2 กุมภาพันธ์ 2547 16:28 น.

ด้วยจิตอธิษฐาน..

พิกุลทอง

ควันธูปเทียน เวียนตรลบ อบฟ้ากว้าง
ฟุ้งเป็นทาง สู่สวรรค์ อย่างหรรษา
มาลัยกร ครบเครื่อง เรื่องบูชา
ถวายแด่ เทพา หน้าต้นไทร

พนมมือ ถือดอกไม้ กายคุกเข่า
ปากอ้อนวอน เทพเจ้า ช่วยเราได้
ด้วยพ่อแม่ กีดกันเรา เศร้าหทัย
จึงหวังพึ่ง เจ้าพ่อไทร ร้ายกลับดี

ถาดเครื่องเซ่น เป็นเลือด ของข้าเจ้า
กรีดถวาย เพื่อสองเรา ได้สุขี
แม้นรักไม่ สมหวัง ดังฤดี
สองเรานี้ ขอปลิด ชีวิตแทน

กำแพงใหญ่ กั้นขวาง ทางแห่งรัก
อีกหนามขวาก กั้นรักเรา เฝ้าหวงแหน
เพราะข้าเจ้า นั้นจน คนดูแคลน
ชีวิตเรา เหมือนแม้น นวนิยาย

ความรักมี อุปสรรค หนักชีวิต
อยากจะมี อิทธิฤทธิ์ อันหลากหลาย
จะเอาไว้ ป้องกัน อันตราย
จากมือมาร แสนร้าย ทำลายเรา

ให้สมหวัง เถิดหนอ พ่อไทรใหญ่
ลูกทั้งสอง จะครองใจ ให้หายเศร้า
บันดาลพ่อ เห็นรักแท้ ของสองเรา
บันดาลแม่ เห็นข้าเจ้า ที่ความดี

อภิวาท แทบบาท ท่านเจ้าพ่อ
ด้วยลูกท้อ ใจแทบขาด ขนาดนี้
อธิษฐาน เพื่อเราสอง ครองชีวี
อยู่ด้วยดี ปราศจาก การพรากกัน				
1 กุมภาพันธ์ 2547 21:09 น.

ฝน

พิกุลทอง

ฝนเอ๋ย ฝนมา..

สู่แดนหล้า ทิพย์หทัย ฉ่ำไพศาล

เป็นเครื่องหล่อ เลี้ยงพืชพรรณ อันโอฬาร

ผองบริวาร สัตว์ใหญ่น้อย ได้ดื่มกิน


ฝยเอย เพื่อนข้า...

เจ้าโปรยมา สู่ใจ ไม่รู้สิ้น

ให้ใจน้อย ที่หมองค่า เสื่อมราคิน

ฟื้นชีวิน กลับสดใส ด้วยใจเธอ


   คิดถึงเพื่อนครับ				
31 มกราคม 2547 18:56 น.

ชี้แจงแถลงไข...

พิกุลทอง

แต่งกลอนใน ไทยโพเอ็ม เต็มเปี่ยมรัก
ก็ประจักษ์ ถ้อยความ ไม่เหมาะสม
ด้วยแต่งกลอน ร้อนเศร้า เคล้าระทม
ท่านผู้ชม จึงอยากอ่าน งานหวานใจ

พิกุลทอง ร่ายกลอน เป็นตอนเศร้า
ไม่ใช่เพราะ รักตัวร้าว อย่างนั้นได้
หากเป็นเพราะ กลอนเศร้า กลอนเหงาใจ
มันแต่งง่าย กว่ากลอนหวาน นั้นจริงจริง

หามิได้ ไร้รัก หนักหัวอก
ใจปลงตก ในรักแท้ แน่ทุกสิ่ง
จึงชอบแต่ง กลอนอกหัก ให้สมจริง
ด้วยมีหญิง ในอดีต ขีดเส้นตาย

ขอขอบคุณ ความหวังดี ที่พี่ให้
ที่ชื่นชม ด้วยไว้ใจ ไม่ห่างหาย
แม้นแต่งกลอน ช้ำจิต คิดน่าอาย
หากไม่วาย ชอบแต่ง ให้แรงงาน

มาวันนี้ เขียนกลอน ขึ้นแก้ไข
แม้นหัวใจ ไม่มี คนที่ผ่าน
หัวใจมัน ร้อนรุ่ม กลุ้มทุกวัน
ใครก็ได้ ช่วยฉัน ช่วยฉันที

งานคราวหน้า รับรอง ต้องแสนหวาน
ด้วยมีคน ไหว้วาน มาตามนี้
หากฉันแต่ง เชิญรีบอ่าน รีบอ่านซี
จะได้มี แรงใจ แต่งต่อไป				
30 มกราคม 2547 21:25 น.

ต่อหน้าฉันเธอทำอย่างนั้นได้อย่างไร..

พิกุลทอง

โอ้คนงาม ยามเจ้า เศร้าหม่นหมอง
ใครเล่าป้อง ปกเจ้า ให้หายเหงา
ใครเล่าใคร ตามติด ชิดดั่งเงา
หากมิใช่ ข้าเจ้า คนนี้เอง

ยามเจ้าร้อง ร่ำไห้ เยื่อใยขาด
แสนอนาถ คนนั้น มันข่มเหง
ใครเล่าใคร ช่วยให้พ้น อลเวง
หากมิใช่ ฉันเอง นั้นช่วยเธอ

แม้นมิได้ เอ่ยปาก ฝากฝังรัก
เจ้าก็คง ประจักษ์ รักเสมอ
เฝ้าฟูมฟัก ขนาดนั้น กันเลยเธอ
ไม่เคยเผลอ ปันใจ ให้หญิงใด

มาวันนี้ เธอเดิน มากับฉัน
จับมือกัน ใจฉัน สะท้านไหว
เมื่อเจอเขา เธอนั้น ก็เปลี่ยนไป
กลับผลักไส มือออก บอกไม่ควร

เขาเดินมา พร้อมกุหลาบ อันแสนสวย
หอมระรวย ดั่งเก็บ มาจากสวน
มาขอคืน ความรัก ปักใจครวญ
แล้วใจเธอ ก็รวน แปรปรวนไป

เธอหันกลับ สบตา มาขอถาม
โถคนงาม ใจฉัน นั้นมันหาย
ก่อนเอ่ยปาก ว่าเธอ นั้นขอบใจ
ที่ช่วยดู แลให้ ใจสร่างซา

แล้วหันกลับ จับมือ ไปกับเขา
ทิ้งให้เรา เศร้านัก ยากรักษา
ต่อหน้าฉัน เธอทำได้ แม่ยอดยา
อยากจะสม น้ำหน้า ที่โง่เอง				
26 มกราคม 2547 17:39 น.

ตำนานรัก...ไส้เดือน

พิกุลทอง

อยากเกิดเป็น เสมือน ไส้เดือนน้อย
ที่ค่อยค่อย คืบคลาน นานหนักหนา
แม้นคนเกลียด สมเพช เวทนา
อนิจจา รูปไม่สวย แต่รวยใจ

เฝ้าพรวนดิน แก่ดอกไม้ ไม่เคยบ่น
ด้วยหลงรัก หน้ามน เจ้าดอกไม้
กรรมเอ๋ยกรรม กระหน่ำ ไส้เดือนไป
เจ้าดอกไม้ กลับรัก ภุมรา

ด้วยเห็นรูป งดงาม คร้ามในอก
เจ้าเลยตก หลุมรัก ยากรักษา
ไม่เคยรู้ ไส้เดิอนต้อง นองน้ำตา
เพราะเจ้าไม่ เห็นค่า ของความดี

ยามไส้เดือน เห็นเจ้า เคล้าคลอรัก
ก็ประจักษ์ รูปชั่ว ตัวเสื่อมศรี
ดอกไม้จ๋า ไส้เดือนเศร้า เหงาฤดี
เพราะเจ้ามี แมลงภู่ อยู่เคียงกัน

ไม่นานนัก ภุมรินทร์ ก็บินจาก
เจ้าต้องพราก จากรัก อย่างหุนหัน
เพราะน้ำหวาน ถูกดูดไป ในคืนวัน
กลับต้องหมด แล้วนั้น มันน่าอาย

ไส้เดือนต้อง เศร้าใจ อีกครั้งหนึ่ง
เพราะนึกถึง ไม่อาจซับ น้ำตาให้
จึงก้มหน้า พรวนดิน แก่หวานใจ
แสนอาลัย ดอกไม้ ต้องร่วงโรย				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟพิกุลทอง
Lovings  พิกุลทอง เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟพิกุลทอง
Lovings  พิกุลทอง เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟพิกุลทอง
Lovings  พิกุลทอง เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงพิกุลทอง