25 มิถุนายน 2549 15:50 น.
ผู้ไม่มีหัวใจ
เมื่อเดินท่อง เที่ยวเล่น เย็นใจ
ละไมไป ตามท้อง ถิ่นทุ่ง
เก็บภาพ ประทับใจ กลับไปปรุง
หอมฟุ้ง ความฝัน บันดาลใจ
จัดแจง ตั้งแป้น ภาพจะวาด
ใช้สีฉาดฉูดเฉดเป็นการใหญ่
หาภาพเก่าเก่าของใครใคร
มาไว้เป็นต้นแบบแปลกตา
กะว่าจะวาดไอ้โน่นนี่
ก็พอดี เปลี่ยนใจ ไปมาได้
วันนี้เอา พรุ่งนี้เปลี่ยน ไม่ปลงใจ
แล้วเป็นไง ยังขาวอยู่ ดูยังดี
เป็นอย่างงี้ ตั้งแต่เกิด แล้วครับ
สุดจะรับ นับถือ อย่างไรได้
แต่อย่างไร จะไม่ยอม พลั้งพลาดไป
ก็ต้องได้ ภาพดี นี้แน่นอน
แต่ต้องคอยอะไรอีกหลายอย่าง
ไม่อวดอ้าง หลักเกณฑ์ ระบายสี
ก็เดินไป หาซื้อตาม ห้างดีดี
ก็มีราคาแสนแพงแพง
ก็ได้แต่ เปิดดู ที่เขาเขียน
ลอกจำเลียน ไว้ในหัว ไม่มั่วหมอง
อ่านไปแล้ว หลายเล่ม เห็นทำนอง
ไม่ต้องท่อง จำได้แล้ว สะแด่วดี
ลงทุนซื้อ ทุกอย่าง มาหมดแล้ว
ขาตั้ง สีน้ำมัน พู่กันใหญ่
พู่กันเล็ก ลีนสีด มีดตะไบ
เทียนไข แต่แล้วไง ขาดอารมณ์
25 มิถุนายน 2549 05:33 น.
ผู้ไม่มีหัวใจ
อากาศแปร ปรวนเปลี่ยน รุนแรง
น้ำแข็งขั้ว โลกเหนือ ละลายไหล
น้าท่ามมาก กว่าเดิม แล้วไซร์
ลมพายุ ยิ่งนาน ยิ่งรุนแรง
โรคภัยเบียด เบียนซ้ำ บีทา
สรรพสิ่งนานาผันเปลี่ยน
คนฉลาด มัวคิดแต่ ตนเอง
จากเดิม พังน้อย เป็นพังใหซ่
แม้เด็ก ก็ต้องรับ ผลกระทบ
จิตใจน้อย เริ่มเปลี่ยน ตามธรรมชาติ
ครูไม่ได้สอนให้เด็กฉลาดอีกต่อไป
ผู้ใหญ่ก็ไม่ได้สอนให้เด็กดี
จบมาการงานก็หายาก
เงินเดือนมาก แต่ค่าใช้จ่าย ยังมากกว่า
หันหาอบาย เพื่อความ สมดุลย์
อนิจจา ยิ่งหา ยิ่งเสียสูญ
ภาคใต้ก็ ก่อการร้าย ไม่เว้น
โลหิตสาดกระเด็นกระเซ็นเปื้อน
ทำไปได้อย่างไรกับคนตาดำดำ
ชีวิตเขา เพื่ออะไร ของใคร
เรามาตั้งจิตอธิษฐาน
รวบรวมบุญไว้เพื่อแจกจ่าย
อุทิศให้พวกมีกรรมรอบกาย
จงได้มีสุขปราศทุกข์ภัย
ระบอบวิธีคิดมากมาย
หลากหลายนำมาใช้ให้ขำ
ไม่รู้ว่าที่นำมาลอกใครมา
กรรมหนักหนา ไม่รู้ จักคิด
ขณะที่โลก กำลัง หมองหม่น
เราทุกผู้ ทุกตน สงบจิต
รักษากาย รักษาใจ รักษาความคิด
อุทิศ กุศล มุ่งทำแต่กรรมดี
เมื่อไร แต่ละคน คิดได้
ก็ไม่สาย เกินไป กระมังหนา
แล้วเริ่มหัน มาบีทา
กับตัววร้าย ในกายใจ ตน
แม้ว่าโลก จะหมอง จะหม่น
เราเป็นคน จะทน อย่างไรได้
มาช่วยกัน ทำเพื่อ ลูกหลานจะเป็นไร
ให้แกได้ อยู่สงบสุข ต่อต่อไป
24 มิถุนายน 2549 06:18 น.
ผู้ไม่มีหัวใจ
เฝ้าคอยหา วันเวลาที่จะรู้สึกสุขกายสบายใจปลอดโปร่งใจ
ละแล้วมันก็มาถึงจนได้
เหมือนๆกับการเฝ้ารอให้ฝนตกพรำๆจะได้นอนสบาย
ละแล้วมันก็ต้องมา
ได้ดูช่องเคเบิลทีวี แล้วได้พบหนังที่ฉาย
ฉายให้เห็นคุณค่าของรักแท้ และความหมายของรักแท้ หลายเรื่อง
ผมเฝ้าชื่นชม บางทีหยาดน้ำตาก็ซึมไหลออกมา ด้วยความซาบซึ้ง
วันหยุดแม้จะเบื่อหน่ายรถติดที่กรุงเทพเพียงใด
แต่ก็อยากจะใกล้ชิดภรรยาและลูกตลอดห้วงวันหยุด
ดังนั้นจึงต้องขับเข้ามา
วันนี้ฝนตก ตกมาตั้งแต่เมื่อคืนนี้แล้ว อากาศเย็นสบาย
ผู้ที่คอยรักษาจิตใจให้เป็นปกติได้
คงจะมีความสุขที่แท้จริง
19 มิถุนายน 2549 03:36 น.
ผู้ไม่มีหัวใจ
จากเรือนริม น้ำมา กายาสั่น
ให้พะพรั่น หวั่นใจ ในคิดถึง
แสนปวดร้าว สุดจิต คิดคำนึง
เมื่อไรจึง ได้ไป อยู่อีกนา
เรือนหลังใหญ่ เป็นเรือน หลวงยกบัตร
แห่งเมืองราช บุรี ศรีสถาน
บนฝั่งซ้าน แม่กลอง มายาวนาน
แสนสำราญ เหมือนกัน ก็พลันลืม
พอยามเช้า ลมเย็นโชย ไม่อยากลุก
นาฬิกาปลุก เท่าได ก็ไม่สน
ขออีกนิด อีกหน่อย ค่อยค่อยกรน
ไม่สับสน รีบเร่ง เบ่งกับใคร
อยู่ต่างจังหวัดก็ดีแบบนี้แล้
ไม่ต้องแห่รีบแข่งแซงตัดหน้า
ค่อยค่อยคิดค่อยค่อยไปสบายอุรา
สุขหนักหนา ต่างจังหวัด สวัสดี
เบียร์เย็นเย็น ก็แช่ อยู่ในตู้
ว๊อดก้าอยู่ รัมก็นิ่ง ไม่ติงไหว
เอ็มร้อยเย็น คอยท่าน อยู่ภายใน
นมสดไง ไวน์เย็นเย็น เต็มตู้เลย
17 มิถุนายน 2549 05:44 น.
ผู้ไม่มีหัวใจ
ความเป็นคน ผู้ชาย สบายจิต
เอาแต่คิด อย่างเดียว เรี่ยวแรงเหลือ
นอนกกสาว แก่แม่หม้าย เป็นลำเรือ
จนไม่เหลือ หมดแรง แผ่ฝ่อไป
แรกแรกก็ มันดี แสนสนุก
แต่ก็ทุกข์ มากกว่าสุข เป็นไหนไหน
สู้กอดลูก กอดเมีย ให้บายใจ
หอมอะไร ไม่สู้ หอมกลิ่นเมีย
ไม่มีใคร จะสู้ เมียตูได้
ให้อภัย สักหน่อย นะเมียจ๋า
ผิดไปแล้ว พลาดไป อายอุรา
จะกลับมา เป็นที่รัก ที่ดีดี
อันผู้ชาย หลงเก่ง เช่นอย่างพี่
แต่อย่ามี โมโห โทโสใส่
ปล่อยให้ชาย ร่อนไป สบายใจ
ไม่ไปไหน เดี๋ยวก็กลับ มาตายรัง
ยามอยู่ใกล้ ทุกวัน นั้นอยากห่าง
แต่คะครั้น ห่างไกล ซิห่วงถึง
อยากจะใกล้ อยากจะคิด หวลคะนึง
พอมาถึง เจอกัน ตะบันซอย
ดังนั้นเมีย ทั้งหบาย สบายจิต
อย่าไปคิด อย่ากังวล คนที่หาย
ทำตัวเอง สดสวย หน้าตาสบาย
เดี๋ยวตัวร้าย ก็กลับ มารับเอง
อย่าไปดุ อย่าไปด่า หรือว่ากล่าว
ทำให้เขา โกรธเกรี้ยว เบี้ยวเอาหนา
ใช้ความรัก ความซึ้งเก่า ปลอบอาตมา
และเชื่อว่า รักแท้ ไม่แปรไป