24 พฤศจิกายน 2547 21:33 น.
พ. เพี้ยน
ฉันไม่รู้ว่าทำไม
ฉันถึงได้เป็นอย่างนี้
เป็นอย่างนี้มาแรมปี
แค่วันนี้กลับเปลี่ยนไป
ใจเราแค่เพียงห้อง
แบ่งเป็นสองได้ไฉน
หรือจะใช้ใจผูกใจ
ยึดมั่นไว้ระหว่างเรา
เธอรับไว้ก็คงดี
ถ้าเธอหนีก็คงเศร้า
จะว่าใครไปหนอเรา
ก็ตัวเราใจง่ายเอง
แต่ที่ฉันให้เธอนั้น
กลั่นจากใจใช่เสแสร้ง
รักเหมือนฝนหล่นดินแล้ง
หายแห้งเหือดให้ชื่นใจ
รักฉันเป็นดั่งแสงดาว
ส่องสกาวสว่างไหว
ใช้นำทางวิถีใจ
ให้ได้เดินไปคู่กัน
แต่ทั้งหมดที่ทำได้
ระลึกไว้แค่เพียงฝัน
ไว้ใช้ต่อคืนและวัน
ให้ความฝันเติมแรงใจ
ไว้วันพรุ่งนี้ขึ้นมาสู้
แล้วเรียนรู้ชีวิตใหม่
สู้ด้วยแรงฝันเต็มใจ
ยิ้มเข้าไว้สู้อดทน
ปัญหาย่อมมีแน่
อย่าท้อแท้อย่าสับสน
คนเราอยู่ใช่เพียงตน
มีคนเกื้อคอยเจือจาร
ถึงแม้ว่าเหนื่อยนัก
ก็หยุดพักละสังขาร
ใช้แรงของวันวาร
เป็นอาหารวันต่อไป
คิดดีเข้าไว้เถิด
แล้วจะเกิดแต่สดใส
โลกมืดช่างปะไร
แต่หัวใจสว่างจัง
ถึงปัญหาจะรุมล้อม
แต่อย่ายอมให้โดนขัง
จงค้นคว้าหาพลัง
พังออกด้วยกล่องปัญญา
บางคราอุราอั้น
กั้นเก็บไว้นานหนักหนา
รู้บ้างไหมว่าน้ำตา
ช่วยนำพาโศกศัลย์ไป
มิใช่ว่าอ่อนแอ
แต่เป็นทางสู่สดใส
ระบายบ้างจะทำไม
แค่อยากให้ลองทำดู
มิใช่ว่าอ่อนแอ
แต่เป็นการบอกให้รู้
ว่าอดทนที่มีอยู่
มิเหลือรู้แต่นิดเลย
โทรหาเพื่อนเก่าบ้าง
นานห่างร้างอย่านิ่งเฉย
เพื่อนมิเคยทิ้งเพื่อนเลย
อย่านิ่งเฉยรีบโทรไป
แม้ปัญหาอันหน่วงหนัก
เพื่อนที่รักช่วยท่านได้
มิทางตรงก็อ้อมไป
ใช่มิใช่ก็ลองดู
ได้รำลึกถึงวันเก่า
ที่เราเคยร่วมสมัย
ทุกข์หนักก็เบาไป
พลังใจเข้าทดแทน
เขียนไว้ให้อ่านบ้าง
ด้วยเป็นห่วงนับเหลือแสน
อุปสรรคนับเหลือแดน
ร่วมกันแล่นผ่านมันไป
ขอขอบคุณที่ทนอ่าน
บทจารจดหมดสมัย
ขอปวงพี่น้องไทย
อวยชัยให้สวัสดี