24 ตุลาคม 2552 23:50 น.
พจน์รำพัน
.
~ โคลงขำขำ R- ~ บัตรอวยพร ~
( โคลงขำขำ ๖ )
.. หมวย-แหม่มเพื่อนสุดซี้ ... สมัยเรียน
จนแต่งแล้วยังเยียน ............. เยี่ยมเหย้า
ลอยกระทงจุดธูปเทียน ....... ท่าสนุก
ก่อนออกเที่ยวดื่มเหล้า ........ เล็กน้อยย้อมใจ
.. จูงกันไปแต่เพี้ยง ............ ลำพัง
ลอยเสร็จติดลมยัง ............. อยากดิ้น
แวะผับออกกำลัง ............... นิดหน่อย
ดริ๊งต่อจนชาลิ้น ................ เลิกแล้วโผเผ
.. โซเซเดินกลับบ้าน .......... บ่นไป
ปวดหนักเบาไม่ไหว ........... หวิดแล้ว
ข้างซอยพุ่มไม้ใบ .............. บังมืด
น่าจะพอหลบแคล้ว ............ คลาดพ้นสายตา
.. ซ้ายขวามองเรียบร้อย ..... เร้นกาย
ยองเด็ดดอกไม้ฉาย ........... แฉะหญ้า
อาหมวยผิดท่าหงาย ........... หงำเปรอะ
ยอมสละเกงในผ้า .............. เช็ดแล้วทิ้งเลย
.. เงยมามองแหม่มเนื้อ ...... นวลไฉน
โน่นแน่ะก้นไวไว ............... เรียบร้อย
เธอแกะกล่องอะไร ............. เช็ดนั่น
อ้อ!กระดาษของขวัญพร้อย .. เพริศแพร้วลวดลาย
.. สบายสบายลุกขึ้น ........... ขำกัน
แหม่มบ่นว่าคันคัน ............. ง่ามก้น
หญ้าบาดนิดช่างมัน ............ ไม่เจ็บ
ดึกดื่นกลัวจี้ปล้น ................ กลับบ้านเถอะเรา
.. เช้าตรู่วันรุ่งขึ้น ............... ทันควัน
แฟนหล่อนโทรถึงกัน .......... โกรธจ้าน
ดื่มเหล้าขนาดนี้มัน ............. มั่วแน่
หมวยกลับมาถึงบ้าน ........... หลับไร้เกงใน
.. ทันใดแฟนแหม่มเว้า ........ โวยมา
นั่นนับว่าดีนา ...................... นิดน้อย
ก้นแหม่มเสียบบัตรคา ......... เขียนว่า
"ด้วยรัก..จาก..นายร้อย ........ เหล่าเก้ากองพลาฯ"
.
24 ตุลาคม 2552 23:48 น.
พจน์รำพัน
~ โคลงกลบท อัษฎางค์ดุริยา ~ ใจรัก ~
( โคลงกลบท ๕ )
อัษฎางค์ดุริยา ตามรากคำคือ อัษฎ-(แปด) + องค์ + ดริยะ (เครื่องดีดสีตีเป่า)
ขอยกตัวอย่างมา ๑ บท ดังนี้
"อหังการ์มหากาพย์" โดยคมทวน คันธนู ผู้รังสรรค์กลบทนี้
๏ เสียงชมประสมเชียร์.........(๒)ผัวเมีย-ประสาหมา
ใครต้านประสานตา................เห่าเสียงประเปรี้ยงแซง
หางสั่นประชันสวน................(๖)ทั่วถ้วนประสงค์แทง
ฟืดฟาดประกาศแฝง................โชว์เขี้ยว,ประเดี๋ยวคุ้ม๚ะ
( ชื่อ "อหังการ์มหากาพย์" ก็ตั้งไว้ตามกล ของกลบทด้วย )
กลบทนี้น่าสนใจตรง คำพยาค์คู่ ที่บังคับว่า ลหุพยางค์แรกต้องเหมือนกันทั้ง ๘ คำในบท ตามตัวอย่างคือ ประสม ประสา ประสาน ประเปรี้ยง ประชัน ประสงค์ ประกาศ ประเดี๋ยว
ในแต่ละวรรคยังบังคับสัมผัสอักษร ชม-เชียร์ เมีย-หมา ต้าน-ตา เสียง-แซง สั่น-สวน ถ้วน-แทง ฟาด-แฝง เขี้ยว-คุ้ม และสัมผัสสระ ชม-สม ต้าน-สาน เสียง-เปรี้ยง สั่น-ชัน ฟาด-กาศ เขี้ยว-เดี๋ยว ยกเว้นตรงวรรค (๒) และ (๖)
เมื่อนำกลบท อัษฎางค์ดุริยา มาเขียนโคลงสี่สุภาพ วรรคหลังของบาทหนึ่ง-สอง-สาม จำต้องตัดสองคำแรกออกไป เพื่อให้จำนวนคำได้ตามฉันทลักษณ์โคลง กลบทนี้น่าสนุกกับการไขว่คว้าหาคำ มาสัมผัสให้ได้ตามกล และได้ความตามใจของผู้เขียน ลองเขียนกันดูครับ
"ใจรัก"
~ ใจรักสมัครรู้ สฤษดิ์หมาย
เรียนเล่ห์เสน่ห์ลาย สลักช้อย
ซ้อมศัพท์สลับสาย สระรูป
เวียรร่างสว่างร้อย รจน์ให้ไสวหา
~ จึงพาประหว่าเพ้อ ประพันธ์โคลง
จ่อมจิตประดิษฐ์โจง ประจบเจ้า
เร้ารมย์ประสมโรง ประสารื่น
ยอยอบประกอบเย้า หยอกจ้องประคองใจ
คุณโอเลี้ยง :
หวามวับระงับว้าง.......ระดมหวาน
พาเลี่ยงระเบียงราน.....ระยะร้อน
จิตเทิดระเบิดฐาน........ระบายทุกข์
โศกแซะระแคะซ้อน.....สู่สร้างระวางสม
คุณเพียงพลิ้ว :
รู้สึกระลึกล้า ระบมใจ
ฝืนข่มระทมใน ระทดท้อ
ยากดับระงับไหว ระดับโศก
ปะทุระอุพ้อ พร่ำเพ้อระบายคำ
ช้ำเพลียละเหี่ยแล้ว ละเมอรัก
ยามพ่ายละอายหนัก ละเลียดเศร้า
ร่ำไรละไมภักดิ์ ละอองหม่น
อดีตอุ่นละมุนเคล้า ร่ายลิ้วละลายหลอม
คุณก้าวที่...กล้า :
ใจยอมละม่อมยิ้ม.......... ละไมฝัน
รักอุ่นละมุนอัน.............. ละเมียดไซร้
โคลงสานละลานสรรค์... ละลวยชื่น
กลอนก่อลออใกล้........... กล่อมเพ้อละเมอพา
ดวงตาสง่าแต้ม......... สงัดสม
ใจรับสดับลม............ สะดุดก้อง
ดวงจิตสะกิดจม......... สะกดนิ่ง
ตาจักสลักจ้อง........... จรดค้างสว่างคำ
~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~
โคลงภาคผนวก
คุณปรางทิพย์
ใจรักสกัดแท้ .................. สกลปอง
เพียงพ่ายสกรรจ์ครอง ..... สงบนี้
ยอมรอมสงัดตรอง .......... สกนธ์ท่า
โคลงกอบสขาชี้ .............. ร่วมร้อยเรียมเรียง
.
21 ตุลาคม 2552 23:34 น.
พจน์รำพัน
.
~ โคลงขำขำ ~ ชีพพลี ~
( โคลงขำขำ ๕ )
.. งานชุมนุมโลกครั้ง ........ สำคัญ
ประวัติศาสตร์เกี่ยวพัน ....... พินิจย้อน
ชาติต่างต่างมากัน ............. เกินคาด
ข้อถกเถียงเร่าร้อน ............. เรื่องครั้งความหลัง
.. ทั้งบินทัวร์ท่องชี้ ............. ชมเมือง
ดูร่องรอยรุ่งเรือง ................. รักษ์ไว้
จัมโบเจ็ตคนเนือง ............... แน่นขนัด
เครื่องขัดข้องเหม็นไหม้ ...... เมื่อเข้าอ่าวไทย
.. กัปตันให้สละสิ้น ............ สิ่งของ
จนหมดประคับประคอง ...... คิดแก้
ทางออกที่เหลือมอง ............ มีอยู่
ต้องสละชีพด่วนแท้ ............ เท่าเพี้ยงหกคน
.. บัดดลญี่ปุ่นพร้อม- .......... เพรียงสาม
ก้าวออกโค้งอย่างงาม ........... สง่าอ้าง
พลีชีพเทิดพระนาม ............ พระจักร พรรดินา
แล้วพุ่งลงลิ่วคว้าง ................ ร่างลี้ไปพลัน
.. เยอรมันคู่หนึ่งก้าว .......... กรายประตู
เพื่อเกียรตินาซีชู ................. เชิดก้อง
มือขวาเหยียดขึ้นดู .............. เด็ดเดี่ยว
"ไฮ!ฮิตเลอร์"เปล่งพร้อง ....... พรวดพลิ้วลังกา
.. ปัญหาอีกหนึ่งต้อง .......... สละตน
บนเครื่องคว้างสับสน .......... ไม่น้อย
คนไทยอีกสองคน .............. ขยับออก มาแฮ
แต่งชุดขุนศึกพร้อย ............ เพริศล้ำงามเหลือ
.. "เพื่อรำลึกอดีตย้อน ........ อยุธยา
เคยรุ่งเรืองต้องมา ............. มอดร้าง
ขอส่งชีพบูชา ................... บรรพบุรุษ"
แล้วลากพม่าตาค้าง ........... เหวี่ยงดิ้นลงไป
.
21 ตุลาคม 2552 00:15 น.
พจน์รำพัน
.
~ โคลงกลบท นาคราชแผลงฤทธิ์ ~ ง้อรัก ~
( โคลงกลบท ๔ )
นาคราชแผลงฤทธิ์ ต้นกำเนิดเป็นกลบทกลอนแปด นับเป็นกลบทที่บังคับสัมผัสอย่างสุดฤทธิ์สมชื่อ ทั้งสัมผัสสระและสัมผัสอักษร คือบังคับสัมผัสสระในวรรค ๒ แห่ง ตรงคำที่ ๓-๔ ๕-๗ และสัมผัสสระเชื่อมท้ายวรรคไปต้นวรรคถัดไปด้วย
ส่วนสัมผัสอักษรบังคับไว้ ๓ แห่งติดกัน คือซำเสียงพยัญชนะ ๓ คำท้ายวรรคไปต้นวรรคถัดไป
เมื่อเขียนโคลงตามกลบท นาคราชแผลงฤทธิ์ สัมผัสสระในบาท ๒ แห่งตรงคำที่ ๓-๔ คงไว้ ส่วนคำที่ ๕-๗ จำต้องปรับเป็น ๕-๖ และอย่าลืมเชื่อมสัมผัสสระจากท้ายบาท ไปต้นบาทถัดไปด้วย
ส่วนสัมผัสอักษรท้ายบาท ๓ คำที่โยงไปต้นบาทใหม่ ตามตัวอย่างจะเห็นว่าบาทแรก สามคำท้าย... ร้อย คอย วอน... เสียงอักษร ร - ค - ว
ดังนั้นเมื่อขึ้นบาทสอง ต้องซ้ำเสียง ร - ค(ข) - ว ตรงต้นบาทด้วย
จึงออกมาเป็น... ร้อน คิด หวั่น... ซึ่งคำ ร้อน ต้องรับสัมผัสสระจาก วอน ในท้ายบาทแรกด้วย
สำหรับผู้ที่ชอบเขียนให้มีคำสัมผัสในเป็นนิจ ก็คงเขียนกลบทนี้ได้ไม่ยากเย็นเลย จุดท้าทายอยู่ตรงที่สัมผัสอักษรท้ายบาทไปต้นบาท ว่าจะได้ความอย่างไร ลองดูกันครับ
~ ขอครวญคำร่ำร้อย คอยวอน
ร้อนคิดหวั่นบั่นทอน ก่อนง้อ
ท้อการแง่แม่งอน อ่อนอก
หงกเอ่ยอ้างว้างพ้อ ต่อน้องคนงาม
~ หนามคมงอนอ่อนช้อย ทอยตำ
ช้ำเทียบตรมคมคำ ย่ำท้อ
ขออย่าเท่าเนาลำ- นำพราก
หลากนึกพร่ำกรำง้อ ย่อแย้มยอมเธอ
คุณก้าวที่...กล้า :
มาฝากย้ำร่ำร้อย ............. ถ้อยถัก
รักถี่ถ้วนล้วนจัก ............ สลักไว้
ใจเสลาวาดอาจปัก ......... หลักแน่น
แป้นหลุดนำทำได้ ......... ไถ่ย้อนกลับคืน
ยืนกรานคิดจิตค้น .......... หม่นหมอง
ครองหมกมุ่นครุ่นนอง .... ก่องใกล้
ในกานท์กลั่นครรลอง ...... ตรองตรึก
ลึกตราบเตรียมเรียมไซร้ .. ไป่ท้อง้องอน
คุณเพียงพลิ้ว :
ลมหนาวจูบลูบไล้ ใจนาง
ลางจ่อหนึ่งพึงจาง ห่างแล้ว
แจวห่วงล่วงกลวงบาง สร่างเยื่อ
เบื่อสืบใยให้แก้ว แผ่วคล้ายหลงพรหม
ความหลังพริ้มอิ่มเนื้อ เจือจุน
หนุนจากเจ็บเก็บตุน อุ่นบ้าง
ต่างไอบาดขาดทุน หมุนไม่ ขึ้นเอย
ทนมุ่นหมกอกคว้าง ย่างก้าวเดียวดาย
คุณโอเลี้ยง(ญามี่)
โอนเอนไหวใคร่ง้อ........รอคลอ
งอเร่าคิดพิษกรอ............หล่อรั้ง
กรังรันหล่นปนทอ..........ออข่ม
ถมอาบครวญผวนพลั้ง....หลั่งไห้ครวญหา
หาควรหันพรั่นเพ้อ..........เผลอวาง
พรางพร่ำวอนตอนทาง.....ห่างง้อ
ทอหักเงียบเลียบขวาง.......ผางเร่า
เขลาผลักลักทักล้อ............ก่อล้อมงอนเหงา
คุณจอมปราชญ์แดนอาคเนย์
เดายากนักรักนี้ ที่หวาน
นานถ่ายวันผันกาล ผ่านพ้น
กลผิดผ่อนอ่อนหวาน พาลขุ่น จินต์เฮย
วุ่นพิษข้ามหลามล้น ป่นปี้หัวใจ
.
19 ตุลาคม 2552 17:04 น.
พจน์รำพัน
.
~ โคลงขำขำ R ~ ถุงมือทันตแพทย์ ~
( โคลงขำขำ ๔ )
.. คลินิกทันตแพทย์ผู้ ......... พิศดาร
เขาเล่าโจ๊กเป็นการ ............ กล่อมด้วย
คนไข้ที่ปวดปาน ............... ปากระเบิด
ขำชักดิ้นงอย้วย ................ ยักยิ้มยักยัน
.. ทุกวันคนไข้มุ่ง ............. มาคอย
ฟังเรื่องขำขำพลอย ........... โพล่งยิ้ม
แพทย์เองก็เอ็นจอย ........... โจ๊กระรื่น
ทั้งฝรั่งแขกแป๊ะซิ้ม ........... สิช้อบชอบฟัง
.. สาวหนึ่งปวดเปล่งหน้า .... นิ่งตาย
ทันตแพทย์อยากผาย ......... ผ่อนบ้าง
โจ๊กสักเรื่องคงคลาย .......... ความบูด
ครุ่นคิดแวบหนึ่งอ้าง ........... เอ่ยพร้อมใส่พลาง
.. ถุงมือยางอย่างนี้ ............ นึกไหม
เขาผลิตกันอย่างไร ............ ระบบจุ้ม
"ไม่ค่ะ"หล่อนตอบไป ........ ปกติ
ทันตแพทย์ยักไหล่งุ้ม ......... เล่าแง้มต่อไป
.. ค่าแรงจีนสุดคุ้ม ............. คนงาน
เขาแค่สร้างอาคาร ............. ครอบกั้น
มีถังใหญ่กลางสถาน ........... ที่ผลิต
คุมเคี่ยวน้ำยางนั้น .............. หนืดข้นครือครือ
.. จัดคนมือเท่าไซ้ส์ ......... สู่แถว
เดินจุ่มเรียงเป็นแนว ......... เนิบก้าว
ครั้นไปผึ่งแห้งแวว ............ ว่าสนิท
ก็วกกลับจ้ำอ้าว ............... อีกห้องคิวซี
.. มีคนคอยตรวจเข้ม ......... คุณภาพ
เมื่อผ่านวางมือทาบ ........... ถาดแป้ง
ถอดออกใส่ถุงราบ .............. เรียงขนาด
ส่งลูกค้าตามแจ้ง ............... จ่าหน้าอินวอยซ์
.. สักน้อยหล่อนไม่ยิ้ม ........ ใยดี
ทันตแพทย์ป่วนฤดี ............ ดั่งแห้ว
หน้าตาไม่เห็นที ................ ท่าขบ ขันแฮ
ช่างเถอะหมดมุขแล้ว ......... ฝืดบ้างธรรมดา
.. คว้าโคมไฟเปิดครั้น ......... ตะแคงเล็ง
เรื่อยเรื่อยแกมเซ็งเซ็ง ......... ส่องจ้อง
กรอฟันหล่อนขาเกร็ง .......... แก้มกระตุก
พลันกลับกร๊ากกึกก้อง ......... เกือบค้างคากราม
.. ทันตแพทย์ถามยื่นยิ้ม ....... ฟันขาว
ไยจึ่งหัวเราะราว .................. ระเบิดบ้อม
หล่อนกุมอกไว้คราว ............. ครางบอก
"โอยยย..นึกถึงคอนด้อม ....... จุ่มอะนั้นผึ่งไฉน"
~ ทันตแพทย์ !?!? กร๊ากๆๆๆ กร๊ากๆๆๆ กร๊ากๆๆๆ
.