19 พฤษภาคม 2547 22:12 น.
ผู้เฒ่า
กระท่อมน้อยหว่างแนวกลางแถวไผ่
ซ่อนอยู่ในป่ากว้างข้างภูเขา
มีสายธารผ่านล้อมกระท่อมเรา
แต่ขาดเงาน้องนุชบุษบา
พฤกษชาติพรรณไม้ให้สดชื่น
ภิรมย์รื่นชดช้อยร้อยบุปผา
รัญจวนหอมตอมสุมกุมรา
พิศสง่าธรรมชาติพิลาสชม
หิรันญิ. การ์เจ้าดอกขาวใหญ่
นั่นกล้วยไม้เจ้าพนาสง่าสม
กุหลาบป่านมแมวแล้วลั่นทม
ทั้งชวนชมสารภีมะลิลา
มหาพรหมสาวหยุดพุดสามสี
บานบุรีคัดเค้าเจ้าดาหลา
ราชพฤกษ์ปาหนันสะบันงา
ซุ้มเฟื่องฟ้าดอกมะป่วนลำดวนดอย
ตันหยงกระดังงาโมกลา.หอม
แก้วเจ้าจอมจันทร์กระพ้อรอคนสอย
ดอกยี่หุบจำปามณฑาดอย
ปลูกไว้คอยรับขวัญจันทร์.พยอม
บุหรงเลื้อยกล้วยค่างขางหัวหมู
ดอกคำฟูนมชะนีราตรีหอม
กล้วยหมูสังจำปีสิรินธร
กุหลาบมอญจำปูนคูณชมพู
การเวกศรีตรังสังหยูเขา
บุหงาเถาบัวสวรรค์นั่นนมหนู
ส่าเหล้าต้นบุนนาคราชครู
พวงชมพูสะพลีศรีมาลา
เหลืองจันทน์สะแกแสงแดง.หงอนไก่
โสกเหลืองใหญ่ตำหยาวเข็มขาวป่า
อินทนิลกลึงกล่อมหอม.ทิวา
สร้อยระย้าตะแบกม่วงพวงโกเมน
พู่จอมพลไข่ดาวข้าวหลามดง
ดอกประยงค์จำปาขอมหอม.พิมเสน
ชมนาดคายค่าวเจ้าไสเดน
กล้วยอีเห็นโบตั๋นกรรณิการ์
ดอกพิกุลพุดตานทานตะวัน
ม่วงอัญชันเบญจมาศวาสนา
กระโมกเขา.สนั่น.สุพรรณิการ์
โสกระย้าดาวเรืองเหลืองดอก.กลาย
กาสะลองชงโคยี่โถขาว
นั่นช้างน้าวนมควายคุณนาย.ตื่นสาย
แสดสยามรำเพยดอก.เขยตาย
ทองอุไรบัวผุดพุดตะแครง
โปร่งกิ่วรสสุคนธ์มณฑาป่า
ฉัตรลีลาคำมอกดอกแสลง
กล้วยไม้ดินเพชรหึงพลับพลึงแดง
นั่น.ต้องแล่งพุดป่าราชาวดี
ข้าวหลามหอมนางแดงแสลงใจ
บุหงาใหญ่กะเจียนดอกเทียนสี
มากกว่าร้อยมาลาป่าที่มี
กระท่อมนี้หอมล้ำพรรณา
สายน้ำเลาะเซาะหินไอดินกรุ่น
หอมละมุนอบอวลมวลบุปผา
เสียงนกร้องเริงใจในพนา
ผู้ชรา.สุข.ฝัน..ทุกวันคืน...
เราติดตามผลของสมุนไพรชนิดหนึ่งเกือบ3ปี เห็นว่าใช้ดี
และได้ผล จึงบอกเล่าสู่กันฟัง..
สิงหโมรา..ต้นคล้ายบอน ก้านสีน้ำตาลดำมีหนาม เส้นใบมีสีแดง
สรรพคุณ..เกี่ยวกับเส้นเอ็น.กล้ามเนื้อ ทำให้กระชุ่มกระชวย และที่ดีมาก
คือโรคริดสีดวง..
วิธีใช้...ใบ-ก้านใบ..ตากแห้งดองเหล้า ถ้าไม่กินเหล้า ใช้สดๆ.ต้มเอาน้ำใส่
ขวดไว้ดื่ม หรือใช้ใบสดจิ้มน้ำพริกกิน
แหล่งหา..สวนจตุจักร..บ้านหมอสมุนไพร และร้านขายต้นไม้ทั่วไป
ราคา..ขนาดความสูง1ฟุต..ประมาณ30-50บาท ตัดกินแล้ว ปล่อยให้แตกใหม่
สุภาพบุรุษที่อ่อนล้า ทำงานมาก..ลองดูครับ..
ไม่มีอันตราย และผลข้างเคียง ผ่านการวิจัยจากห้องปฎิบัติการแล้ว...
19 พฤษภาคม 2547 22:10 น.
ผู้เฒ่า
ถ้าฉันมีสิบพักตร์เหมือนยักษ์นั่น
สิบหน้านั้นของฉันจะหันยิ้ม
ยี่สิบตามองเฝ้าแต่เจ้าพิม
ถนอมนิ่มนวลจอมกระหม่อมใจ
ยี่สิบแขนสวมสอดกอดเจ้าฝัน
อีกมือนั่นเชยชิดพิสมัย
มอบความรักสิบดวงห้วงหทัย
ให้จอมใจมิ่งขวัญกัลยา
ขอหัวใจกันหนาวสักคราวครั้ง
เสริมกำลังรักเราที่เฝ้าหา
เป็นร่มรื่นเริงใจยามไกลตา
คำสัญญาร่วมกันจะฝันครอง
หรือคำบอกยอกใจที่ไหวอ่อน
ไม่อาจวอนให้รู้เป็นคู่สอง
หรือที่ผ่านเป็นแค่แผลทดลอง
ใช่หมายปองร่วมฝันทุกวันไป
สารภาพใจทรุดถ้าหยุดรัก
เพราะลงหลักล่วงตอนที่ถอนไหว
ถ้ารักเธอเมินหมาง.มาห่างไป
คงทำได้แค่สะอื้น.ขื่นใจเรา
และฉันมีหน้าเดียวซีดเซียวหมอง
อีกมือสองของฉันอันอับเฉา
ไร้พลังจะสร้างทางรักเรา
เพราะโง่เขลางมงาย.ยังหมายปอง
มีโรงเรียนไหนสอนขั้นตอนรัก
จะสมัครเรียนถามเรื่องความหมอง
วิชาลืมผิดหวังไร้ทางครอง
ฤาเราต้องเริ่มเรียนเพื่อเปลี่ยนใจ
วิชาลืมโปรดสอนขั้นตอนด้วย
ขอจงช่วยสอนรักอย่าผลักไส
เวทนาคนเขลาที่เศร้าใจ
ยามเธอไกลไว้ลอบ.ปลอบชีวา
อันดอกรักยังมีสีทั้งสอง
ถ้าเรามองจะเห็นเป็นปัญหา
สีม่วงเศร้ามองเห็นก็เย็นตา
ควรเปรียบว่าเช่นไร.เชิญไขกัน...
และอีกสีขาวนวลควรนิยาม
เปรียบใจตาม.สีรักหรือพักฝัน
จะมีรักควรตรองมองให้ทัน
ไม่เช่นนั้นร้างสุข.จะทุกข์ตรม...
16 พฤษภาคม 2547 22:44 น.
ผู้เฒ่า
จิตประหวั่นหวาดวิตกโอ้อกเอ๋ย
คำเจ้าเอ่ยบอกฝันน่าหวั่นไหว
ฟ้าไร้ดาวเจ็บเท่าเหมือนเจ้าไกล
ฝากเอาไว้แต่คำที่กล้ำกลืน
แบกถุงผ้างกงกเงิ่นขาเดินสั่น
ตามหาฝันลมลมโง่งมฝืน
คนงมงายเงียบเหงาที่เขาคืน
รักระรื่นรวดร้าวเรื่องราวลวง
งงงันเงียบหงุดหงิดชีวิตหมอง
น้ำตานองรักวาย.มลายสรวง
ความรักเป็นเงื่อนงำที่ช้ำทรวง
โดนเด็ดดวงวิญญานสะท้านใจ
เหลียวมองหาคนช่วยโปรดด้วยเถิด
รักที่เกิดหยิบส่งอย่าสงสัย
เอื้อมมีอฉุดรั้งรักที่ผลักไป
ถนอมให้ความชื่นหวลคืนมา
ทะเลทรายร้อนแล้งเหือดแห้งโหย
ยามฝนโปรยความชื่นตื่นผวา
น้ำคำรักเพริศแพร้วของแก้วตา
มิอาจหาความชุ่มที่นุ่มนวล
คนเลอะเลือนเคลื่อนคล้อยลับลอยเลื่อน
ถิ่นเคยเยือนยลยินสิ้นกำศรวล
จำจากจรจักจารจำคำคร่ำครวญ
สิ้นสัดส่วนสุขสันต์เธอปันใจ
คนโง่งมเงียบเหงาใครเล่าเห็น
ใครจะเป็นความชุ่มนุ่มไสว
ยามรันทดรักเวียนเธอเปลี่ยนไป
จะมีใครคอยรับซับน้ำตา
หวามวิเวกวังเวงบทเพลงเศร้า
คนเคลียเคล้าคู่คลาดมาพลาดหา
บทเพลงเหงาสร้างสรรพรรณา
ร้อนปานว่าน้ำกรดมารดกัน
คนเลอะเลือนโง่งมที่ตรมจิต
ร่างลิขิตคำกลอนมาย้อนฝัน
ถึงเรื่องราวรักสลายที่กลายพันธุ์
ไม่มีวันชื่นชมให้สมปอง
บทสุดท้ายของเรื่องมิเคืองขุ่น
ขอบพระคุณเคยให้ใจสนอง
เรียนเพื่อรู้เรื่องรักจักทดลอง
แม้จะต้องจำนานชั่วกาลเอย...@
12 พฤษภาคม 2547 21:23 น.
ผู้เฒ่า
เดินบนโลกอ้างว้างบนทางเหงา
ความอับเฉาคล้ายเพื่อนเยือนสนอง
บนถนนเก่าเก่าใครเล่ามอง
ฝันที่ปองเลยละมิตระการ
เพราะหัวใจไม่ได้เสริมใยเหล็ก
มิอาจเสกสรรสร้างหนทางหวาน
หลงเพียงเงาอักษรที่กลอนกานท์
ทรมานจำหลักเพราะรัก.รอง
ขอยอมเป็นคนสงวนตามส่วนสัด
ที่เธอจัด.ทำเศร้าให้เราหมอง
ลำดับที่เท่าไหร่เธอให้ครอง
ร่วมสนองความรักคล้ายผักปลา
คนสงวนพ.ร.บ.ขอหัวใจ
สักเสี้ยวในความจำที่คลำหา
เพียงซากรักให้ทานคล้ายผ่านมา
ต่อชีวาวิปโยคที่โศกครวญ
เพียงหัวใจมีไว้.คนให้รัก
ก็สุขนักตามประสาค่าสงวน
ติดอยู่ในห้วงฝันร้างรัญจวน
น้อยคำครวญเสน่หาที่พร่าใจ
พ.ร.บ.เพราะรัก...เพียงบำเรอ
ยินดีเจอรักซ้อนอันอ่อนไหว
และจะภักดิ์รักเธอเสมอไป
จวบจนไร้ร่างสิ้น.ใต้ดินเย็น
เพราะความรักเลือกไม่ได้อย่างใจคิด
จะถูกผิดบอกกล่าวใครเล่าเห็น
มีเหตุผลหรือไม่.ใช่ประเด็น
รักเธอเป็นทั้งสุขและทุกข์ตรม
บทสุดท้ายคนสงวนพ.ร.บ.
เตือนคนท้อ.กล้ำกลืนอย่าขื่นขม
มีความรักเจ็บแสบไว้แอบชม
ยังภิรมย์กว่าใจ..รักไม่เป็น..@
เรื่องนี้เขียนตกสัมผัส ไปบ้าง..ขออภัยท่านที่เข้ามาอ่าน
เพราะความหมายบังคับ..ถ้าท่านใดจะกรุณาแก้ไขให้-
สวยงามยิ่งขึ้น..ขอขอบพระคุณเป็นอย่างสูง..
8 พฤษภาคม 2547 23:29 น.
ผู้เฒ่า
แม้นอนหงายที่โถงในโลงตั้ง
ได้แว่วฟังคำพระ.ละสังขาร
มิเคยลืมความฝันเมื่อวันวาร
ยังแผ่วหวานซับซ้อนที่ซ่อนทรวง
หยดน้ำใสไหลเลอะที่เปรอะหน้า
สิ้นสัญญารักเอยที่เคยหวง
ถึงเวลาละทิ้งสิ่งทั้งปวง
หมดทุกห่วงนิวรณ์ต้องนอนนาน
ไปไม่กลับหลับไม่ตื่นไม่ฟื้นแน่
ก็เพียงแค่ร่างคนที่พ้นฐาน
ที่หยัดยืนมั่นคงตรงวิญญาน
คือรัก.รานไม่ลบคอยพบเธอ
วิญญานคอยที่ข้างทางช้างเผือก
จะเย็นเยือกไม่ท้อรอเสมอ
แม้เนิ่นนานเพลาจะมาเจอ
ยังพร่ำเพ้อฝันเศร้าคอยเอาใจ
แม้ต่างภพภูมิกันยังมั่นคง
และซื่อตรงต่อรักมิผลักไส
วิญญานรักห่วงเธอเสมอไป
ถึงจะไกลแค่ร่างมิร้างลา
ในความมืดกว้างศอกที่ตอกแน่น
วางบนแท่นลายทองยังมองหา
เอียงคอข้างรอคอยชม้อยมา
เพียงมองหาเงาเจ้าที่เราไกล
จงมีสุขเถอะเจ้าที่เรารัก
มอบใจภักดิ์แม้ลาอายุขัย
ถ้าสวรรค์มองเห็นแล้วเป็นใจ
ในภพใหม่ขอภักดิ์และรักเธอ...ตลอดไป..@