30 ตุลาคม 2550 23:15 น.
ฝากฝัน
คืนเดือนมืดฝนพรำใจพร่ำเพ้อ
ฟ้าละเมอคนหมองมองน้ำใส
สายฟ้าแลบแปลบปลาบวาบในใจ
โอ้ไฉนใจเราเหงาเหลือเกิน
สายลมอู้ต้นไม้ลู่หอบไอฝน
ใบไม้หล่นปลิวคว้างคล้ายห่างเหิน
สุดจะทนทดท้อใจเหลือเกิน
ทุกก้าวเดินมีหนามอยู่ร่ำไป
ฝนพรำหายฝนโปรยปรายมาแทนที่
เสียงดนตรีหรีดหริ่งเสียงน้ำไหล
ห้วงคำนึงคิดถึงคนแดนไกล
อยากฝากใจไปกล่อมยามนิทรา
คืนฝนตกมาก..เหงา..คิดถึง...ใครบางคน
30 ตุลาคม 2550 22:48 น.
ฝากฝัน
เห็นกระจาบคาบหญ้ามาทำรัง
ดูน่ารักน่าชังเป็นหนักหนา
ช่างพากเพียรมุ่งมั่นเหลือคณา
แต่ตัวข้าฯขี้เกียจเสียเหลือเกิน
นั่งมองไปมองมาก็อายนก
จึงหยิบยกปากกามาแก้เขิน
เขียนลำนำบทกลอนเล่นเพลินเพลิน
ดีกว่าเดิน..นั่งว่างไร้งานทำ........(..ฮาๆๆๆๆๆ)
เมื่อปากกาจ่อกระดาษตาวาดฝัน
คิ้วชนกันขมวดแน่นดูหน้าขำ
เขียนอย่างไรหล่ะหือเจ้าลำนำ
ปากพึมพำคิดหวลทวนคำครู
แล้วจะเขียนกลอนแปดหรือกลอนหก
คิดไม่ตกจะใช้คำใดหรู
น่าจะเขียนกลอนรักสักบทดู
แต่รักตูไม่มีเลยนี่น๊า
หรือจะเขียนบทชมธรรมชาติ
เขียนดินฟ้าอากาศเลยดีกว่า
เขียนทะเลภูเขาสายธารา
หรือเขียนป่าพืชพรรณก็ดูดี
เอ๊ะ... หรือเขียนถึงสัตว์ป่าที่น่ารัก
มากมายนักหมูป่ากวางช้างหมี
อ้าว...เพื่อนข้างบ้านมาเยี่ยมได้พอดี
เฮ้อ....ไว้พรุ่งนี้ค่อยแต่งก็แล้วกัน.....เอิ๊กๆๆๆๆ
24 ตุลาคม 2550 20:18 น.
ฝากฝัน
ยกสิบนิ้วประนมก้มเกศา
กราบศรีปราชญ์ครูบานครศรีฯ
โปรดช่วยค้นดลใจเชิงกวี
อย่าเสียทีลูกหลานชาวนครฯ
ด้วยฝากฝันคนนี้ยังอ่อนหัด
ไม่เจนจัดเชิงกวีศรีอักษร
ชอบท่องเที่ยวเหงาเหงาบนทางจร
อยากอาศัยบทกลอนมาผ่อนคลาย
ยกสิบนิ้วยอไหว้อยู่เหนือเศียร
ต่างดอกไม้ธูปเทียนมาถวาย
อัญเชิญครูมาสถิตอยู่ข้างกาย
รับกราบไหว้จากศิษย์นิจนิรันดร์
24 ก.ย. 5