5 ตุลาคม 2545 21:44 น.
พรระวี
คราโดดเดี่ยวเปลี่ยวใจในวันว่าง
ความอ้างว้างกินใจเกินไขขาน
คิดใครบางคนแสนหม่นมาน
อยากฝากผ่านสายลมพรมพริ้วแทน
ว่ากลางใจยังซึ้งคิดถึงอยู่
ถึงไม่รู้ว่าทุกข์หรือสุขแสน
แม้เธออยู่ไกลห่างต่างด้าวแดน
ยังหวงแหนโหยหาอนาทร
ห้วงการจากนานเนิ่นเกินจะนับ
ไม่ได้รับรู้ข่าวเช่นคราวก่อน
วันนี้ยังหงอยเหงาเฝ้าอาวรณ์
อยากแอบอิงออดอ้อนเหมือนก่อนเคย
หากว่าเธอคนนั้นในวันนี้
สายสวาทยังมีไม่เมินเฉย
ขอจงอย่ารีรอให้ท้อเลย
ข่าวที่เคยลับลาจงมาเยือน
คิดถึงใครคนนั้นในวันเหงา
อยากรบเร้าทวงถามความเป็นเพื่อน
แม้ใจแห้งแล้งช้ำอยากย้ำเตือน
โปรดอย่าเลือนลับหายจากสายใจ.
3 ตุลาคม 2545 23:30 น.
พรระวี
ออกท่องเที่ยวสัญจรทุกดอนถิ่น
ไร้ที่กินพึ่งพักเป็นหลักแหล่ง
ทั่วเนินป่าโบยบินแทบสิ้นแรง
คราสิ้นแสงสนธยาหาที่นอน
เกาะพุ่มไม้กายเร้นเป็นที่พัก
จากเหนื่อยหนักโรยล้ามาพักผ่อน
นกขมิ้น...เดียวดายในดงดอน
ทุกทุกคอนขาดคู่อยู่เคียงกาย
ยามจันทร์แจ่มแต้มฟ้านัยน์ตาตื่น
ร่างเปียกชื้นน้ำค้างพร่างเป็นสาย
ลมดึกโชยหวิววูบโลมลูบกาย
สะท้านกายหวั่นไหวในนิทรา
ลมหายใจไพรพฤกษ์คราดึกดื่น
หลับแล้วตื่นเคล้าฝันอันพริ้วพร่า
จนสีทองละอองรุ้งรุ่งทิวา
ขมิ้นพาร่างเหินในเนินไพร.
2 ตุลาคม 2545 15:10 น.
พรระวี
สายลมรินกลิ่นผกาคราใกล้รุ่ง
เหมือนโชยฟุ้งผ่านสวรรค์อันหวามไหว
ผ่านพวงดาวพราวฟ้าอ่าอำไพ
ผ่านมาในทะเลลมยมนา
ดอกอะไรซาบซ่านถึงปานนี้
มันสุดที่จะหันเหเสน่หา
ย้ำย้อนยอกตอกตรึงรึงอุรา
ดอกไม้ฟ้าเร้ากมลคนเดินดิน
ปาริชาติสะอาดใสในแดนสรวง
คนทั้งปวงหลงใหลยามได้กลิ่น
หลงลืมชาติกำเนิดเกิดบนดิน
เฝ้าถวิลกลิ่นสวรรค์อันเลิศลอย.