30 สิงหาคม 2552 21:00 น.
ฝนทอง
เป็นเพียงชู้ทางใจใครจะว่า
อย่าเกินกว่าความคิดในสิทธิ์ฝัน
เป็นคนรักร่วมห้องปองสัมพันธ์
โดยฝ่าฟันอุปสรรครักของตัว
เป็นเพียงชู้ทางใจอาจจะเจ็บ
และหนาวเหน็บกายาพาเวียนหัว
เพราะคิดถึงคนรักจึงหมองมัว
เกรงความชั่วจึงยอมเจ็บเก็บอารมณ์
เป็นเพียงชู้ทางใจใครจะว่า
ถ้าอำลารักไกลแม้นขื่นขม
ถึงเจ็บปวดรวดร้าวระทม
ขอจงข่มใจจากเพราะรักจริง...
15 สิงหาคม 2552 21:00 น.
ฝนทอง
ความเอ๋ยความรักปักดวงจิต
ช่างตรึงติดฝังแน่นดังแผ่นผา
ยากสลัดตัดออกจากอุรา
ให้ห่วงหาอาทรร้อนรุ่มใจ
อันความรักหากใครได้สัมผัส
เห็นได้ชัดด้วยอารมณ์ที่อ่อนไหว
บางครั้งดูสดชื่นเพราะสุขใจ
บางครั้งได้ทุกข์โศกอกระทม
แม้นว่าใครมีรักที่แท้จริง
ย่อมยอมทำทุกสิ่งแม้ขื่นขม
เพียงขอให้คนที่รักไม่ตรอมตรม
จึงจำข่มตัดใจลาจากไป
5 สิงหาคม 2552 22:41 น.
ฝนทอง
๑. ลูกหิว ร้อง อุแว้ แม่มาหา
อุ้มลูกยา ขึ้นตัก ควักทรวงถัน
ให้ดูดดื่ม น้ำนม อย่างฉับพลัน
พร้อมปลอบขวัญ ลูกน้อย เจ้ากลอยใจ
อิ่มอุ่น ซึมซับ กับอกแม่
สายตาแลประสานจิตพิสมัย
ดูดดื่มอิ่มท้องยิ้มสุขใจ
มือแม่ไล้ลูบหลังอย่างเอ็นดู
เติบโตหน่อยเดินเตาะแตะบ้างหกล้ม
ร้องเสียงขรมคำแม่ปลอบช่างสวยหรู
ตะครุบกบหรือไรเอามาดู
ได้ไหมหนูอยู่ไหนกันนะกบเอย
เสียงแม่บอก เอ๊า...เริ่มใหม่ใจกล้ากล้า
เดินกระแตไปมาอย่านิ่งเฉย
เดี๋ยวอีกหน่อยก็เดินคล่องนะทรามเชย
เสียงพ่อเอ่ยสนับสนุนคำของแม่
ล้มแล้วลุกขึ้นใหม่ใจต้องสู้
อย่านอนคู้ร้องเจ็บทำงอแง
จงอดทนฝึกฝนอย่าท้อแท้
จับกระแตเดินตามเถิดทรามวัย
๒. ถึงวัยเรียน ส่งลูก เข้าศึกษา
แสวงหา ความรู้ ตามสมัย
ยี่สิบปีสำเร็จสมฤทัย
เข้าสู่วัยทำงานตามครรลอง
มีงานมีเงินมีคนรัก
ไร้อุปสรรคขัดขวางให้หม่นหมอง
เมื่อมีรักมีงานสมใจปอง
ระฆังทองวิวาห์พาสุขใจ
แต่งงานแล้วแยกอยู่จากพ่อแม่
มุ่งมั่นแต่ทำงานเพื่อครัวใหม่
ทิ้งคนแก่ตามกรรมซ้ำจากไกล
และยังไม่เหลียวแลแม่ของตัว
จวบจนวันหนึ่งมีลูกรัก
จึงประจักษ์บุญคุณนั้นท่วมหัว
คิดถึงแม่ไปหาแม่พร้อมครอบครัว
แม่ยิ้มหัวต้อนรับประทับใจ
นี่แหละพระคุณของแม่บังเกิดเกล้า
ยังรักเรามั่นคงอย่าสงสัย
ถึงลูกนี้ไม่รักไม่เป็นไร
ขอเพียงได้พบลูกก็สุขเอย ฯ