31 ธันวาคม 2551 12:58 น.
พลายลิขิต ณ เมืองพาน
ท่ามกลางป่าเขา ใต้เงาร่มไม้ไพรสน
หนทางสู่แดนดินที่ห่างไกลสงบเงียบ
เลียบเลาะทางที่ลำบากฝากความหวัง
ทั้งกายาที่เหนื่อยล้าอยากพักผ่อนคลาย
ร่มเงาไม้กับเสียงนกที่เพราะพริ้ง
นั่งอิงแอบแนบชิดกับไม้ใหญ่
ไม่มีเสียงรบกวนใดใดให้รำคาญ
พาสำราญแสนสุขในป่าเขา
24 ธันวาคม 2551 14:54 น.
พลายลิขิต ณ เมืองพาน
ดึกดื่นในค่ำคืนแสนสงบ
แหงนมองฟ้าหาดวงดาวที่สวยงาม
ยามราตรีดาราคงส่องแสง
เพื่อเป็นทางแห่งความสุข
ดวงดาวที่ระยิบพลันหาย
คล้ายมีมนต์บดบังความงามตา
โชคชะตาพาเวลาให้หยุดนิ่ง
ยืนพิงต้นไม้ไร้ความรู้สึก
มันจุกอกแสนทรมาน
ทั้งสาหัสและเจ็บปวด
กายาระบบถึงทรวงใน
ใครหนอทำสิ่งสวยงามให้หายไป
ผ่านไปแล้วเวลาอันขมขื่น
เสียงคลื่นลมได้เข้ามาให้ชื่นใจ
ไม่มีแล้วความปวดเจ็บได้หายไป
ใจดวงน้อยชื่นชุ่มและสวยงาม
ยามราตรีนี้ไม่หม่นหมอง
พวกพ้องเข้านอนอย่างสุขสันต์
ใครกันทำให้เขามีความสุข
จุดจบแห่งเรื่องราวที่เยินเย่อ
ไม่ต้องเพ้อเพราะเราอยู่คนเดียว
อย่าเหลียวหันกลับไปในวันเก่า
ทำเราเศร้าอย่าคิดหนัก
ค่ำคืนและเวลาที่สวยงามอยู่ตรงนี้
4 ธันวาคม 2551 01:15 น.
พลายลิขิต ณ เมืองพาน
กาลเวาลที่เนิ่นนาน
ผันผ่านไปกับสิ่งที่ทำ
กลับมาเพียงน้ำตาที่รินหยด
หมดแล้วความหวังมลายสิ้น
มอบความรักหมดทั้งฤทัย
ใครเล่าจะเจ็บหากหมดหวัง
วันเวลาที่หวังว่าจะช่วยเพื่อดีขึ้น
วันปีผ่านไปหมดความหมาย
รักมอบให้ไม่ได้ผล
คนคนนี้ที่รักยิ่ง
มีเพียงคำลาที่ยากจะกล่าว
ไม่อยากจากเพราะอาลัย
สี่ปีที่ผ่านหมดความหมาย
ใครคนนั้นมาทำให้หมดสิ้น
ดิ้นรนเพื่อเธอตลอดมา
เขามาใหม่ครองใจเธอ
เหม่อนั่งมองจันทร์น้ำตาริน
คิดถึงเรื่องเก่ากับความหลัง
ครั้นจะยื้อแย่งไม่มีผล
เธอคนนั้นไม่มีใจดั่งที่หมาย
ผ่านไปแล้วยังคำนึงถึงทุกครา
เวลาผ่านไปนานยังคิดถึง
แม้นความจริงที่บังเกิด
แสนปวดเจ็บจำต้องทน