23 กันยายน 2551 22:40 น.
ฝากฝัน
คืนนี้ดาวพราวพร่างกลางเวหน
หัวใจหม่นเหม่อมองยิ่งหมองช้ำ
เพียงเห็นดาววาวใสใจระกำ
ยิ่งตอกย้ำห่วงใยคนไกลตา
ฟังเพลงแผ่วแววผ่านสะท้านจิต
เฝ้าครุ่นคิดจิตคะนึงถึงใบหน้า
ระหว่างวันฝันนี้มิสร่างซา
สุดโหยหาวันคืนที่รื่นรมย์
จำคืนนั้นวันฟ้าดาราหมอง
เพียงเราสองร่วมเรียงเคียงสุขสม
เสียงฟ้าร้องลมร่ายสายฝนพรม
รื่นภิรมย์ชมชิดก่อนนิทรา
โอ้..ความรักมักลามเป็นความใคร่
เก็บใจไว้ไร้เล่ห์เสน่หา
เพียงความรักภักดีที่บูชา
ทั้งกายาใจมอบไว้ตอบแทน
จะคืนนี้คืนนั้นหรือคืนไหน
เธอคือใจสุดห่วงสุดหวงแหน
จะหญิงอื่นหญิงใดในดินแดน
มิมาตรแม้นเธอนี้มีหนึ่งเดียว
เพียงจดจำค่ำที่มีเราสอง
ช่วยประคองครองใจให้แน่นเหนียว
ให้ใกล้ชิดชื่นชมรักกลมเกลียว
แม้รุ้งเรียวลืมฟ้ารักอย่าเลือน
ฝากฝัน
๒๔ กันยายน ๒๕๕๑
22 กันยายน 2551 17:08 น.
ฝากฝัน
แว่วสายฝนล้นหลั่งเหมือนสั่งฟ้า
ไหลท่วมท่านาไร่ไร้ทางฝืน
ปาดน้ำฝนปนน้ำตามิกล้ากลืน
โอ้ทรามชื่นคืนนี้อยู่ดีฤา
ในคืนหนาวร้าวรานฟุ้งซานนัก
คิดถึงรักเพริศพริ้งนั้นจริงหรือ
แล้วไฉนใยหายคล้ายหลุดมือ
ปล่อยพี่ยื้อยุดแย่งกับแรงธาร
นั่งทอดตาพร่ามัวไปทั่วทุ่ง
รวงเรียวรุ้งร่วงลาน่าสงสาร
ทุกความฝันพลันหายใต้บาดาล
กลับซมซานรักร้างยิ่งห่างไกล
กุ้งปลาปูกรูหายกับสายน้ำ
จะตอกย้ำซ้ำเติมไปถึงไหน
สิ้นเรี่ยวแรงแย่งชิงกับสิ่งใด
ปล่อยหัวใจไหลลับกับสายชล
เธออยู่ใดไหนเล่าเจ้าจอมขวัญ
พี่หนาวสั่นหวั่นไหวใจสับสน
ความรักยังฝังซึ้งตรึงกมล
กี่ลมฝนทนได้ให้มีเธอ
แม้บ่อปลานาล่มจนจมหาย
แต่ใจหมายกายสู้อยู่เสมอ
เพียงรอยยิ้มพิมพ์ใจเคยได้เจอ
จากใจเธอดวงนี้ที่คอยรอ
ฝากฝัน
๑๙ กันยายน ๒๕๕๑
16 กันยายน 2551 22:40 น.
ฝากฝัน
สายลมพลิ้วปลิวล่องละอองขาว
ไสวพราวราวเมฆเฉกม่านฝัน
ปุยดอกหญ้าหน้าแล้งแต่งตะวัน
เปรียบใจฉันหวั่นไหวไร้ร่องรอย
ยามสายฝนหล่นพรำฉ่ำผืนหล้า
เมล็ดหญ้ากล้าชอนต้นอ่อนช้อย
ดั่งหัวใจใฝ่ฝันหมั่นรอคอย
ให้ใจรักดวงน้อยค่อยเบ่งบาน
เมื่อหญ้าแซมแต้มแต่งดอกแดงสวย
พลิ้วละลวยลมล้อรอรักหวาน
มวลภมรร่อนเร้นเห็นตระการ
หลงดื่มด่ำฉ่ำหวานสราญใจ
ดั่งความรักสลักใส่หัวใจหวาม
ยิ่งงดงามลามหลงสิ้นสงสัย
อุ่นซาบซ่านสะท้านทรวงดวงหทัย
ทุกความนัยใสสดช่างงดงาม
เมื่อเหมันต์ผันเปลี่ยนเวียนมาถึง
ภมรผึ้งจึ่งหายคลายรสหวาม
ทิ้งดอกหญ้าลาแล้งเหี่ยวแห้งตาม
จวบถึงยามลมพลิ้วปลิวอีกที
ดั่งความรักสลักใจในวันนั้น
เธอทิ้งฉันเศร้าใจในวันนี้
ทุกคำพรอดออดอ้อนผ่อนวจี
ที่เธอมีกลับหายดั่งสายลม
ฤาเวลาพร่าพรากจากใจภักดิ์
หัวใจรักหักงอก่อรักขม
ดอกหญ้าพอรอฝนมาหล่นพรม
แต่ใจตรมฉันเล่าเฝ้ารอใคร
ฝากฝัน
๑๔ กันยายน ๒๕๕๑
14 กันยายน 2551 21:52 น.
ฝากฝัน
มองหมอกขาวเคล้าภูจนดูหม่น
ฟ้าภายหลังฝนหล่นพรมห่มภูผา
ดั่งหยาดหยดบดบังหลั่งนัยน์ตา
โน้มอุรารักร้าวคราวจากไกล
ยิ่งเย็นค่ำย่ำเยือนดั่งเตือนย้ำ
แว่วน้ำคำร่ำร้องต้องหวั่นไหว
บนเส้นทางข้างหน้าจำลาไป
ด้วยหัวใจใฝ่ฝันสร้างสรรค์ชน
แม้ต้องจรรอนร้างบนทางเปลี่ยว
เพียงโดดเดี่ยวเดียวดายฝ่าสายฝน
ดั่งขมิ้นบินโผโต้ลมบน
รอวันหล่นบนคอนกลับนอนรัง
เก็บความฝันปันแบ่งทุกแหล่งหล้า
ทอศรัทธากล้าแกร่งด้วยแรงหวัง
ให้ผู้คนชนตื่นฟื้นพลัง
ทิ้งความหลังครั้งเศร้ากล้าก้าวเดิน
เธออาจหนาวร้าวใจในบางหน
จำต้องทนหม่นบ้างยามห่างเหิน
อาจเดียวดายคล้ายอย่างถูกหมางเมิน
จะมีใครไหนเดินเป็นคู่เคียง
ไม่นานหรอกที่รักจักคืนหวน
เรือนอบอวลไออุ่นละมุนเสียง
บทเพลงรักจักแผ่วแว่วสำเนียง
ให้สุขดั่งวังเวียงพร้อมเพรียงกัน
คีตกานต์หวานแว่วไม่แผ่วล้า
มวลประชากล้าลุกรุกสร้างฝัน
ความทุกข์ยากหลากหลายมลายพลัน
คือสวรรค์มั่นหวังทั้งชีวิน
ฝากฝัน
๑๑ กันยายน ๒๕๕๑
11 กันยายน 2551 20:01 น.
ฝากฝัน
ยลภูผาฟ้ากว้างกลางเงาฝัน
ดวงตะวันทอทับจนอับแสง
ยามเหนื่อยล้าลารอนสุดอ่อนแรง
อยากหลบแฝงเงาผาพอล้าคลาย
ขอตักนุ่มชุ่มอ่อนให้นอนหนุน
โอบไออุ่นกรุ่นละไมดั่งใจหมาย
ด้วยด้นดั้นโดดเดียวเพียงเดียวดาย
ยิ่งห่างหายห่วงใจคนไกลตา
มองเมฆเลื่อนเคลื่อนไหวในฟ้ากว้าง
ยามอ้างว้างห่างรักเศร้าหนักหนา
น้ำคำหวานซ่านไหวในวันลา
เธอสัญญาว่ารักจักคอยรอ
เก็บรสรักสลักมั่นไม่หวั่นไหว
เป็นแรงใจให้กันในวันท้อ
บางเวลาล้าเพลียได้เคลียคลอ
ได้ร้องขอต่อกันวันขาดเกิน
จากวันพบคบหาสัญญามั่น
จะรักกันทุกชาติไม่ขาดเขิน
ถึงร้อนรุกทุกข์ล้ากล้าเผชิญ
ขอเพียงเดินด้วยกันนิรันดร์กาล
กลิ่นไออุ่นกรุ่นหอมย่อมตระหนัก
จุดเทียนรักสลักนามอธิษฐาน
ขอเทพไท้ในหล้าจักราวาล
โปรดอย่ารานรักร้าวให้เศร้าทรวง
ตะวันกล้าลาลับกับขุนเขา
เหลือเพียงเราเหงาใจในภูหลวง
ใต้เงาจันทร์ผันฟ้ามาเต็มดวง
สุดแสนหวงห่วงหาจำลาไกล
ฝากฝัน
๑๑ กันยายน ๒๕๕๑