16 ธันวาคม 2546 20:12 น.
พิกุลทอง
แต่ก่อนนั้น
น้ำตา........
ไหลหลั่ง ดั่งธารา เลื่อนไหล
เพราะเธอ นั้น จากไป
ดั่งน้ำไหล ไม่หวนคืน
หัวใจ........
หม่นไหม้ แสนเศร้า เคล้าสะอื้น
เพราะเธอ ไม่กลับคืน
คนอื่น พรากเธอไป
เจ็บใจนัก........
คนรัก มาแปร เปลี่ยนไปได้
ตัดขาด ไม่เหลือเยื่อใย
แหลกสลาย ตามน้ำตา
ปัจจุบันนี้
บัดนี้........
ชีวี ของฉัน กลับมีค่า
เพราะฉัน ได้รับยา
จากคน สูงค่า เช่นตัวเธอ
น้ำตา........
หยุดหลั่ง ดั่งธารา ไหลเสมอ
พร้อมหลั่ง เพื่อตัวเธอ
พร้อมเพ้อ ถึงเจ้า ทุกเช้าเย็น
หัวใจ........
มอบให้ ธอแล้ว แคล้วทุข์เข็ญ
ดั่งน้ำ ทิพยฤทธิ์ หยาดเย็น
สู๋หัวใจ คนสำเค็ญ คนเย็นชา
สุขใจนัก........
มีคนรัก กับเขา เฝ้าห่วงหา
หัวใจ เลื่อนลอย ทุกเวลา
ลอยไปหา เจ้าตาเนื้อทราย..
15 ธันวาคม 2546 15:14 น.
พิกุลทอง
อรุณแย้ม แกมกลิ่น สุคนธ์ตรลบ
แสงทองแรก บรรจบ สว่างใส
ระยิบระยับ พราวฟ้า อ่าอำไพ
เป็นสัญญาณ บอกไว้ วันใหม่มา
มวลดอกไม้ ขยับกาย ขึ้นรับแสง
มวลแมลง บินว่อน จากภูผา
มวลหมอก ปกคลุม อุ้มพสุธา
มวลหมู่ปลา คละเคล้า พัลวัน
บนลานกว้าง ภูกระดึง ยังตรึงจิต
มีสองเรา แนบชิด สนิทมั่น
ทอดสายตา ยามฟากฟ้า สู่เหมันต์
ทะเลหมอก แสนสวยนั้น เป็นของเรา
ขาวสะอาด มาดหมาย คล้ายปุยเมฆ
สวยงามเฉก สวรรค์รัก สลักเสลา
มือของพี่ เอื้อมไป กอดเบาเบา
ร่างสั่นเทา นั้นหาย มลายไป
จารจารึก คำรัก ปักหินผา
แทนสัญญา ว่ารัก ทุกสมัย
ชื่อสองชื่อ มีศรรัก ปักเชื่อมใจ
ล้อมกรอบ ด้วยหัวใจ ทั้งสองดวง...
11 ธันวาคม 2546 19:59 น.
พิกุลทอง
ท้องฟ้า ครานี้ แสนหม่น
เบื้องบน ฝนห่า หลั่งไหล
หวนคิด คำนึง ถึงคนไกล
ที่ยัง สถิตใน ใจของเรา
ฝนพรำ ดังความ คึดถึง
เคยซึ้ง เดี๋ยวนี้ แสนเหงา
จากกัน ไม่เห็น แม้เงา
ตัวเจ้า ป่านนี้ เป็นเช่นไร
ยามเช้า เจ้าปลุก ข้าตื่น
หอมรื่น กาแฟ ชงให้
แก้มน้อย ปะจมูก หอมละไม
บัดนี้ เหลือไว้ เพียงเวลา
ยามบ่าย เที่ยวเดิน ช็อปปิ้ง
เจ้าแต่งตัว สวยพริ้ง งามหน้า
ควงแขน จับมือ สบตา
ประกาศก้อง ทั่วฟ้า เรารักกัน
ยามดึก สองเรา เฝ้าท้องฟ้า
นั่งมอง ดารา เย้ยหยัน
ว่าข้า แอบหอม ใต้แสงจันทร์
แถมสอง มือมั่น กอดเอวเธอ
ฝากลม พัดไป บอกเจ้า
ว่ารัก ค่ำเช้า อยู่เสมอ
ฝากดาว ดูแล ตัวเธอ
อย่าให้ คอยเก้อ เพ้อฝ่ายเดียว
8 ธันวาคม 2546 16:39 น.
พิกุลทอง
จากเธอมา แรมร้าง อ้างว้างนัก
มิอาจหัก เยื่อใย ใจห่วงหา
เฝ้านับคืน ฝืนท้อ รอเวลา
จะกลับมา เคียงคู่ อยู่ด้วยกัน
ฝากหัวใจ ดวงน้อย ลอยไปหา
แทนสัญญา คาใจ ไม่เปลี่ยนผัน
แม้ตัวห่าง หากใจ เราใกล้กัน
ระยะทาง อันไกลนั้น ฉันไม่กลัว
ยังคงมั่น ในรัก ปักดวงจิต
ยังคงคิด คำนึงเจ้า ไม่เขลาขลัว
ยังเรียกชื่อ กู่หา กายาตัว
ยังคงมัว มัวรักเจ้า ทุกเช้าเย็น
ขึ้นชื่อว่า ชาติชาย หมายความสัตย์
ใจผูกมัด แด่เธอ เธอก็เห็น
แม้นหญิงอื่น งดงาม กว่าเนื้อเย็น
แต่เธอเป็น หนึ่งดวงใจ ตลอดมา
จึงขีดเขียน กลอนกาพย์ ฝากฝังรัก
ใจประจักษ์ แจ้งจิต เสน่หา
ด้วยคะนึง ถึงคนไกล ที่จากมา
ถึงเวลา จะกลับไป ให้พบเจอ
ขอเพียงแต่ คนดี อย่ามีอื่น
ฉันคง ต้องสะอื้น คอยเก้อ
เพราะหัวใจ ฝากไว้ ที่ตัวเธอ
ขอเจ้า อย่าเผลอ ทำลายมัน...
7 ธันวาคม 2546 00:31 น.
พิกุลทอง
ขอบฟ้า กว้างใหญ่ ใจเหงา
ตัวเรา ตัวเขา ห่างหาย
ความรัก นับวัน กลับกลาย
เริ่มหาย ไปจาก ความจริง
แม้ขอบฟ้า กว้างใหญ่ หากใจมั่น
เราสองคน จะฝ่าฟัน มันไปได้
ขอให้เชื่อ พี่เถิด อย่าฟูมฟาย
ถึงยังไง พี่ก็รัก เจ้าผู้เดียว
ดอกไม้ ริมทาง ข้างถนน
ถูกคน เด็ดดม แล้วทิ้งขว้าง
ถูกคน เหยียบย่ำ ไปตามทาง
โดนทิ้งขว้าง โดยไม่มี ใครเหลียวแล
สงสาร ดอกไม้ ข้างถนน
ที่ถูกคน เด็ดดม แล้วทิ้งขว้าง
ใครหนอใคร ช่างใจร้าย กับแม่นาง
หากอ้างว้าง มาอยู่นี่ กับพี่ยา
สงสาร ทำไม กับดอกไม้
แค่ถูกทิ้ง เอาไว้ ก็เท่านั้น
ไม่นานหรอก พี่ยา ในสักวัน
ดอกไม้อย่างฉัน จะกลับดี โดยไม่มีเธอ
ขอโทษ ดอกไม้ ดอกนั้น
ที่ฉัน หลงผิด ชิดใกล้
หัวใจ รุ่มร้อน ดังไฟ
ขออภัย เถิดนะ แก้วตา
ดวงอาทิตย์ ทอแสง อัสดง
ท้องฟ้า มือลง อ่อนล้า
สองแก้ม เปรอะเปื้อน น้าตา
นั่งคอย เธอมา เหมือนเดิม
ผ้านี้ พี่ให้ เจ้านะ
เช็ดซะ น้ำตา ไหลเอ่อ
พี่ยัง ยืนอยู่ ข้างเธอ
ยังรัก ยังเพ้อ เสมอมา
ด้วยรักจากพี่ยา........