27 ธันวาคม 2552 12:24 น.
ฝากฝัน
คืนสายหมอกระลอกไหวในลมหนาว
น้ำค้างพราววาววับจับพฤกษา
ดั่งแก้มขาวคราวหมองนองน้ำตา
ยามอำลาคราจากเหมือนพรากใจ
กว่าราตรีคลี่ผ่านม่านฟ้าสาง
ใต้ดาวพร่างต่างมั่นสัญญาไว้
เฝ้าพร่ำพรอดกอดประคองข้างกองไฟ
ไกลแสนไกลใจสองต้องชิดกัน
แม้ดึกดื่นฝืนตามิกล้าหลับ
โอบกระชับกับทรวงสุดห่วงขวัญ
ปลอบประโลมโฉมงามท่ามแสงจันทร์
อย่าลืมกันวันคืนเคยรื่นรมย์
หากคะนึงถึงกันทุกวันว่าง
ลบอ้างว้างบางคืนที่ขื่นขม
แม้ยามเหงาเฉาในหัวใจตรม
จะฝากลมพรมไล้ให้ถึงเธอ
จงจดจำค่ำคืนอันชื่นหวาน
ถึงแสนนานปานไหนใจอย่าเผลอ
จะเฝ้ารอขอหวังยังได้เจอ
รักนะเออ เธอรู้แม้อยู่ไกล
ณ.ที่นี่ราตรีหนาวคงพราวหมอก
มวลไม้ดอกออกช่อกอไสว
น้ำค้างพราววาววับจับหัวใจ
โอ้ คนไกล ไฉนหนอให้รอคอย
ฝากฝัน
๒๗ ธันวาคม ๒๕๕๒
20 ธันวาคม 2552 02:25 น.
ฝากฝัน
เพียงสำนึกลึกซึ้งด้วยหนึ่งหญิง
เหนือทุกสิ่งยิ่งกว่ามาเทียบไหว
ยินดีพร้อมยอมรับกับหัวใจ
สุดหลงใหลใฝ่ฝันนับวันรอ
เพียงปีผ่านหวานล้ำเกินคำอ้าง
หัวใจว่างร้างคลายจนหายท้อ
เคยอยู่เรียงเคียงเคล้าพะเน้าพะนอ
มิงอนง้อต่อว่าถ้าขัดใจ
ดั่งเดือนเพ็ญเด่นดวงในห้วงหาว
ทอแสงวาวพราวพร่างสว่างไสว
ถึงคืนแรมแจ่มจันทร์พลันจางไป
ดั่งบางใครไกลห่างมิต่างจันทร์
จากห่วงหาอาทรเริ่มซ่อนรัก
ใจเคยภักดิ์จักคลายคล้ายเดียดฉันท์
เคยรอคอยค่อยหย่อนผ่อนสัมพันธ์
คำจำนรรจ์พลันแข็งด้วยแรงชัง
เจ้าหมางเมินไปถามไม่ตอบ
เริ่มตีกรอบครอบไว้คล้ายกรงขัง
อธิบายขยายความมิตามฟัง
กลับขึงขังบังใจที่ไหวเอน
หากเพียงบอกออกมาขอลาจาก
แม้ลำบากยากแค้นใจแสนเข็ญ
จะพยายามตามใจจนได้เป็น
ค่อยหลบเร้นเน้นหนักจากรักลวง
ฝากฝัน
๒๐ ธันวาคม ๒๕๕๒
11 พฤศจิกายน 2552 20:35 น.
ฝากฝัน
เมื่อฝนร้างจางหายก็กรายหนาว
ทุ่งนาข้าวพราวขจีกลับสีเหลือง
ดั่งผืนทองมองสะพรั่งมลังเมลือง
ยามแดดเยื้องเรืองฉายคล้ายต้องมนต์
ลมหนาวโชยโบยโบกรวงโยกไหว
ดังอาลัยใยฟ้าอำลาฝน
ดุจใจฉันสั่นหนาวร้าวกมล
แสนกังวลหม่นหมางเมื่อนางจร
เจ้าจากนาลาทุ่งมุ่งเมืองฟ้า
ทิ้งข้าวกล้าลาสิ้นกลิ่นเกสร
หลงราตรีสีแสงแห่งนาคร
ลืมฟูกหมอนตอนหนาวเคยเคล้าคลอ
มองวิหคนกกาเคยลาถิ่น
ยังโบยบินผินหน้ากลับนาหนอ
แต่ตัวฉันวันนี้มีแต่รอ
ทนทุกข์ท้อรอรับเจ้ากลับเยือน
ฝากลมหนาวเว้าวอนคอยอ้อนเจ้า
มีคนเศร้าเฝ้านาอย่าเชือดเฉือน
นับวันคอยคล้อยลับเป็นนับเดือน
ดั่งเสมือนเตือนกันจากวันลา
เอารักหวานจารจดดั่งหยดหมึก
ให้ซึมลึกผนึกแน่นดั่งแผ่นผา
แล้วลากเส้นเป็นสายลายน้ำตา
เป็นคำว่าข้าฯนี้รักนิรันดร์
ฝากฝัน
๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๕๒
7 พฤศจิกายน 2552 22:31 น.
ฝากฝัน
สายธารหลั่งพรั่งพรูลงสู่ตาด
ค่อยไหลลาดสาดโตนกระโจนผา
เป็นฟองฝอยลอยใสในนภา
แสงแดงกล้าทาทาบฉาบรุ้งพราย
ฝูงปลาหมายว่ายหวนทวนกระแส
มิท้อแท้แพ้ใจในจุดหมาย
หารวงรังฝังฝากเลือดจากกาย
สืบเชื้อสายถ่ายเถาสร้างเหล่ากอ
มองตัวฉันวันนี้มีหวังไหม
เส้นทางใจไหวหวั่นกลัวพลันท้อ
แต่ละก้าวหนาวสะท้านกับการรอ
ล้วนหนามกอตอขวางทุกย่างเดิน
ใบไม้ผล็อยลอยคว้างกลางธารใส
กลับล่องไหลไกลท่าป่าโขดเขิน
มองวัยวันผันผ่านมานานเกิน
ระหกระเหินเพลินเพลิดเตลิดใจ
อยากลงหลักพักกายให้หายล้า
ใครจะกล้ามาอยู่ดูแลไหม
ขอแรงรักหนักแน่นจากแกนใจ
จะหวั่นไหวใดเล่าเจ้าเคียงกาย
หากเธอเป็นเช่นฝนหล่นพรมผา
เติมธาราคราแล้งก่อนแห้งหาย
ความสุขหลั่งพรั่งพรูมิรู้วาย
ดั่งเริงร่ายว่ายวนบนตาดโตน
ฝากฝัน
๗ พฤศจิกายน ๒๕๕๒
2 พฤศจิกายน 2552 20:12 น.
ฝากฝัน
คืนจันทร์เพ็ญเด่นดวงในห้วงหาว
ทอดเงาพราววาวหวามท่ามธารใส
ลอยกระทงส่งสาส์น ณ ลานใจ
จากคนไกลไปถึงหนึ่งดวงมาน
แม่คงคาคราไหลไปถึงเขา
โปรดนำเอาเนาจิตอธิษฐาน
มอบความรักหนักแน่นนานแสนนาน
ทุกห้วงกาลสานใจไม่ลืมกัน
วอนลมพัดซัดส่งกระทงล่อง
แสงเทียนทองส่องสว่างเส้นทางฝัน
ดั่งดาราคราร้างห่างไกลจันทร์
เพียงแรมวันพลันคู่อยู่ฟ้าเดียว
ขออย่าปล่อยคอยเก้อละเมอถึง
สักน้อยหนึ่งคะนึงเพี้ยงแม้เพียงเสี้ยว
มิอยากเป็นเช่นข้าวเฝ้ารอเคียว
กระต่ายเปลี่ยวเหลียวจ้องเฝ้ามองเดือน
โปรดได้ส่งกระทงใจให้ไหลกลับ
อย่าลอยลับดับหายคล้ายตัดเฉือน
ขอไออุ่นกรุ่นกลิ่นถวิลเตือน
ให้เสมือนเดือนเพ็ญเช่นปีกลาย
โอ้จันทร์เพ็ญเห็นไหมใครคนนั้น
กระทงฝันฉันไปคงไม่สาย
โปรดรอท่าราตรีคงมิวาย
น้ำค้างพรายร่ายฝันคืนจันทร์เพ็ญ
ฝากฝัน
๒พฤศจิกายน ๒๕๕๒