4 มิถุนายน 2546 18:35 น.
พรระวี
สายลมเย็นแผ่วผ่านลานโล่งกว้าง
สำผัสร่างคนหมองครองความเหงา
ยามอาทิตย์ลับลาฟ้าซึมเซา
ม่านสีเทาคลี่กางระหว่างวาร
กลั้นอารมณ์ขมร้าวคราววิบัติ
ถูกซ้ำซัดคล้ายกรรมตามล้างผลาญ
ต้องเจ็บปวดเรือนกายแทบวายปราณ
เซซังซานซ่อมร่างอย่างทุรน
ล่วงเวลานานเดือนที่เคลื่อนคล้อย
บาดแผลค่อยคลี่คลายหายสับสน
แม้ลำบากตรากตรำจำยอมทน
จนหลุดพ้นความพิการผ่านล่วงไป
กลับมาพักผ่อนกายในบ้านทุ่ง
อารมณ์พลุ่งพรูพรั่งความหวังใหม่
ที่เคยเลือนเพื่อนพ้องผองกลอนไทย
คงจะได้เยี่ยมเยือนเหมือนเคยมา.
1 มีนาคม 2546 23:14 น.
พรระวี
ยามสัญจรร่อนคว้างกลางขุนเขา
โอบอุ่นเงาพืชพันธ์สรรพ์สดใส
ในความเงียบเหว่ว้าสุดฟ้าไกล
คิดถึงใคร....คนหนึ่งซึ่งเงียบงัน
แขนงไผ่โยกส่ายคล้ายปลอบเตือน
ลำเนาป่าเป็นเสมือนเพื่อนเคียงขวัญ
คอยโรยรินน้ำใจให้แก่กัน
มิมีวันเหือดหายคลายมนตรา
อันตัวตนคนนั้นในวันนี้
คงไม่มีแล้วเล่ห์เสน่หา
มันจืดจางสิ้นแล้วจากแววตา
ดังผืนฟ้าขาดดาวพร่างพราวดวง.
13 กุมภาพันธ์ 2546 13:58 น.
พรระวี
แสนเสียดายคืนวันอันวาบหวาน
ล่วงเลยผ่านลับไปเกินไฝ่หา
เหลือเพียงรอยหม่นร้าวพราวน้ำตา
เปื้อนอุราทุรนร่างอย่างยับเยิน
ค่ำคืนนี้ฟ้าอับสิ้นสรรพแสง
แวมดาวแห่งสวรรค์พร่างมาห่างเหิน
ความเงียบเชียบรุมเร้าเหงาเหลือเกิน
ถูกหมางเมินเลือนไปไร้ไยดี
แม้วันแห่งความรักจักมาถึง
อารมย์ซึ้งเหือดหายไปไหนนี่
กุหลาบเอยสุดสวยช่วยฉันที
แย้มกลีบคลี่รองรับซับน้ำตา.
12 กุมภาพันธ์ 2546 23:29 น.
พรระวี
ร้อยอักษรน้อยบรรทัดคัดเลือกสรร
แทนมวลพันธ์ผกานานาสี
เป็นโซ่รักประคองคล้องฤดี
มอบพี่น้องผองกวีผู้ปรีชา
ณ วันแห่งความรักสลักแน่น
เป็นปึกแผ่นในเล่ห์เสน่หา
ให้ความรักซึ้งซาบอาบมนตรา
ไปจนกว่าชีวิตจะปลิดปลิว.
20 มกราคม 2546 21:32 น.
พรระวี
ทั้งทั้งรู้อยู่ว่าเขามีเจ้าของ
เขาเพียงมองเราเห็นเป็นคนอื่น
หักห้ามใจไม่ได้ให้กล้ำกลืน
ยังทนฝืนเสน่หามาเป็นปี
ใจเจ้าเอยทรมาณนานนักแล้ว
คงไม่แคล้วยับย่นหรือป่นปี้
เหมือนไฟรุมสุมกายาทุกนาฑี
เพราะไม่มีสิทธิ์รับเศษเวทนา
แม้จำหลักรักเขาเท่าชีวิต
เพียงแค่สิทธิ์ฝากใจใฝ่ฝันหา
เพื่อประโลมปลอบขวัญทุกวันมา
ด้วยศรัทธา....เขามั่นจนวันวาย.