21 กรกฎาคม 2545 18:45 น.
พรระวี
ลมทะเลเย็นชื่นในคืนหนึ่ง
หัวใจซึ่งปวดเจ็บต้องเหน็บหนาว
ในลำเรือเรื่อแสงแห่งแววดาว
พรายน้ำพราวพริ้งละมุนพออุ่นตา
กลบชีวิตหมองหม่นของคนยาก
สู้ลำบากทุกเกาะแก่งแสวงหา
ต้องทุกข์ท้อกลางทะเลเร่หาปลา
หวังหล่อเลี้ยงชีวาในนาคร
ทั้งครอบครัวตัวน้อยคอยพ่ออยู่
หวังคืนสู่เหย้าน้อยลูกคอยอ้อน
คราคืนค่ำวิบวับหลับตานอน
ผจงพรฝากสายพระพายโชย
ฝากมนต์ทิพย์จิบแก้มน้อยแย้มยิ้ม
ใสอวบอิ่มเปล่งแดงไม่แห้งโหย
หัวใจพ่อเสน่หาไม่ราโรย
ไม่โอดโอยความยุ่งยากและตรากตรำ
ลมทะเลเย็นชื่นค่อนคืนแล้ว
น้ำค้างแก้วพร่างฟ้ามาพรมพร่ำ
เอนกายหลบซบหลับกับความจำ
ดื่มและด่ำถึงตัวน้อยจนผลอยไป.
16 กรกฎาคม 2545 20:46 น.
พรระวี
เคยแรมรอนนอนป่าอย่างว้าเหว่
ไอทะเลหมอกขาวราวภาพฝัน
ระรวยรินกลิ่นไม้ป่านานาพันธ์
ณ พฤกษ์ไพรสีสันพรรณราย
ริมสายธารซ่านซ่าพร่าแพรวน้ำ
ยามดื่มด่ำดับร้อนผ่อนกระหาย
ละอองเย็นหล่นหลั่งดูพรั่งพราย
หยดน้ำกรายกลอกกลิ้งทิ้งใบบอน
สายลมพริ้วอ่อนโยนจากโพ้นฟ้า
ริ้วรุ้งปร่าเลือนลับกับสิงขร
นางนกไพรขับขานหวานเว้าวอน
เรียกคู่นอนคืนหลังสู่รังรวง
ในแดนดงที่พบสงบจิต
เหมือนสถิตย์สุขแสนในแดนสรวง
ไร้สิ้นภาพหลอนตามาล่อลวง
สุขทั้งปวงเลอค่ากว่านาคร.
14 กรกฎาคม 2545 15:49 น.
พรระวี
ขอเรียงร้อยสร้อยศรีวจีหวาน
ฝากฝังผ่านเพื่อนพ้องน้องและพี่
ที่ร่วมสรรค์วรรณศิลป์จินต์กวี
ณ ถิ่นนี้ให้ประจักษ์กันสักครา
ท่านวฤกกลกานท์ชำนาญมาก
ศิลปะเชี่ยวกรากฝากภาษา
ฉันทลักษ์อักษรกลอนนานา
เรียงร้อยมามิขัดจัดผจง
ท่านณธีร์อาจารย์สานเชิงกาพย์
เป็นที่ทราบตรึงใจคนไหลหลง
นกตะวันเสน่หาป่าดอยดง
แต่ในวงกวีไม่หนีใคร
ทะเลขวัญกัลยาเหว่ว้าหมอง
น้ำตานองด้วยมิรู้รักอยู่ไหน
แสนซมเศร้าร้าวรานปานขาดใจ
มีไหมใครเยี่ยวยารักษาที
ม้าก้านกล้วยรื่นเริงในเชิงอรรถ
แฝงด้วยปรัชญาสง่าศรี
น้องหลินยอดกมลคนแสนดี
เชิงกวีสีสันสุดบรรยาย
ท่านเอม่าจำเรียงเสียงสวรรค์
ยามรังสรรค์กวีดีเหลือหลาย
แม้บทกลอนจบไปไม่กลับกลาย
ยังมิวายแว่วไหวอยู่ในทรวง
ละอองน้ำพร่ำขานหวานวะวับ
ยามสดับซึ้งใจอย่างใหญ่หลวง
ท่านโคลอนเจ้าขาสุดาดวง
ส่งยิ้มร่วงเรี่ยรดบนบทกลอน
ท่านสาวดอยสำนวนดีกวีศิลป์
หวานไม่สิ้นสายรักทางอักษร
ด้วยเชิงเชี่ยวชาญนักทุกวรรคตอน
ยามเขียนกลอนชนชมนิยมยล
ด้วยใจรักเรียงร้อยสร้อยภาษา
ส่งสารมาสรรเสริญเจริญผล
ยังมีต่ออีกได้ตั้งหลายคน
วันนี้จนปัญญาขอลาที.
13 กรกฎาคม 2545 19:04 น.
พรระวี
สายลมหนาวผ่าวเหน็บจนเจ็บเนื้อ
พรายจันทร์เรื่อเหลืองอาบทาบเส้นหญ้า
พร่างน้ำใสคลอครองทั้งสองตา
อัดอุรากลั้นข่มความขมใจ
เคยฝากฝันพันธะว่าจะมั่น
จะฝ่าฟันไปสู่ทางสว่างใส
ร่วมกอดคอคลอเคล้าก้าวเดินไป
สู่หลักชัยด้วยกันนิรันดร
พร่ำรำพันสัญญาต่อหน้าพระ
ด้วยสัจจะแกร่งยิ่งกว่าสิงขร
ไปหาความก้าวหน้าภราดร
แล้วจะย้อนมาอยู่เคียงคู่กัน
ล่วงสิบปีผ่านไปแล้วใจเอ๋ย
ข่าวเคยไม่รับตอบเพื่อปลอบขวัญ
ปล่อยคนคอยร้าวรานอยู่นานวัน
หรือจอมขวัญสลัดใยเยื่อไมตรี
เหมือนสายน้ำโรยรินจากถิ่นต้น
ถะถั่งพ้นล่วงไปในวิถี
ไม่เคยหวนคืนมาชั่วตาปี
แม้บัดนี้คนข้างหลังยังคงรอ.
11 กรกฎาคม 2545 22:59 น.
พรระวี
ยามวสันต์รื่นรมย์ห่มโลกหล้า
หยาดน้ำฟ้าปลิวโหมชโลมขวัญ
พร่างพรมกลีบบุปผานานาพันธ์
แสงตาวันอ่อนรายประกายราง
ความฉ่ำชุ่มอุ้มโลกให้โชกชื้น
ระริกรื้นคลี่คลายหายหม่นหมาง
ม่านสายหมอกสวยใสไอบางบาง
รุ่มร้อนจางโรยหายตามสายลม
กางเขนน้อยขับขานเพลงหวานซึ้ง
เร่งเร้ารึงเคลียคู่ดูสุขสม
ธรรมชาติบ้านนาน่าชื่นชม
สุดรื่นรมย์ยามวสันต์พลันมาเยือน