19 กุมภาพันธ์ 2547 14:05 น.

พิกุลทองมาแล้ว...

พิกุลทอง

หอบใจช้ำ กลับบ้าน สถานอุ่น
กลิ่นละมุน แผ่นดินเกิด เพริศสล้าง
หมู่แมกไม้ โบกไหว ไปตามทาง
ความอ้างว้าง หายไป ไม่หวนมา

เสียงนกร้อง ต้อนรับ กลับสู่บ้าน
เสียงลำธาร ไชโย โก้จริงหนา
นิ่งฟังเสียง ธรรมชาติ บาดอุรา
ด้วยจากมา หลายวัน มันน่าอาย

จากพ่อแม่ มาศึกษา หาความรู้
เพื่อเชิดชู วงศ์ตระกูล ไม่สูญหาย
คำนึงถึง แม่พ่อ ท้อแทบตาย
แต่จำต้อง ข่มใจ ไม่กลับคืน

ด้วยเป็นชาย หมายมาด ชาตินักรบ
ข้าจึงต้อง ยอมสยบ ความขมขื่น
สยบให้ ไม่อาลัย บ้านทุกคืน
ทุกครั้งตื่น มาแล้ว แคล้วฝันดี

พิกุลทอง มาแล้ว เจื้อยแจ้วเสียง
มามองเมียง แต่งกลอน วอนสุขี
มาอ่านกลอน ที่เคยพราก ฝากฤดี
มาเยี่ยมชม เพื่อนพี่ นี้แต่งกลอน

เขาหาว่า พิกุลทอง สยองรัก
กลอนคราใด ก็อกหัก รักถ่ายถอน
ถือคติ โลกนี้ คือละคร
จึงร่ายกลอน เป็นเศร้า เคล้าระทม

เขาหาว่า พิกุลทอง เทรจจิดี้ (tragedy)
เพราะกลอนมี แต่อกหัก รักขื่นขม
หากวันใด ใจไม่เศร้า ร้าวระบม
วันนั้นคือ อารมณ์ ของผมดี

ผมมิได้ อารมณ์เสีย ทุกวันหรอกนะครับ 
หากแต่กลอนเศร้า แต่งง่าย กว่ากลอนหวาน
ดังที่ได้กล่าวมาแล้ว				
12 กุมภาพันธ์ 2547 16:35 น.

พักกาย พักใจ ใกล้แม่

พิกุลทอง

รันทดท้อ หมดหวัง พลังหาย
เมื่อข้างกาย แข่งขัน กันหนักหนา
กระโดดสู่ สนามแข่ง แฝงมายา
จึงส่งผล ให้ข้า ต้องเหนื่อยใจ

เริ่มตั้งแต่ งานการ อันแสนยุ่ง
ด้วยหวังมุ่ง เกียรตินิยม สมใจหมาย
กิจกรรม ก็ทำ ซ้ำปางตาย
ผลสุดท้าย กลับได้ เสียใจแทน

เสียใจนัก ทำดี กลับได้ชั่ว
ทุ่มให้งาน ทั้งตัว ทั้งหัวแขน 
ทำดีให้ เพื่อนกัน มันขาดแคลน
ผลตอบแทน คืออิจฉา ระอาใจ

แม่ครับแม่ ลูกน้อย ร้องหาแม่
เมื่อลูกแพ้ ต้องการรัก ที่แม่ให้
อาทิตย์นี้ ลูกจะกลับ หลับสบาย
เพื่อให้แม่ ช่วยคลาย ปัญหาที

จะขอหลบ พักใจ สักนิดหนึ่ง
ไปขอพึ่ง ความรัก จากแม่นี้
ไปพักกาย ให้สบาย ร้ายไปที
ไปกราบแม่ สมฤดี ที่เฝ้ารอ				
10 กุมภาพันธ์ 2547 10:28 น.

กราบแม่ เมื่อแพ้รัก

พิกุลทอง

อภิวาท แทบบาท มารดรข้า
ปล่อยน้ำตา ที่กลั้นไว้ ให้หลั่งไหล
สุดสะอื้น รันทดหนอ ท้อหัวใจ
แม่จ๋าแม่ ขออภัย ที่ไม่ฟัง

ผวาซบ กลบหน้า บนตักแม่
อบอุ่นแท้ รักแม่ให้ แต่หนหลัง
ไออุ่นแม่ ช่วยเสริม เพิ่มพลัง
แม่เปรียบดั่ง นางฟ้า มาบรรเทา

แม่ครับแม่ ลูกอกหัก พ่ายรักแล้ว
วิเวกแว่ว เสียงแห่ง แรงความเหงา
เขาบอกว่า ไม่มีทาง ระหว่างเรา
ลูกจึงน้อม เกศเกล้า เศร้าเข้ามา

หรือเราจน ข้นแค้น ไช่ไหมแม่
ลูกจึงแพ้ รักพ่าย อายหนักหนา
ลูกขอโทษ แม่เกล้า เศร้าชีวา
ที่ทำแม่ เสื่อมเสียหน้า ครานี้ไง

แม่กระชับ อ้อมกอด เข้าแน่นขึ้น
แม่น้ำตา ไหลรื้น สะอื้นไห้
ลูกเจ็บปวด แม่นี้ ปวดปางตาย
เขาไม่รัก ไม่เป็นไร หรอกลูกยา 

แต่ก่อนนั้น รอบกาย ไร้ศัพท์เสียง
จะมีเพียง เสียงนก ผกเวหา
มาบัดนี้ มีเสียง ของน้ำตา
สองแม่ลูก ก้มหน้า ร้องไห้กัน				
8 กุมภาพันธ์ 2547 14:01 น.

เข็ดรัก

พิกุลทอง

ส่องกระจก เพ่งมอง เบื้องหน้า
ภาพมายา ผุดขึ้น ฟื้นความหลัง
ชายหนุ่ม หน้ากระจก อกแทบพัง
เมื่อครั้ง ตกเหว เปลวไฟรัก

ส่องกระจก เพ่งมอง เบื้องหน้า
ธารน้ำตา ไหลหลั่ง ดังประจักษ์
ครั้งหนึ่ง สะอื้นไห้ แก่หญิงรัก
เธอเดินจาก ไม่เหลือ แม้เยื่อใย

เดินไป พร้อมเขา คนนั้น
ส่งแววตา เย้ยหยัน มาให้
เจ็บร้าว บาดลึก ถึงข้างใน
หัวใจ แหลกสลาย กลายเป็นดิน

หมดหวัง ท้อแท้ เหนื่อยล้า
การเลิกรา สร้างทุกข์ ไม่จบสิ้น
พิษรัก เกือบตาย วายชีวิน
ร้องไห้ แดดิ้น เดนตาย				
7 กุมภาพันธ์ 2547 15:45 น.

อาลัยรักจากชายโง่

พิกุลทอง

หย่อนกาย นั่งลง ตรงชายหาด
นั่งฟังเสียง ทะเลสาด เข้าหาฝั่ง
พัดทราย รายล้อม ให้พาบพัง
เหมือนดั่ง รักฉัน พังทลาย

ปล่อยให้ น้ำตา ไหลเอ่อล้น
เพื่อลืมคน หลายใจ ให้ห่างหาย
หยิบขวดเหล้า ที่วาง อยู่ข้างกาย
ยกขึ้นดื่ม กรอกไป ลงในคอ

สมน้ำหน้า โง่นัก รักคนหลอก
ซ้ำยังโดน เขาตะคอก ว่าเหลือขอ
ถูกเย้ยหยัน เหยียดหยาม มามากพอ
อีกหัวเราะ แถมล้อ ว่าไอ้ควาย

สมเพช ตัวเอง ยิ่งนัก 
หลงรัก คนลวง อย่างนี้ได้
แต่อยากบอก ด้วยความ จริงใจ
ทุกอย่าง ที่ทำไป ก็รักเธอ				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟพิกุลทอง
Lovings  พิกุลทอง เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟพิกุลทอง
Lovings  พิกุลทอง เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟพิกุลทอง
Lovings  พิกุลทอง เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงพิกุลทอง