19 ตุลาคม 2545 20:27 น.

หอมดอกไม้

พรระวี

ดอกราตรีคลี่บานบนลานรัก
ซึ้งสลักกลิ่นหอมถนอมขวัญ
ยามล่วงเลยเลือนลาแห่งตาวัน
โชยกลิ่นอันซาบซ่านสะท้านทรวง
  มะลิลาพร่าพรมคราลมเอื่อย
ชื่นฉมเฉื่อยเรี่ยรายไม่แหนหวง
ซึ่งกลิ่นไอไหวหวิวเป็นริ้วรวง
ย้อมให้ดวงใจกิ่วเป็นริ้วรอย
  จำปาขาวพราวไสวได้ไออุ่น
กลิ่นกรุ่นกรุ่นแกมเศร้าและเหงาหงอย
ช่วยปลุกปลอบกมลของคนคอย
กลิ่นหอมลอยล่องฟ้ามาเบาบาง
 พวงพะยอมหอมเย็นมาเป็นเพื่อน
กลิ่นพร่าเลือนโลมหล้าครารุ่งสาง
แม้ยามสายแรงหอมไม่ยอมจาง
ยังคงพร่างพริ้วพรายกับสายลม
 จากริมบ้านชานเรือนไร้เพื่อนสิ้น
รับแต่กลิ่นมวลผกามาสู่สม
อาศัยความหวลหอมย้อมอารมย์
ประสาตรมตรอมอยู่เพียงผู้เดียว.				
14 ตุลาคม 2545 21:28 น.

ถามดาว

พรระวี

ลมลู่ลิ่วพริ้วหญ้าคืนฟ้าหนาว
ซับพรายดาวโอบหล้าดังผ้าห่ม
เรไรหริ่งหรี่ร้องก้องระงม
น้ำค้างพรมชื้นร่างคนกลางคืน
          วะแว่วเสียงดนตรีกวีหวาน
          โหยผสานแผ่วเพียงเสียงสะอื้น
           คล้ายคนเศร้าหม่นช้ำสุดกล้ำกลืน
          มาแอบยืนร่ำไห้ที่ปลายนา
หัวใจเอยยับเยินเกินทนแล้ว
ปั่นป่วนแป้ววาบหวิวพลิ้วแปร่งปร่า
ไม่เคยสบสมใจแต่ไรมา
อนิจจานี่จะปรับทุกข์กับใคร
           กับแสงแห่งดวงดาววาววะวาบ
           ช่วยรับทราบความช้ำทำได้ไหม
           หรือรองรับปรึกษาปัญหาใจ
           เพื่อก้าวเดินต่อไปได้ถูกทาง.				
12 ตุลาคม 2545 22:55 น.

สืบสานลานฝัน

พรระวี

ร่ายอักษรกลอนหวานจากลานฝัน
สื่อถึงกันเพื่อนทั้งหมดเป็นบทใหม่
ค่อยเรียงร้อยสร้อยภาษาต่างมาลัย
จากแก่นใจส่งถึงกันในวันนี้
    โยงสายใยไมตรีที่พิสุทธิ์
คล้องให้ดุจสายสวรรค์อันสดสี
เป็นพันธะต่อกันมั่นฤดี
เหล่ากวีจงร่วมใจในวงศ์วรรณ
    ช่วยพากเพียรเขียนกลอนอันอ่อนช้อย
ถักทอร้อยอักษราภาษาสวรรค์
จากอารมณ์นานามาประชัน
บำเรอบรรพ์กวีที่มีมา
    เหมือนหยาดฝนหล่นร่วงจากห้วงหาว
แต้มแพรวดาวก่องเก็จเพชรเวหา
ชโลมด้วยมธุรสบทพจนา
แก่บรรดาปวงชนคนรักกลอน.				
11 ตุลาคม 2545 22:25 น.

เดนหัวใจ

พรระวี


     เดนหัวใจตายด้านซานกลับถิ่น
หลังโบยบินสู่เมืองฟ้าคราฉ่ำฝน
ถนนตรอกซอกซอนเร่ร่อนวน
ทุกตำบลเมืองฟ้ายามราตรี
เที่ยวเสาะหามิ่งมิตรคิดพันผูก
หวังจะปลูกฝังรักเป็นสักขี
ทุรนร่างไม่พบใครที่ใยดี
มิตรไมตรีหลบหน้าพากันเมิน
อนาถหนออ้างว้างคนร้างถิ่น
ได้ยลยินเพียงนิยามความห่างเหิน
เกิดมาเป็นตัวเราเศร้าเหลือเกิน
ที่บังเอิญลืมตามาเป็นคน
ก่อกำเนิดเกิดกายในเมืองเปลี่ยว
มันแล้งหี่ยวแห้งใจไปทุกหน
เร่งร่ำเรียนเวียนว่ายตะกายวน
หวังให้พ้นกลิ่นบ้านนอกและคอกนา
ยังไม่อาจรองรับซับความเซ่อ
จึงต้องเหม่อหมองหม่นเหมือนคนบ้า
แต่ไม่อาจร้องไห้ฟายน้ำตา
ค่ามีมาติดกายแค่ควายทุย.				
5 ตุลาคม 2545 21:44 น.

ยังหวงแหนโหยหาอนาทร

พรระวี

คราโดดเดี่ยวเปลี่ยวใจในวันว่าง
ความอ้างว้างกินใจเกินไขขาน
คิดใครบางคนแสนหม่นมาน
อยากฝากผ่านสายลมพรมพริ้วแทน
ว่ากลางใจยังซึ้งคิดถึงอยู่
ถึงไม่รู้ว่าทุกข์หรือสุขแสน
แม้เธออยู่ไกลห่างต่างด้าวแดน
ยังหวงแหนโหยหาอนาทร
ห้วงการจากนานเนิ่นเกินจะนับ
ไม่ได้รับรู้ข่าวเช่นคราวก่อน
วันนี้ยังหงอยเหงาเฝ้าอาวรณ์
อยากแอบอิงออดอ้อนเหมือนก่อนเคย
หากว่าเธอคนนั้นในวันนี้
สายสวาทยังมีไม่เมินเฉย
ขอจงอย่ารีรอให้ท้อเลย
ข่าวที่เคยลับลาจงมาเยือน
คิดถึงใครคนนั้นในวันเหงา
อยากรบเร้าทวงถามความเป็นเพื่อน
แม้ใจแห้งแล้งช้ำอยากย้ำเตือน
โปรดอย่าเลือนลับหายจากสายใจ.				
Lovers  1 คน เลิฟพรระวี
Lovings  พรระวี เลิฟ 1 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟพรระวี
Lovings  พรระวี เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟพรระวี
Lovings  พรระวี เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงพรระวี