26 มกราคม 2552 01:26 น.
ฝากฝัน
โอ้ดึกดื่นคืนหม่นต้องทนหมอง
นั่งเหม่อมองหมอกพรายกรายภูผา
เป็นคลื่นพลิ้วริ้วแสงแห่งดารา
ยิ่งโหยหาอาลัยห่วงใยเธอ
เจ้ารับรู้อยู่ไหมใจดวงนี้
คือใจที่พลีให้ได้เสมอ
ยามเหินห่างร้างไกลมิได้เจอ
ยังละเมอเผลอใจอยู่ไม่วาย
หนาวลมหนาวดาวลาจากฟ้ากว้าง
ยิ่งอ้างว้างระหว่างใจไม่ห่างหาย
ป่านฉะนี้มีใครไหมข้างกาย
หรือเดียวดายคล้ายกันนับวันคอย
น้ำค้างหนาววาวหวามเมื่อยามสาง
เป็นหยดพร่างวางเด่นดั่งเส้นสร้อย
ตะวันทาบฉาบเม็ดดั่งเพชรพลอย
หัวใจหงอยสุดเหงาใต้เงาตรม
หากมีเจ้าเคล้าคู่อยู่เคียงข้าง
หยุดอ้างว้างร้างทุกข์คงสุขสม
แม้น้ำค้างพร่างพรายหนาวสายลม
ความระทมตรมใจไหนเลยมี
สัญญารักจักมิพรากจากวันนั้น
ยังจำมั่นสัญญามาวันนี้
ด้วยเส้นทางบางช่องของชีวี
จักต้องมีที่หมายได้พบกัน
ฝากฝัน
๒๖ ม.ค.๒๕๕๒
21 มกราคม 2552 21:49 น.
ฝากฝัน
โอ้ ความรักมักเป็นดั่งเช่นหนาม
ทุกโมงยามตามย้ำตำใจเหงา
ยิ่งชิดใกล้คล้ายดั่งยังคว้าเงา
แบกความเขลาเร้ารุกจนทุกข์ใจ
ในช่องว่างระหว่างใจดั่งใบมีด
มีรอยขีดกรีดยับนับไม่ไหว
ยิ่งดิ้นรนค้นหามาเท่าใด
แผลที่ใจไหนเลยเคยเยียวยา
ความห่วงใยใฝ่ฝันมั่นมิขาด
เหมือนดั่งราดสาดเล่ห์เสน่หา
ทุรนร้อนห่อนคลายไร้เวลา
เพียงหวังคว้ามาแอบไว้แนบกาย
หากความรักกักขังดั่งฝูงสัตว์
คอยจำกัดมัดล่ามไร้ความหมาย
แม้หัวใจไม่เหงาเปล่าเดียวดาย
คงเฉาตายวายปราณสุดทานทน
จงปล่อยใจไหลล่องท่องฟ้ากว้าง
แม้เปลี่ยวร้างบางคราฝ่าลมฝน
จะเปียกปอนอ่อนร่างอย่างอับจน
ขอเพียงคนคนนั้นพลันเข้าใจ
ทุกทิวาราตรีมีความฝัน
ดั่งตะวันจันทราโอบฟ้าใส
หากไออุ่นกรุ่นรักจากภายใน
แม้ฟ้าไกลไหนเลยเคยห่างกัน
ฝากฝัน
๒๑ ม.ค.๒๕๕๒
19 มกราคม 2552 15:29 น.
ฝากฝัน
ณ กระท่อมซอมซ่อพอหลบหนาว
กลางทุ่งข้าวชาวนาคืนฟ้าใส
เอาความสุขทุกข์ล้าชาวนาไทย
มาแก้ไขให้สว่างสร้างชีวิน
แต่ก่อนเก่าเนานานบ้านอุ่นสุข
นิราศทุกข์เหินห่างร้างหนี้สิน
ทั้งข้าวปลาอาหารการอยู่กิน
มีทั่วถิ่นท้องนาป่าพฤกษ์ไพร
หลายปีผ่านงานพัฒนาก้าวมาถึง
ปานประหนึ่งชาวนาจะหน้าใส
จากนาปีหนีมานาปรังไป
ทุ่งนาไหนไม่ว่างเหมือนอย่างเคย
ในสองปีทำนาถึงห้าหน
ต้องฝึกฝนทนฝืนมิยืนเฉย
นั่นเคมีนี่ปุ๋ยลุยกันเลย
หวังเสบยรวยร่ำจากทำนา
เหมือนยิ่งทำซ้ำซากยิ่งยากแค้น
ได้หนี้แทนแสนระกำช้ำหนักหนา
เคยเก็บผักดักหนูหาปูปลา
เพียงเพราะยาเคมีหนีสูญพันธุ์
คนทำนาหน้าหมองต้องซื้อข้าว
คือเรื่องราวชาวนาที่น่าขัน
ทำแทบตายขายไปทำไม่กัน
เพราะข้าวฉันอันตรายอย่าได้ลอง
เมื่อหนี้รุมสุมบ่าเกินกว่าแก้
อาหารแย่หายากอยากสนอง
คนหนุ่มสาวก้าวหนีที่เคยจอง
ทิ้งให้ท้องทุ่งนาเหลือตายาย
ยิ่งดึกดื่นฟืนสุมไม่คุ้มหนาว
เดือนเคยพราวราวฟ้ากลับลาหาย
ทุกข์ที่รุมสุมใจไม่เคยวาย
พรุ่งนี้สายเรามาหารือกัน
ลมหนาวพรูกรูเกรียวคงเชี่ยวกราก
อยากร้องฝากคนไกลในห้วงฝัน
ทุกข์แผ่นดินถิ่นไทยใหญ่อนันต์
ร่วมสร้างฝันกันไหมหลอมใจเดียว
ฝากฝัน
๗ มกราคม ๒๕๕๒
14 มกราคม 2552 15:04 น.
ฝากฝัน
ลมหนาวเยือนเหมือนย้ำคำรักมั่น
ร่วมทอฝันวันนี้ให้มีหวัง
ขอเป็นแสงแห่งใจให้พลัง
อย่าหยุดยั้งรั้งรอก้าวต่อไป
ทิ้งเส้นทางข้างหลังครั้งหมองเศร้า
อย่ามัวเฝ้ายึดมั่นจนหวั่นไหว
ขอดั้นด้นค้นคว้าหาหัวใจ
หวังจุดไฟในฝันนิรันดร
ถึงเส้นทางย่างยากด้วยขวากหนาม
แม้ต้องข้ามน้ำท่าฝ่าสิงขร
ด้วยหัวใจไม่พรั่นหวั่นอาวรณ์
บนทางจรเส้นนี้ต้องมีเธอ
หนาวเถิดหนาวยาวนานสักปานไหน
ไกลเถิดไกลใจหวงห่วงเสมอ
เพียงรอวันมั่นใจจะได้เจอ
เพราะใจเพ้อดวงนี้มิเปลี่ยนแปลง
ต้องถึงคราฟ้าสว่างทุกทางฝัน
เมื่อตะวันพลันฉายส่องพรายแสง
ให้หัวใจไหวตื่นฟื้นเรี่ยวแรง
ยามฟ้าแจ้งแดงสวยด้วยสองเรา
เอารักห่อทอห่มกันลมหนาว
ลบรอยร้าวเศร้าตรมระทมเหงา
ทิ้งรอยฝันวันวานผ่านดั่งเงา
สร้างรักเราเนานานกาลนิรันดร์
ฝากฝัน
๑๔ ม.ค. ๒๕๕๒
1 มกราคม 2552 19:33 น.
ฝากฝัน
บนเส้นทางย่างก้าวอันหนาวเหน็บ
ปล่อยใจเจ็บเก็บกลั้นไม่หวั่นไหว
สะพานรุ้งมุ่งหน้าสู่ฟ้าไกล
ขอปีใหม่ไปถึงซึ่งปลายทาง
เสียงไชโยโห่ร้องฉลองศก
ปานจะยกทุกข์ยากไปจากร่าง
แสงพลุพราววาวไสวรับไฟทาง
ทั่วโลกกว้างต่างปลื้มจนลืมตน
ณ ซอกเงาเหงาเปลี่ยวเพียงเดี่ยวโดด
นั่งตีโจทก์ชีวิตคิดสับสน
เพียรพิศมองช่องว่างระหว่างคน
สู้ดิ้นรนค้นคว้าหาสิ่งใด
อยากใฝ่คว้าหารักสลักมั่น
มาทอฝันวันชื่นคืนฟ้าใส
ชโลมลึกผนึกร่างจากกลางใจ
เธออยู่ใดไหนเล่าฉันเฝ้ารอ
คนรักฉันวันนี้มีบ้างไหม
รักหัวใจเหงาเหงาหรือเปล่าหนอ
ขอเพียงหวงห่วงใยแค่ใจพอ
ช่วยถักทอห่อขวัญวันร้าวราน
หวังศกหน้าฟ้าใหม่ไม่หม่นหมอง
ให้สมปองครองรักสมัครสมาน
ได้ร่วมเรียงเคียงฝันอันชื่นบาน
เริงสราญผ่านพ้นทนทุกข์ใจ
ฝากฝัน
๑ มกราคม ๒๕๕๒