4 ธันวาคม 2553 23:04 น.
พงษ์ สุนนท์
ในคืนเงียบสงัดเกินนัดพบ
เห็นซากศพมากนักโดนดักฆ่า
จากเบื้องลึกของใจในแววตา
เกิดขึ้นมานานนับจะรับรู้
เมื่อความเขลาครอบงำหลงทำผิด
ไม่ยั้งคิดหนักเบาคอยเป่าหู
โดนอุบายแสร้งทำของคำครู
ฆ่าศรัตรูให้หมดอย่าอดทน
มีวิชาไม่หยุดขั้นสุดท้าย
คือความตายช่วยปลุกอยู่ทุกหน
เจ้าจะต้องฆ่าฟันได้พันคน
จึงเห็นผลเป็นดีพิธีการ
อาศัยอยู่หุบเขาของเงาเถื่อน
คอยเชือดเฉือนชีวิตคิดสังหาร
มีมาลัยนิ้วมือถือประจาน
คือ "องคุลีมาล" ตำนานโจร
ยังขาดเพียงนิ้วหนึ่งจะพึงครบ
ถึงพันศพพบมาอาจารย์โหร
ชะตากรรมสัตว์โลกดูโชกโชน
ฆ่าแล้วโยนทิ้งไปไม่ใยดี
พระบรมศาสดาพาบรรลุ
ท่านบรรจุพระธรรมนำวิถี
ทรงโปรดสัตว์มั่นคง*องคุลี
ทั้งเคยมีลำเค็ญให้เห็นธรรม
"เราหยุดแล้วแต่ท่านยังไม่หยุด"
ก็สิ้นสุดสำนึกลึกถลำ
ด้วยธรรมะศรัทธามาชี้นำ
หลุดพ้นกรรมกล่าวขานแต่นานมา
ทุกบรรทัดประวัติธรรมนำความรู้
เกิดจากผู้มุ่งมั่นแก้ปัญหา
ในความผิดนิดเดียวเกินเยียวยา
ใต้กะลายังจบพบความจริง.
..........................................
1 ธันวาคม 2553 22:15 น.
พงษ์ สุนนท์
มีเพียงไฟบนฟืนในคืนหนาว
กับเรื่องราวคำตอบอยู่รอบด้าน
วันเวลาขับเคลื่อนดูเหมือนนาน
แต่ผ่านการอ้างว้างอยู่อย่างเคย
ทอดสายตาชำเลืองไปเบื้องหน้า
พร้อมศรัทธาราบเรียบดูเงียบเฉย
ได้ยินเพียงเสียงคำพร่ำรำเพย
ว่าลูกเอ๋ยกลับมาอย่างพร่าเลือน
ตัวหนังสือซีดจางระหว่างภาพ
น้ำตาอาบไหลเลอะจนเปอะเปื้อน
ทิ้งเอาไว้หนึ่งใบให้ใจเตือน
อยู่เป็นเพื่อนให้คิดคอยติดตาม
ได้รับรู้เรื่องราวจากชาวบ้าน
ว่าทำงานอยู่ไกลคอยไถ่ถาม
หวังให้ลูกมีสุขอยู่ทุกยาม
ภัยคุกคามมากมีหลีกหนีไกล
ท่ามหมอกควันสีเทาจากเตาถ่าน
เกิดจากการเฝ้ารอแล้วก่อใหม่
คือเรื่องราวที่เห็นความเป็นไป
กำหนดในศรัทธาอย่างท้าทาย
อุณหภูมิข้างนอกเหมือนตอกลึก
คืนยิ่งดึกยิ่งหวั่นไม่ทันหาย
ในกระท่อมโดดเดี่ยวอย่างเดียวดาย
รอลูกชายนานนับไม่กลับมา.
.......................................