24 กันยายน 2545 22:17 น.
พรระวี
จากกลิ่นโคลนสาบควายสายน้ำขุ่น
หวังไปวุ่นศึกษาวิชาสรรพ์
ในเมืองกรุงเมืองฟ้ามานานวัน
เอ็งมิผันเบือนกายเยือนไร่นา
พ่อและแม่แก่มากหวังฝากผี
ความหวังปรี่ล้นทรวงแสนห่วงหา
สองผู้เฒ่าเหงาหงอยคอยเวลา
ให้กลับมาตั้งฐานที่บ้านดง
เอ็งลืมเลือนเพื่อพ้องพี่น้องสิ้น
ไปซบกลิ่นเมืองงามด้วยความหลง
จะชั่วช้าอย่างไรไม่พะวง
สักวันคงย่อยยับอัปรา
ข้าได้รับรู้ข่าวจากชาวบ้าน
ว่าเอ็งร่านร่อนเร่เสน่หา
เที่ยวเปลี่ยนคู่สู่สมภิรมยา
อนิจจาน้ำใจเอ็งไม่จริง
ข้าเคยรักภักดียิ่งชีวิต
หวังสนิทเทิดทอดเป็นยอดหญิง
เอ็งกลับกลอกยอกย้อนหลอนเหมือนลิง
ทุกทุกสิ่งที่เอ็งทำข้าช้ำทรวง.
23 กันยายน 2545 21:03 น.
พรระวี
ริมสายธารตาปีแก้วคลี่กลีบ
ทั้งดอกปีบเย็นหอมย้อมเยือนขวัญ
ยังไม่ดึกไม่ดื่นคืนเพ็ญจันทร์
สายน้ำนั้นล้นปี่รี่ไหลลง
เทือกทิวเขาสุดตาเนินหญ้านุ่ม
น่าทอดทุ่มเกลือกร่างอย่างไหลหลง
แหงนหน้ามองโค้งฟ้าพางุนงง
ติดตาหลงเคว้งคว้างกลางฟ้าไกล
ฟ้าคืนเพ็ญเด่นฉายประกายพริบ
ดาวระยิบสะท้อนซ่านในธารใส
ในห้วงฝันคะนึงถึงคนไกล
เคยเคียงใกล้ฝากฝันพร่ำสัญญา
แต่มาถึงบัดนี้ไม่มีแล้ว
ซึ่งวี่แววคู่เห่เสน่หา
มาหมดสิ้นแม้เศษความเมตตา
จึงเหว่ว้าทรงร่างอย่างซึมซึม.
22 กันยายน 2545 21:05 น.
พรระวี
นั่งหมองเหม่อเผลอกายริมท้ายทุ่ง
ม่านสายรุ้งทาบฟ้าคราเย็นย่ำ
กบเขียดก้องลองไนร่ายระบำ
ปรอยฝนฉ่ำโลมหล้ามาเบาเบา
แล้วแพรุ้งก็เคลื่อนเลือนลับหาย
เยือกเย็นกายวาบหวามกับความเหงา
คนพ่ายรักไหวร่างอย่างซึมเซา
ทั้งขลาดเขลาเซื่องเซ่อหมองเหม่อลอย
ฟ้าทอสีเทาหม่นอยู่บนฟ้า
คล้ายดังว่าฟ้าเล่าก็เศร้าสร้อย
ยามสายรุ้งลับลาสุดตาคอย
สะอื้นอ่อยอัดอั้นตันในทรวง
คนพ่ายรักเหลือบมองแล้วตรองตรึก
ความรู้สึกบาดใจอย่างใหญ่หลวง
เหมือนสูญสิ้นความหวังในทั้งปวง
น้ำใสร่วงเปื้อนหน้าชุ่มตาโรย.
21 กันยายน 2545 21:37 น.
พรระวี
ยืนหยัดกายหงายหน้ามองฟ้ากว้าง
เพื่อรับความเวิ้งว้างกลางลมหนาว
พรายน้ำค้างพร่างพรมจากลมพราว
ประกายดาวเย้ยพ้อล้อนวลจันทร์
ยามกลางคืนชื่นช้อยจากสร้อยสรวง
นับล้านดวงตื่นตาเพลาค่ำ
ระยิบไหวก่องเถกิงเริงระบำ
ร่ายลำนำกล่อมสวรรค์อันอำไพ
มนต์เสน่ห์รินหยาดไม่ขาดสาย
จากดาวรายส่งฝันก่อนวันใหม่
สู่ชาวดินรอรับประทับใจ
เก็บเกี่ยวไว้ย้อมขวัญนิรันดร.
18 กันยายน 2545 22:37 น.
พรระวี
ฉันอาจเป็นฟอนไฟดับไปแล้ว
ไร้วี่แววเปลวไฟให้ใครเห็น
มีหัวใจว่างเปล่าเฉาชาเย็น
หลบกายเร้นด้วยหน่ายพ่ายเกมรัก
ตั้งสติมาดมั่นหมั่นสำนึก
ความรู้สึกกลับย้อนสท้อนหนัก
ในหัวใจเจ้ากรรมกลับจำหลัก
คนเคยรักเคยใคร่ฉายภาพมา
ทั้งทั้งที่ร้าวรานปานถูกเชือด
กลับหายเหือดหวังใจได้พบหน้า
ถึงปะเหมาะเคราะห์ซ้ำจักนำพา
อนิจจา...กลับไม่กลัวนะหัวใจ...