27 ตุลาคม 2551 13:19 น.
พรฟ้า
คุณเคยคิดบ้างรึเปล่าว่าสิ่งที่อยู่รอบตัวคุณเหมือนกำลังเล่นตลกกับตัวคุณอยู่
ฉันเป็นคนที่คิดเรื่องนี้อยู่หลายหนแต่ก็สับสนเพราะมันยากที่จะเข้าใจ คุณคงเคยที่
จะเดินสวนทางกับใครสักคนแต่ไม่เคยคิดที่จะหันกลับไปมองว่าคนนั้นคือใครไม่
เคยคิดอยากจะสนใจว่าเขาเป็นคนอย่างไรแต่มันจะแปลกอะไรล่ะ ก็ในเมื่อเราไม่
รู้จักคนนั้นนี่นาแต่ทว่าวันเวลาก็เล่นตลกกับฉันทำให้ฉันได้พบคนเดิมทุกวันเดิน
สวนกันบ่อยๆจนถ้าไม่รู้จักกันคราวนี้คงท่าจะแปลกเสียแล้วฉันได้ยินคนหลายคน
พูดถึงเค้าคนนี้ให้ฉันฟังอยู่บ่อยๆว่าเขาเป็นคนดี สุภาพ และอ่อนโยน แต่มันก็ตลกดี
เพราะฉันไม่มีทางที่จะเชื่อก็จะให้เชื่อได้ไงฉันไม่เคยคุยกับเขาเลยสักครั้ง แล้ว
เรื่องนี้มันก็ไม่แปลกอยู่ดีก็ใครๆก็คิดแบบฉันทั้งนั้นคุณว่าจริงไหม? เรื่องตลกยัง
เล่นกับฉันไม่หายเมื่อวันเวลาผ่านไปจากวันเป็นเดือนจากเดือนเป็นปีและหลายปีที่
เรายังคงอยู่อย่างนี้เดินสวนกันโดยไม่สนใจกันเช่นเคยจนกระทั่งวันที่เราต้องมานั่ง
อยู่ตรงหน้ากัน และเมื่อตาประสานตาก็เกิดความรู้สึกประหลาดในใจฉันใจมันสั่น
ฉันรู้สึกเขินอายจนพูดไม่ออก และที่แย่กว่านั้นอาการของฉันยงคงสั่นสู้แต่เขา
กลับจ้องฉันตลอดจนฉันต้องหันหน้าหนี จากนั้นไม่นานเราก็แยกย้ายกันกลับแต่
เมื่อกลับบ้านฉันกลับรู้สึกว่าใจของฉันยังไม่หยุดกลับยิ่งคิดถึงคนนั้นทั้งที่ไม่เคย
เป็นมาก่อนมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ฉันเริ่มตบหน้าตัวเองทั้งสองข้างแล้วบอกตัวให้
ตื่นแต่คืนนั้นทำให้ฉันเริ่มสับสนตัวเองจนนอนแทบไม่หลับแต่เพราะเหนื่อยมาก
เลยต้องหลับลง ฉันเริ่มลืมเหตุการณ์วันนั้นได้เมือผ่านไปหลายวันที่ไม่เจอเขาแต่
แล้วก็เอาอีกแล้วฉันกลับเจอเขาที่ลาดจอดรถฉันยืนงงในขณะที่เขายืนเฉยแต่ไม่
ยอมละสายตาที่มองฉันแล้วอมยิ้มนิดๆ ฉันได้แต่ภาวนาให้เขาหยุดจ้องฉันเสียที่ฉัน
เขินจะแย่แล้วยืนค้างกันอยู่นานเลยฉันรู้สึกเหมือนโลกกำลังหยุดหมุนและฉันก็
เกือบไม่หายใจแล้วฉันตัดสินใจยืนหันหลังให้เขา เขาจึงหยุดจ้องแล้วก็เดินไปทำ
ธุระต่อฉันโล่งใจลง แต่พอฉันเข้าไปในงานเราต้องมานั่นตรงกันอีกแล้วฉันต้องใจ
ดีสู้เสือทำเป็นไม่มีอะไร แต่เขามองฉันอีกแล้วและก็อมยิ้มอีกด้วยฉันจะบ้าตายอยู่
แล้ว เป็นอย่างนี้อยู่หลายครั้ง มองและยิ้ม ๆๆๆและยิ้ม แต่บางครั้งก็ดูเฉยชามากฉัน
ไม่กล้าคิดเลยว่าเขาแอบชอบฉันเพราะบางทีเขาก็ไม่สนใจฉันเลย และทุกๆอย่าง
ที่เขาทำอาจจะเป็นแค่การทักทายคนรู้จักด้วยมิตรไมตรีก็ได้แต่ยิ่งนับวันยิ่งทำให้
ฉันไม่เข้าใจเพราะเขาสนใจฉันบ้างไม่สนใจบ้างและบางครั้งเวลาฉันคุยกับใครก็หัน
มามองบ้างหัวเราะฉันบ้าง มันงงแบบบอกไม่ถูกฉันได้แต่บอกตัวเองว่าอย่าไปหลง
รักเขาเชียวนะ เมื่อความสงสัยมีมากขึ้นฉันเลยตั้งใจสืบเรื่องของเขาว่าเป็นคนเช่น
ไรอย่างจริงจังสักทีตั้งแต่งานที่ชอบทำ สีที่ชอบรถที่ขับรุ่นอะไรทะเบียนอะไร เขา
มีความคิดอย่างไรกับคนรอบข้ารวมไปถึงคนที่เขาคบอยู่เป็นคนอย่างไรด้วยฉันเริ่ม
พิจารณารูปภาพเขา การแต่งกายของเขาและสิ่งต่างๆที่เป็นเขายิ่งนับวันสิ่งต่างๆยิ่ง
ชัดเจนขึ้นเรื่อยๆฉันรู้จักเขามากขึ้นแต่ปัญหาคือมีรูปของเขาเต็มบ้าน บ้านของฉัน
เลยมีแต่เรื่องราวของเขามากกว่าตัวฉันเองเสียอีกมันเลวร้ายมากเมื่อท้ายสุดแล้ว
ฉันก็เริ่มเข้าใจว่าเขาไม่เคยชอบฉันเลยและเขาก็ไม่เคยคิดจะสนใจใครสักคนแต่
มันคงไม่เลวร้ายเท่าฉันเริ่มเข้าใจว่าฉันชอบเขาเสียแล้วมันยากเกินไปแล้วที่จะตัด
ใจฉันยังไม่รู้ว่าควรทำอย่างไรต่อไปได้แต่บอกตัวเองทุกวันว่าเขาไม่รักเราเราเองก็
ต้องไม่รักเขา เศร้าจังรักเขาข้างเดียวคุณคิดยังไงกับรักที่แปลกแบบนี้เออฉัน
ลืมบอกเรื่องประหลาดอีกอย่างฉันกับเขามักทำอะไรคล้ายๆกันชอบอะไรคล้ายๆ
กันหลากครั้งที่เราทั้งสองต้องงงกับความเหมือนนี้ฉันงงว่ามันบังเอิญเกินไปรึเปล่า
น่าแปลกจริงๆคุณว่าไหม?...
29 มิถุนายน 2551 19:22 น.
พรฟ้า
วันหนึ่งน้ำได้ออกไปงานกับคุณแม่และได้พบกับผู้ชายคนหนึ่งซึ่งหล่อมากคุณแม่แนะนำให้รู้จัก กันเขามีชื่อว่า ตะวันเขาเป็นคนรูปหล่อและรวยมากเขาเป็นคนสุภาพเรียบร้อยเป็นคนวางตัวเก่ง และเขายังเป็นหลานชายเพื่อนของคุณแม่อีกด้วย น้ำเริ่มคุยกับเขาและเริ่มประทับใจในบุคลิกของชายผู้นี้ ความสนิทที่มีไม่ได้ช่วยให้น้ำเกิดความรักในตัวตะวันแต่อย่างใด อาจเป็นเพราะใกล้เกินไปจึงมองไม่เห็นและตัวของตะวันเองก็ไม่เคยบอกว่าชอบน้ำ เมื่อน้ำเข้าเรียนมหาวิทยาลัยน้ำได้มีแฟนหนึ่งคนชื่อต้น เขาทั้งสองคนรักกันมากและคิดว่าจะรักกันตลอดไปแต่ฟ้าก็กลั่นแกล้งให้ต้นต้องย้ายที่เรียนอย่างกระทันหันเนื่องจากพ่อของเขาจะพาต้นไปอยู่ที่อเมริกา แต่ทั้งคู่ก็ให้สัญญากันว่าจะติดต่อกันและสักวันจะกลับมาแต่ต้นกลับประสบอุบัติเหตุรถคว่ำที่อเมริกา เจ็บอย่างสาหัสไม่สามารถติดต่อกลับมาได้ น้ำก็ได้แต่รอ รอแล้วรอเล่าต้นก็ไม่ติดต่อกลับมาการรอคอยคงไม่เป็นอุปสรรค์มากเท่ากับเมื่อต้นหายดีแล้วก็ได้หมั้นกับ แนนนี่ ซึ่งเป็นเพื่อนที่รู้จักกันที่อเมริกาและในตอนที่ต้นเข้าโรงพยาบาลก็มีเธอเป็นผู้ดูแล น้ำได้รู้ข่าวเสียใจมากและคิดว่าจะไม่รักใครอีก ตะวันมาหาน้ำและปลอบใจ ตะวันบอกให้น้ำลองมองอะไรใกล้ๆดูบ้างถ้าไกลไปก็ยากที่จะเสาะหาถ้าใกล้ไปคนบางคนก็มองไม่เห็นน้ำยังงงๆกับสิ่งที่ตะวันพูด ท่าทีของตะวันดูแปลกๆ ตะวันมองหน้าน้ำอย่างซึ้งพร้อมกับจับมือทั้งสองข้างของน้ำไว้ที่ข้างหน้าของตนแล้วพูดว่า ต่อไปนี้เราจะไม่ให้ใครมาทำลายน้ำอีกเราจะดูแลน้ำตลอดไป เรารักน้ำนะรักตั้งแต่ครั้งแรกที่พบแต่เราเป็นเพื่อนกันมันยากที่จะเอ่ย แต่ถ้าเราไม่บอกน้ำก็จะไม่มีวันรู้น้ำเริ่มเข้าใข้ใจและดีใจที่เขาไม่ได้เดียวดายอีกต่อไป ความรักยิ่งเราวิ่งหามันจะยิ่งวิ่งหนีเราแต่ถ้าเราลองอยู่เฉยๆบางครั้งมันก็กระโจนเข้าหาเราเองมันเป็นสัจธรรมรึเปล่าเนี่ย