อยู่ไรไร
๏�ดอกโสนริมหนอง
ก็ปิดทองเปรวทาบ
เหลืองระเนนเอนระนาบ
อยู่ไหวไหว
๏�เหลืองกระทั้งทุ่งทอง
ที่เรืองรองทุกรวง
จนดวงหน้าทุกดวง
ก็เหลืองได้
๏�ผละคันไถเคยถือ
มือก็เบี่ยงอุ้มบาตร
สิ้นพรรษาสิ้นสารท
สิ้นวิสัย
๏�มือหนึ่งจับเคียวจ้อง
อีกมือป้องกุมปืน
ใครจะกล้าเข้ามากลืน
ก็ลองไกล้
๏�หยิบประเจียดอาจารย์
ขึ้นโอมอ่านอาคม
คาดตระกรุดดอกกลม
พนมไหว้
๏�แล้วเสกผงแป้งผัด
ชั่วอัดใจแล้วเจิม
เหน็บมีดยันต์หลวงพ่อเดิม
ให้แคล้วภัย
๏�กูทิดพัฒน์บ้านบัว
ที่ลือทั่วทั้งตลาด
ดังถึงทิวเขาขาด
ขยาดไป
๏�ข่าวผู้แทนผู้เท็จ
เหมือนดอกเห็ดเดือนหก
เที่ยวสาโทสาธก
ทุกสมัย
๏�มึงอยู่เมืองนอนมุ้ง
กูอยู่ทุ่งนอนทับ
อย่าเผยอมาขยับ
เขยิบไกล้
๏�ได้นายกตีนแดง
ตะแคงตีนนอนกิน
จะตากแดดนอนดิน
กระไรได้
��
๏�คราน้ำท่วมกูทุกข์
ครั้นข้าวสุกกูโศก
เพราะผู้แทนหัวครก
มันชิงไป
๏�ก็บรรลัยไปทั้งเมือง
ดังอยู่เนืองไม่รู้สิ้น
หลังสู้แดดหน้าจู้ดิน
กูท้อใจ
๏�มันเอาตีนเหยียบหลัง
อีกมือพลันคว้าเคียว
ทั้งหว่านไถทั้งไล่เกี่ยว
แสนเจ็บใจ
�
๏�มันขนข้าวไปขาย
เหมือนขนทรายเขตสงฆ์
ทั้งหลอกเสียงเขาไปลง
โธ่ จัญไร
๏�แน่ะเว้ยเฮ้ยกูเห็น
ไอ้ที่เป็นปัญหา
เข็ญพี่น้องท้องนา
อยู่ร่ำไร
๏�ฟังกูก่อนเพื่อนเอ๋ย
อย่าด่วนเลยเฉยไป
สามข้อหลักประจำใจ
ให้ทำกัน
๏�หนึ่งอย่ามัวคุดคู้
มุดหัวอยู่ใต้เตียง
อย่าขายสิทธิ์ขายเสียง
วิญญาณไท
๏�สองจักต้องยืนตน
อยู่บนขาสองข้าง
ตัวเป็นไทใจเป็นกลาง
ให้ภูมิใจ
๏�สามจงรู้จักหลัก
อะไรศักดิ์อะไรศรี
สิ่งใหนชั่วอย่างไรดี
ต้องรู้ไว้
๏�ถ้าทำผิดสามข้อ
เล่นหลอกล่อหลอกลวง
ทำเหมือนลิงหัวกลวง
จะยันให้
๏�เดี๋ยวผู้แทนหน้าก้อ
มันหลอกล่อให้มึงหลง
แล้วเปลี่ยนประเทศเปลี่ยนธง
ประเทศไทย
๏�มาเถิดเหวยเถิดวา
ช่วยกันฮากันโห่
เสียงกูใหญ่ไชโย
จะเกรงไย
๏�ถ้ามึงเยี่ยมในสยา
กูก็ใหญ่ในย่าน
ผิดนักเลงก็ต้องลาญ
กันแหลกไป
๏�แค่ฝูงไพร่ฝูงหมา
อย่าเพิ่งพากันไปกลัว
เชื่ออ้ายพัฒน์บ้านบัว
เถอะ...เย็นใจ !!
_____________
พิพัฒนชัย
๒๖ / มกราคม / ๒๕๕๕
*หมายเหตุ
ประพันธ์จากรูปแบบฉันทลักษณ์เดิม
ของอาจารย์เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์�
กวีซีไรท์,ศิลปินแห่งชาติ�
สาขาวรรณศิลป์ สาขาย่อยกวีนิพนธ์
Facebook
http://www.facebook.com/Pipat.Thaipoet
-
�
28 มกราคม 2555 00:53 น.
พิพัฒนชัย พรมศรี
[๑]
๏ เปรวระบัดปัดโบกต้อง ...... ตะวัน
พลิ้วพฤกษ์พระพายผัน .......... ผกฟ้า
ธุมางค์มืดมหัศจรรย์ ............ ประจักษ์
เป็นมหาวาโยกล้า ............... กราดเกรี้ยวกระเวียนวน ๚ะ๛
[๒]
๏ ป้อมพระกาฬผลาญพล่าปัจจามิตร
พระทรงฤทธิ์บำรุงซึ่งกรุงศรี
ประจำเบื้องบูรพาภูมิธานี
พระเจดีย์สีทองจำลองภู
๏ จำลองพระปัถเพนทร์สุเมรุมาศ
ดั่งไกรลาสจำหลักโอ่อักขู
หิมพานต์สะพรั่งงามตามฤดู
ให้คงคู่พระนครอมรรัตน์
๏ โอ้อยุทธยาบอกเล่าแต่ราวเรื่อง
บัดนี้เบื้องคงคามากราดกัด
สารพิษสารพันสารพัด
ใหนจะรัฐชั่วช้าสัตว์สามานย์ฯ
[๓]
๏ ฝนตกฟ้ารั่วรัวกลอง
น้ำเน่าเนืองนอง
น้ำหนองน้ำตาตามมา
๏ ไหลเอ่อไหลอ่วมอยุทธยา
กระทั้นท่วมตา
ท่วมถ้วนทั่วทั้งธรณินทร์
๏ ฉไกรกราดเกรี้ยวกลืนกิน
กลืนทั้งแผ่นดิน
คงคาเดือดดั่งคลั่งคลุก
๏ น้ำบั่นน้ำบอนบ่อนบุก
สาดซัดสั่นสุข
บุกบั่นน้ำด้วยน้ำใจ.!
[๔]
๏ โอ้อยุธยาเมืองเก่ากลุ้ม ............ รุมกรอก
น้ำเหนือน้ำเน่ากระฉอก ................ กระฉ่อนชื้น
หลากแล้วเล่าระลอก ..................... ละเลงเร่ง
รัฐเอาอยู่เอาอย่างครื้น ................ ครั่นครื้น สนุกฉนำ ๚ะ๛
_______________
พิพัฒนชัย
๒๘ / มกราคม / ๒๕๕๕
Facebook
http://www.facebook.com/Pipat.Thaipoet