17 มิถุนายน 2548 23:17 น.
ผู้เฒ่า
บันทึกวิปโยคครั้งหนึ่งโลกแหลกสลาย
เกิดขึ้นเมื่อความตาย.. พรากเจ้าไปจนไกลตา
มองแสงจันทร์กระจ่างเงาสว่างผิวธารา
หลังม่านชลนา. ยิบระยับสะเทือนใจ
หาดทรายกับสายลม. ความขื่นขมที่อ่อนไหว
ขุนเขาที่ยาวไกล.. ผนึกในจินตนาการ
แมกไม้ความรู้สึก เร่งสำนึกให้ขับขาน
ปลดปล่อยรอยร้าวราน .บันทึกผ่านอักษรา
มหาสมุทรแม้นลึกล้ำ มิเท่าคำจำนรรจา
ถ้อยคำพรรณนา ทรงคุณค่าให้จดจำ
เสียงแผ่วเคยแว่วหวาน ยังกังวานคอยตอกย้ำ
กี่ครั้งและกี่คำ เป็นลำนำประจำใจ
ปีเดือนที่เลือนลับ มิหวนกลับคืนมาใหม่
เพียงภาพสนิทนัย . ตรึงรอยช้ำให้กล้ำกลืน
ครืนครืนเสียงซัดสาด ..ป่าวประกาศว่ายังตื่น
ทะเลทุกวันคืน มันก็ตื่นอยู่ร่ำไป
ดวงกมลของคนเศร้า เก็บภาพเก่าตรึงดวงใจ
สุดสิ้นอายุขัย ประหนึ่งคลื่นกลับคืนรอย
ครบรอบหวนรำลึก เปิดบันทึกคำเรียงร้อย
จดจำคำว่า.คอย. ชั่วชีวิตนิจนิรันดร์@
@ไม่ว่าคุณจะ.คอย.อยู่ที่ไหน..สักวันผมจะไปหา..
แม้ไกลสุดฟากฟ้าถึงเวลาผมจะไป@
เพราะรู้ว่าอยู่ใกล้.. ลมหายใจสายสัมพันธ์
คือที่เรามีกัน.. เธอกับฉันตลอดมา
ทุกอย่างแม้นผ่านผัน .. แต่ในฝันทุกเพลา
ลืมตาหรือหลับตา...ความคิดถึงเพียงหนึ่งเดียว.@
ทุกคนย่อมมีสิ่งที่ควรจดจำ..สำหรับเราไม่มีสิทธิ์เลือก
.และไม่ต้องการเลือก..ในวันหนึ่ง..ที่เรามีความรู้สึกยากจะลืม..
เรื่องนี้เริ่มเขียนตั้งแต่ที่วังแก้ว..ความจริงคาดไว้ว่าจะยาว..
เพื่อเก็บไว้ในอนุสาวรีย์แห่งใจ ประจำปี..แต่เนื่องจากภาระมาก
แต่เมื่อคิดจะเขียนนานแล้ว..ก็เลยต้องเขียนสักนิด.เพื่อระลึก
ถึงวันนี้..17มิ.ย2521..เพื่อเจ้าของ..สร้อยหิน.ในคอ..
ถ้าไม่จำเป็น ผมไม่เคยถอด..และรับรู้อยู่เสมอ
คุณคอยมอง และให้กำลังใจผม..อยู่ตลอดเวลา..
สร้อย
สร้อยหินสี สวมคอ..หมายต่อรัก
มั่นคงนัก ชั่วฟ้า..ดินสลาย
สร้อยคงคอ รักอยู่..มิรู้คลาย
คอห่างกาย จึ่งขาดสร้อย..ที่ห้อยคอ
สองมือสวม ใส่สร้อย..ละห้อยหา
ภาพตรึงตรา มิวาย..เพราะสายศอ
แม้สวรรค์ บั่นรัก..คิดจักรอ
เพื่อสานต่อ พิศวาส..ทุกชาติเจอ
สัมผัสรัก ส่งมอบ..จากขอบฟ้า
รับรู้ว่า คอยดู..อยู่เสมอ
ณ.วันนี้ โลกของฉัน..นั้นขาดเธอ
น้ำตาเอ่อ ทุกครา..มองฟ้าไกล
สร้อยยังสวม ติดคอ..รอเจ้าของ
ถึงคราต้อง ตามส่ง..อย่าสงสัย
ถึงเวลา พบกัน..ฉันจะไป
ยื่นสร้อยให้ กับเธอ..พร้อมเจอกัน..@
กลอนเรื่องนี้ เคยลงแล้วครั้งหนึ่ง..
แต่นับไม่ได้..สำหรับใจที่ไม่เคยลืม.
14 มิถุนายน 2548 21:51 น.
ผู้เฒ่า
เบอร์หน้าจอ โชว์ขึ้น ช่างขื่นขม
เก็บอารมณ์ รันทด กดรับสาย
ยินเสียงแผ่ว คนคุ้น ว่าวุ่นวาย
เหนื่อยแทบตาย ยุ่งชะมัด งานรัดตัว
โทรทุกครั้ง บ่นว่า เวลาน้อย
เสียงอ่อยอ่อย พูดจา น่าปวดหัว
คำคิดถึง เมื่อลา ช่างน่ากลัว
มันหม่นมัว ยามยิน แทบสิ้นลม
โชว์แต่เบอร์ พร้อมเสียง เพียงจะรู้
ว่ายังอยู่ หรือไม่ แค่เหมาะสม
มิโชว์ใจ กล้ำกลืน จะชื่นชม
ต้องโศกตรม หมดปลื้ม เขาลืมเลือน
โทรศัพท์ ข้างแก้ม แต้มด้วยน้ำ
แห่งความช้ำ จากหางตา ไหลมาเปื้อน
ปล่อยมันไหล รินย้อย เพื่อคอยเตือน
ว่ายามเยือน เป็นคู่สาย รักหายไป
เบอร์ที่โทร โชว์เห็น นั้นเป็นทุกข์
จะนั่งลุก ยืนนอน ก็อ่อนไหว
สงสารเถิด คนโทร ควรโชว์ใจ
เป็นเช่นไร ใจคนโทร พร้อมโชว์เบอร์..@
11 มิถุนายน 2548 23:14 น.
ผู้เฒ่า
จงระวัง น้องนาง มียางหน่อย
เหมือนจะอ่อย ไขว่ห้าง น้องนางเอ๋ย
นุ่งก็สั้น มิเกรงใจ ผู้ใดเลย
อย่าทำเฉย เรียบร้อย เสียหน่อยนาง
วัดนะน้อง ชอบผ่า นุ่งผ้าขาด
ฆราวาส มองเห็น ใจเต้นผาง
สถานที่ ถิ่นธรรม ควรอำพราง
ยากจะวาง จิตสงบ ยามพบเจอ
ถ้าเข้าวัด แต่งเฉพาะ ให้เหมาะสม
คนนิยม มากกว่าหวัง เจ้านั่งเผลอ
เสื้อเกาะอก สายเดี่ยว เสียวนะเออ
ถ้าเลินเล่อ เผลอหก น่าตกใจ
แต่โบราณ เข้าวัด ต้องจัดร่าง
ให้ถูกทาง น่าชม สมสมัย
จะเดินเหิน ลุกนั่ง ระวังระไว
มิทำให้ ใครชำเลือง เคืองลูกตา
ปัจจุบัน เปลี่ยนไป ก็ไทยอยู่
ควรต้องรู้ เกี่ยวกับ ศาสนา
จะเข้าวัด สำรวม กิริยา
ใส่เสื้อผ้า มิดชิด สักนิดนาง
คนกับวัด ขัดกัน ก็บรรลัย
วัดควรไป เป็นประจำ อย่าทำห่าง
พุทธมามก..ควรจะวาง
สงสารพระ เจ้าบ้าง น้องนางเอย..@
เรื่องสุดท้าย ชุดฝาวัด..รวมได้ยี่สิบเรื่อง..ของเก่า -เขียน ขโมย..
ความจริงเรามิได้รังเกียจเลย .ในกรณีของ ชุดแต่งกาย.มันเป็นไปตาม
สมัยนิยม..และความจริงก็ดูสวยงามดีเพียงแต่ต้องตระหนักถึงสถานที่..
แต่ที่ได้เห็น และคุยกับพระ..ก็มีจริงๆ..แล้วพระเอง ก็พูดเรื่องนี้ไม่เหมาะ
ก็เลยสื่อออกมาเป็นบทกลอนนี้ติได้ชมได้..ไม่รับค้อนสวัสดีครับ..
10 มิถุนายน 2548 21:58 น.
ผู้เฒ่า
อันคนเรา อาบน้ำ ทุกค่ำเช้า
จะต้องเอา ก้อนสบู่ เข้าถูร่าง
แล้วขัดถู คราบเปื้อน ให้เลือนลาง
เอาน้ำล้าง สบู่ออก ที่ฟอกมา
บ้างก็เลือก สบู่หอม ถนอมผิว
รักษาริ้ว รอยย่น บนใบหน้า
บ้างก็ใส่ น้ำนม ผสมยา
หวังรักษา ผิวพรรณ ฟอกกันไป
บ้างก็เชื่อ ของนอก เขาหลอกล่อ
ซื้อยี่ห้อ ถูทุกวัน ทันสมัย
บ้างนิยม ทดลอง แบบของไทย
สมุนไพร ใส่ทำ ตามตำรา
โฆษณา ว่าดี ไม่มีเสีย
ใครเขาเชียร์ ของดี วิ่งรี่หา
ฟอกจนผิว ผุดผาด สะอาดตา
มิรู้ว่า สะอาดไป ถึงไหนกัน
ชำระล้าง ภายนอก แล้วบอกสวย
ก็เห็นด้วย สวยงาม ตามที่ฝัน
แต่ภายใน ใครเล่า จะเท่าทัน
ยังปล่อยมัน สกปรก รกรุงรัง
จะล้างจิต ฟอกใจ ให้กระจ่าง
คงต้องสร้าง สบู่ใหม่ เอาให้ขลัง
ผสมสูตร ธรรมะ เป็นพลัง
ตั้งจิตหวัง สร้างทำ แต่กรรมดี
แล้วถูฟอก จนสิ้น อายุขัย
รักษาใจ พ้นกิเลส เหตุบัดสี
โลภโกรธหลง ฟอกให้บ่อย อย่าปล่อยมี
เมื่อถึงที่.สุขได้ แม้นตายเอย.@
9 มิถุนายน 2548 12:42 น.
ผู้เฒ่า
กิจวัตร ทั้งผอง ของมนุษย์
เมื่อสิ้นสุด หยุดลง ปลงสังขาร
จะเหลือแต่ เพียงชื่อ ให้ลือนาน
ผลประจาน ตามสั่ง ของสังคม
ผลของกรรม บัดสี สิ่งที่ชั่ว
เมื่อเกลือกกลั้ว เปะปะ ก็สะสม
หรือความดี มีค่า น่านิยม
ถ้าชื่นชม งมทำ ได้กรรมดี
ธรรมชาติ ของคน อยู่บนโลก
ล้วนสุขโศก งอกงาม ตามวิถี
ทำสิ่งใด ผลกระชั้น เกิดทันที
มิอาจหนี สิ่งใด จากใจเลย
เหมือนปลูกถั่ว ฝันย้อน จะซ่อนเร้น
ก็ยังเห็น เป็นถั่ว อย่ากลัวเผย
เวลาผ่าน ผลยัง เป็นดั่งเคย
มันเฉลย ความจริง ทุกสิ่งคง
กิจวัตร ทั้งผอง ของมนุษย์
รู้จักหยุด แยกแยะ อย่าลุ่มหลง
อันความโกรธ โลภ-รัก รู้จักปลง
อย่าพะวง หลงใหล ทำใจเทอญ...@
เพื่อนเป็นเจ้าอาวาส อยู่ในเขตชนบท..
บอกให้เขียนกลอน..จะเอาไปติดข้างฝาวัด..
ค้นแล้วค้นอีก.ก็มีไม่กี่เรื่อง..เลยต้องเขียนใหม่อีก..
เอามาลงทักทายมิตรสหายซะก่อน..
กำลังคิดๆอยู่ ว่าจะหาเอาแถวบ้านกลอนนี่แหละ..
ขโมยของใครไป จับได้ อย่าถึงกับ ประหารชีวิตกันนะ