9 เมษายน 2550 12:58 น.
พงษ์ศักดิ์ สิงห์ขจร
คำซึ้งซึ้ง ยังตราตรึง ในใจฉัน
ยังแอบฝัน อยู่ทุกวัน มิผันหาย
คำคำนั้น ยังเสนาะ อยู่ข้างกาย
มิวางวาย ในคำนั้น ฉันรักเธอ
จากวันคืน ผันแปรเปลี่ยน เป็นเดือนแล้ว
ยังเจื่อแจ้ว แววสำเนียง อยู่เสมอ
ถึงตอนนี้ ไม่มีแม้ แต่ตัวเธอ
ยังละเมอ ถึงเธออยู่ ทุกค่ำคืน
7 เมษายน 2550 15:20 น.
พงษ์ศักดิ์ สิงห์ขจร
จิตไม่นิ่งอย่าเลยเฉยเอาไว้
คนกราบไหว้ยกย่องจิตผ่องใส
ทรัพย์ที่ดินเหล่านั้นอยู่ที่ใจ
อย่าทำให้สิ่งเหล่านั้นครอบงำเอา
อนุศาสน์แปดอย่างหยั้งให้คิด
อย่าหลงผิดคิดมากเดี๋ยวจิตเศร้า
เดินไปตามเส้นทางชีวิตเรา
อย่ามั่วเมาให้มากลำบากกาย
ความศรัทธาเกิดขึ้นได้อยู่ที่จิต
ขอให้คิดคิดให้ดียังมิสาย
ต่างดวงจิตมีความคิดที่มากมาย
คอยทำลายให้เสื่อมถอยพลอยเสื่อมโทรม
2 เมษายน 2550 16:16 น.
พงษ์ศักดิ์ สิงห์ขจร
ดวงกมลล่องลอยพลอยได้แก้ว
มาอีกแล้วดวงจิตคิดสุขสม
บ้านหลังนี้พาชื่นรื่นอุรา
ได้กลับมาอีกครั้งหลังเงียบนาน
เป็นเช่นไรบ้างหนอพ้องน้องพี่
มีสุขีบ้างไหมโปรดเล่าขาน
หลังจากเงียบห่างหายไปเนินนาน
เพราะการงานยุ่งยากมากเหลือกเกิน
คิดถึงจังคิดถึงบ้านแห่งความสุข
ที่ปรับทุกข์เล่าสุขมิเก้อเขิน
มีทั้งพี่ทั้งน้องสุขใดเกิน
พร้อมเผชิญกับปัญหาที่มากมี
มาคราวนี้มีใจมั่นเต็มร้อย
มิยอมถอยกับปัญหามิหลีกหนี
จะยืนหยัดต่อสู้ทุกนาที
ดวงฤดีตั้งมั่นสัจจะจริง
8 มกราคม 2550 13:09 น.
พงษ์ศักดิ์ สิงห์ขจร
เมื่อครั้งก่อน คืนและวัน ที่ผันผ่าน
เคยสืบสาน คำเก่าเก่า ที่เล่าขาน
แต่เดี๋ยวนี้ กลับมาเป็น เช่นตำนาน
เหล่าลูกหลาน ไม่เรียนรู้ ดูห่างไกล
คำผญา ของอีสาน ใครรู้บ้าง
อยากให้ย่าง เข้าสู่ยุด ที่สดใส
หญิงเข็นฝ้าย ชายเป่าแคน แสนเพลินใจ
ก่อกองไฟ ไว้ข้างข้าง ช่างอุ่นกาย
ชายลำเกี้ยว หญิงลำแก้ แสนเพลินจิต
ชวนให้คิด ถึงเรื่องราว ที่หลากหลาย
ครั้งเก่าก่อน มีผู้รู้ อยู่มากมาย
ต่างสูญหาย ไปกับกาล ของเวลา
3 มกราคม 2550 12:25 น.
พงษ์ศักดิ์ สิงห์ขจร
หากเลือก จะบอกลา
น้ำตา ก็พลันหลั่ง
หากเลือก จะหยุดยั้ง
ก็รั้ง จะยืดเยื้อ
โอ้หนอ หัวใจเรา
ความเศร้า ยังหลงเหลือ
หาสิ่ง มาจุนเจือ
ความเชื่อ จะเลือนราง
หันหลัง แล้วเดินจาก
กลัวพราก กลัวจืดจาง
ไม่กล้า แม้จะห่าง
อ้าอ้าง คือสิ่งกลัว