29 มีนาคม 2547 21:44 น.

น้ำตาฟ้า.

ผู้เฒ่า

ครืน.ครืน.แผ่วแว่วเสียงสำเนียงฟ้า
      วิชชุดาพริบพรายประกายแสง
      โบกสะบัดพัดพรมด้วยลมแรง
      มองฟ้าแดงหนาวเหน็บเจ็บฤดี

          ฟ้าร้องไห้มองเห็นเป็นสายฝน
      หทัยคนแหงนมองให้หมองศรี
      หรือปลอบโยนคนเหงาเศร้าฤดี
      ที่ชีวีเงียบงันทุกวันไป

          น้ำตาฟ้าพร่างพรมลมพัดโบก
      ความวิโยคเป็นเพื่อนไม่เลือนหาย
      ฟ้าสงสารตัวเราที่เหงาใจ
      เรื่อยเรื่อยไปโดนหลอกช้ำชอกตรม

          หลังฝนลาฟ้าจะงามตามคำว่า
      อุปมาเปรียบไปยิ่งใจขม
      ไม่เหลือรอยสวรรค์เบี่ยงรักเพียง.ลม
      ให้ชื่นชมสุขใจกระไรเลย

          น้ำตาคนพร่าเลือนเปรื้อนใบหน้า
      น้ำตาฟ้าหลั่งให้ใคร่เฉลย
      มาปลอบขวัญคนเศร้าอย่างเขาเปรย
      หรือเยาะเย้ยถากถางคนอย่างเรา

         ปล่อยให้เลอะเปรอะหน้าทั้งฟ้าคน
      น้ำตาหล่นจะโกรธ.ฤาโทษเขา
      ก็เพราะหลงบรรเลงแต่เพลง.เงา
      เมื่อยามเศร้าจะไปโกรธหรือโทษใคร

         ณ.ตรงนี้ก็ยังดีที่มีฟ้า
      โอบชีวาปานเพื่อนที่เยือนใกล้
      จะเยาะเย้ยหรือลอบ.คอยปลอบใจ
      ก็ยังไม่ลืมเลือนเสมือนเธอ

         ร้ยลิขิตอักษรตอนที่ว่า
      น้ำตาฟ้าย้ำเตือนอย่าเลือนเผลอ
      เหรียญสองด้านเรื่องราว.ที่เราเจอ
      คิดเสมออาจไม่เป็น.เช่นเรามอง....@				
29 มีนาคม 2547 21:20 น.

คน..

ผู้เฒ่า

สุวิชาโน ภวํ โหติ
            ผู้รู้ดี เป็นผู้เจริญ...

       ถือกำเนิดเกิดมาในหล้าโลก
   นับเป็นโชคบุญมี.ที่ใหญ่หลวง
   เกิดเป็นคนเลิศยิ่งสิ่งทั้งปวง
   ความดีห่วงสร้างสรรทุกวันไป

       ยามเป็นคนชั่วดีมีคนคิด
   ว่าทำผิดทำชอบเข้ากรอบไหน
   ถ้าทำดีมีแต่ล้นคนเห็นใจ
   ทำชั่วไซร้สาบแช่งให้แร้ง.ยล

       เป็นคนดี.ดีได้เพราะใจสูง
   เหมือนนกยูงมีดีที่แววขน
   ถ้าทำชั่วเป็นได้ใช่.อชน
   ผิดตัวคนเสียทีที่เกิดมา

       เกิดเป็นคนดีไม่ได้มิใช่คน
   จะมีจนก็คนควรค้นหา
   ค่าของคนควรสร้างทางปัญญา
   มรณาคนถามถึงความดี

       เกิดมาแรกร้องได้ก็ใช่คน
   มีตัวตนอัปลักษณ์หรือมากศรี
   อยู่ที่ใจชั่วร่ำหรือทำดี
   รู้อีกทีชีพดับ.ลับมลาย

       รู้ในใจใช่ที่ทำดียาก
   ถึงลำบากทนกล้ำกระทำได้
   เกิดเป็นคนคิดสนุกสุขสบาย
   พอชีพวายสังขารละ.ใครจะมอง

       จะทำดีไม่ชั่วอย่ามัวคิด
   จะทำผิดควรเลื่อนเตือนสมอง
   กระทำผิดมิต้องถามตามทำนอง
   ทำดีต้องตามตำแหน่งแห่ง.ศีลธรรม...				
22 มีนาคม 2547 19:12 น.

นกขมิ้นเหลืองอ่อน..

ผู้เฒ่า

นกขมิ้นเหลืองอ่อนไร้คอนเกาะ
       บินลัดเลาะขอบฟ้าพนาสัณฑ์
       ระโหยเหินอ่อนล้ายามสายัณห์
       หลบตะวันพักผ่อนนอนเดียวดาย

            พเนจรบินไปในป่ากว้าง
       หลงทิศทางมิมีจุดที่หมาย
       เหนื่อยก็พักพอหวังประทังกาย
       รังของใครถ้าโกรธ.ขอโทษที

            มีหัวใจเคว้งคว้างที่ว่างเปล่า
       ความเงียบเหงาเกลื่อนนองให้หมองศรี
       ได้บินอยู่ร่วมโลกก็โชคดี
       เป็นปักษีตัวน้อยด้อยนิยม

            ไม่โกรธแค้นเกลียดใครให้ใจเศร้า
       แค่ตัวเราไม่ต้องกลืนความขื่นขม
       หลับตาตื่นท่องไปได้ภิรมย์
       ร่วมชื่นชมความสุขทุกชีวา

            ไม่เป็นนกในกรงทองของใครอีก
       ขอตัวปลีกวิเวกอุเบกขา
       ดั่งนกน้อยท่องไปในพนา
       รอเวลาร่วงดับถมทับดิน

            ห้วงหทัยแม้ฟางมาวางทับ
       ใจคงรับไม่ไหววายถวิล
       เหมือนลูกนกถูกสอนตอนหัดบิน
       กระสากลิ่นกลัวเกรงวังเวงใจ
            
            นกขมิ้นเหลืองอ่อนในตอนจบ
       คงจะพบความสลดไม่สดใส
       บินร่อนเร่ตามดงพฤกษ์พงไพร
       ตลอดไปชั่วนิจ..นิรันดร..


             คงอีกหลายวันจะได้เข้ามาอีก...
       ขอบคุณไว้ล่วงหน้า ท่านที่เข้ามาทักทาย..
       สำหรับเรื่องที่เขียนต่างๆ มอบให้ทุกท่านณ.บ้านกลอนแห่งนี้..
       ท่านใด จะแก้ไข ดัดแปลง หรือเขียนเพิ่มเติมเช่นไร..
       ขอยกให้ตามใจปรารถนาทุกท่าน...
       สวัสดีครับ....				
22 มีนาคม 2547 18:48 น.

..ทะเลอารมณ์..

ผู้เฒ่า

.    คลื่นซัดสาดระลอกพริ้วเป็นทิวแถว
     เห็นเป็นแนวเลื่อมระยับล้อกับแสง
     โถมถลาฝั่งย้อนแล้วอ่อนแรง
     กระเซ็นแฝงซ่อนทรายใต้หาดงาม

           ลมโชยพริ้วพัดแผ่วแว่วเสียงคลื่น
     ดังครืนครืนบรรเลงน่าเกรงขาม
     ไม่หลับไหลให้เห็นเป็นนิยาม
     ซ่อนคำถามชีวิตสะกิดคน

           มีสงบสงัดเงียบปานเทียบว่า
     บางเวลาอย่าทำให้ใจสับสน
     ทิ้งนิวรณ์อ่อนไหวไร้ตัวตน
     อย่ายินยลปล่อยวางสร้างปัญญา

           ยามต้องลมมีคลื่นอย่าลืมคิด
     เหมือนชีวิตบางทีมีปัญหา
     ควรปิดหูปากไว้ปิดนัยตา
     ใช้ปัญญาค่อยค่อยแก้อย่าแพ้ใจ

          ถ้าพายุถาโถมโหมกระหน่ำ
     อย่าคิดย้ำตามรอยค่อยแก้ไข
     พอผ่านพ้นพัดผ่านทะยานไป
     ที่เหลือไว้มิใช่หรือคือ.ทะเล

          ธรรมชาติบอกเล่าให้เราคิด
     จะถูกผิดหัวใจอย่าไขว่เขว่
     ความแน่นอนเขาบอกหลอกทั้งเพ
     ดั่งทะเลเปลี่ยนได้หมดทุกบทตอน

         ที่ยืนยงคงอยู่คู่ชีวิต
     คือลิขิตพุทธองค์ที่ทรงสอน
     ผ่านอดีตเวลาสถาพร
     ณ.ครั้งก่อนล่วงลุ..ปัจจุบัน...

 				
13 มีนาคม 2547 15:07 น.

..หัวใจกระดาษ..

ผู้เฒ่า

....จากกระดาษหัวใจใสพิสุทธิ์
 ขาวประดุจสำลีไม่มีหมอง
เธอขีดเขียนเวียนให้หมายประคอง
เป็นทำนองร่วมฝันวันภิรมย์
           
     เนื้อกระดาษหัวใจให้เปรื้อนเปรอ
คำรักเลอะเรียงราย.ตอนปลายขม
อักษรรักเหมือนมีดที่กรีดคม
รอยอารมณ์เจ็บช้ำจำอีกนาน
           
     ถ้าอักษรทุกคำนั้นล้ำค่า
เธอเขียนมาบนใจไม่คลายหวาน
เนื้อกระดาษคงชื่นชมื่นมาลย์
ไม่ซมซานเยินยับ.ซับน้ำตา
           
     คงเหลือรอยอักษรที่ซ่อนใส่
 ทิ้งคราบไว้ครวญคร่ำให้ร่ำหา
ที่ติดตรึงชั่วนานกาลเวลา
เหมือนรอยตราประทับใส่ที่ไม่จาง
           
     ตะเกียก.ตะกาย.ทุ่มเท
ทุ่มเท.ให้เธอ.ทุกอย่าง..                (สองบรรทัดนี้เป็นเนื้อเพลง)
เพราะรัก.ของเราเลือนจาง
ช่องว่างที่ห่าง.หว่างฤทัย
           
     ก็เพราะเธอมีรักที่มากมาย
เติมรักหายใส่หล่นทนไม่ไหว
ทั้งสี่ห้องแหว่งขาด.กระดาษใจ
เขียนลงไปตัดพ้อคนล่อลวง
           
     หัวใจเธอก็ละม้ายคล้ายกระดาษ
แค่ลมวาด.พัดฉิวก็ปลิวร่วง
มันบางเบาย้อนยอกคนหลอกลวง
เมื่อสิ้นห่วงจงปลิวไป.ให้ไกล.ตา....

				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟผู้เฒ่า
Lovings  ผู้เฒ่า เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟผู้เฒ่า
Lovings  ผู้เฒ่า เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟผู้เฒ่า
Lovings  ผู้เฒ่า เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงผู้เฒ่า