4 พฤศจิกายน 2547 23:14 น.
ผู้เฒ่า
เก็บซ่อนรักเอาไว้บอกใครยาก
แสนลำบากรักเธอเสมอเหมือน
หิ่งห้อยรักลำพูมิรู้เลือน
แต่คอยเตือนรักขยับอย่าจับจอง
เก็บรักไว้ใจระรัวเพราะกลัวเก้อ
คนเพ้อเจ้อมีใจใฝ่สนอง
หากเอ่ยคำ รักลาน้ำตานอง
ไร้ทางครองต้องเงียบอมพะนำ
แต่หัวใจเจ้ากรรมมันร่ำร้อง
ยินทำนองนัยความแต่งามขำ
เพิ่มความรักมิละเป็นประจำ
ดั่งเติมช้ำเคียงกันทุกวันไป
เธอรักใครชอบใครมิไปขวาง
ต้องหลีกทางขัดขวางเธอมิได้
ทั้งชีวิตจิตใจ
ฉันมีแต่ให้ให้เธอ..ครอง..
เป็นที่หนึ่งของเธอเพ้อไม่ไหว
ฉันเต็มใจรอรับลำดับสอง
เสริมบทรักเจ็บช้ำตัวสำรอง
ยังหมายปองจองตำแหน่งมิแข่งดี
จะขอเป็นเช่นทาสมิคลาดแคล้ว
รักเธอแล้วแม้เป็นศพมิหลบหนี
รักที่เธอกระทำช้ำฤดี
แม้เป็นผีไกลห่างมิร้างลา
เพียงมาหาอย่าหนีให้ผีช้ำ
หลงระกำหนห้วงเสน่หา
ตอนยังอยู่มิแลแม้สองตา
เป็นผีมา หาคนดีอย่าหนีไกล
มิหลอกหลอนวอนขอมาต่อรัก
ยากจะหักตัดจิตพิสมัย
ตัวสำรองก็ยอมเป็นตลอดไป
ยังหายใจหรือเป็นผีฉันมีเธอ.@
1 พฤศจิกายน 2547 21:01 น.
ผู้เฒ่า
คลื่นซัดสาดหาดทรายหว่างสายชล
ค่อยค่อยค้นพบเปลือกมิเลือกหา
เจ้าปูน้อยเปะปะตามชะตา
เปลือกหอยหนาไม่เลือกเสือกตัวพลัน
มันคงคิดมีเกาะก็เหมาะแล้ว
กันภัยแพ้วตามชาติมิคัดสรร
เพียงชีวิตปลอดภัยไปวันวัน
สุขอนันต์ตามประสาชะตาตัว
เปลือกจำเป็นเอื้ออุ้มคลุมชีวิต
มิต้องคิดแต่งอวดให้ปวดหัว
มิต้องสร้างภาพใดให้น่ากลัว
มิมามัวเลือกมากให้ยากใจ
ธรรมชาติเพียงสอนขั้นตอนอยู่
มันเรียนรู้ชำนิตามวิสัย
พบเจอแล้วอยู่เย็นความเป็นไป
มิหลงใหลสลับเปลือกจะเลือกดี
ต่างมนุษย์พอกเปลือกต้องเลือกมาก
ความยุ่งยากห่างขจัดดูบัดสี
คิดแต่แต่งแข่งไว้ขอไปที
หวังเพียงมีดีให้ดูเพียงครู่ยาม
มือถือสากปากคาบคัมภีร์เวทย์
ความวิเศษอวดเก่งมิเกรงขาม
ภาพที่วาดสวยหรูให้ดูงาม
ซ่อนสิ่งทรามใต้เปลือกเป็นเทือกครอง
หยุดเถิดหนามนุษย์สุดประเสริฐ
กรรมจะเกิดอกุศล วนสนอง
อัน.ว่างเปล่าสองคำคือทำนอง
ช่วยกันมองแก่นแท้แค่คำคน
เปลือกเอ๋ยเปลือกเราเลือกได้
ฉะนั้นใช่ อายปูดูสับสน
ปูรักเปลือกมองเห็นมิเป็นกล
เปลือกฉ้อฉลคนหมายนั่นอายปู..@
31 ตุลาคม 2547 22:12 น.
ผู้เฒ่า
ชีวิตผันวันผ่านมานานนัก
เหลียวหารักจริงแท้เพียงแค่หน
เหมือนเสาะหาเข็มล่วงในห้วงชล
ล้วนผจญเจ็บจำต้องลำเค็ญ
เข็ดขยาดขาดใจจะไขว่คว้า
เปลี่ยวเอกาช้ำใจผู้ใดเห็น
กลืนน้ำตาลำบากอย่างยากเย็น
รอยรักเร้นปวดร้าวทุกคราวลา
อยู่ลำพังเดียวดายสิ้นสายรัก
หลงจมปรักมนต์เล่ห์สิเน่หา
ยามเจ้าจาก ลับหายห่างสายตา
เหลือเวลาอยู่ไปเพื่อใครกัน
มิเหลือใครอีกแล้วสิ้นแววหวาน
คนซมซานห้วงทุกข์สิ้นสุขสันต์
ละร่างเหลือเบื่อโลกต้องโศกพลัน
คงจาบัลย์สายสวาทอนาถเทียว
ให้หยุดลมล้มหายสลายร่าง
ดีกว่าร้างเงารักสักประเดี๋ยว
มนต์รักโศกสับสนอยู่คนเดียว
ความเปล่าเปลี่ยวยากเลือนเสมือนตาย
เหม่อมองฟ้าชลนัยน์เจ้าไหลเอ่อ
หลั่งบำเรอรักเร้นเป็นเส้นสาย
อาบสองแก้มของคนทุรนทุราย
ดุจเวียนว่ายวนเล่ห์ทะเลตรม
จะต้องอยู่โศกเศร้าอีกเท่าไหร่
จึงสาใจคนยื่นความขื่นขม
เทพเจ้าแห่งความทุกข์ระทม
หยุดเชยชมจมสายสวาทเอย.@
30 ตุลาคม 2547 22:10 น.
ผู้เฒ่า
ผืนทรายขาวอ่าวยางเมื่อย่างเยื้อง
สละเรื่องร้าวรุมที่สุมหัว
ปล่อยความคิดจิตหม่นให้พ้นตัว
ละวางทั่วอารมณ์ระดมเพลิน
ตะวันผลัดอัสดงลงจากฟ้า
หมู่ปักษาเคียงออพะนอเหิน
ทิวไศลเรียงแถวเป็นแนวเนิน
ยากจะเมินยามมองดั่งต้องมนต์
ริมฝั่งน้ำสนธยาฟ้าสลัว
ชอุ่มทั่วอาบแฝงทุกแห่งหน
กระโจมน้อยแดนสรวงริมห้วงชล
กางเหลื่อมบนพื้นทรายชายวารี
หนึ่งความฝันสรรวาดปรารถนา
เพียรเสาะหาบรรลุความสุขี
บรรจถรณ์ฟังคลื่นชลธี
ชีวิตมีฝันนำกระทำตาม
ศศิฉายเต็มดวงห้วงเวหา
ผิวธาราเรื่อประกายมิวายหวาม
สรรพสิ่งสวยสดช่างงดงาม
สวรรค์ยามมืดแกมกับแจ่มจันทร์
ริ้วกระเซ็นคลื่นโลดสาดโขดหิน
กระเส่ายินยลขนางทบทางฝัน
งามละไมใช่แสร้งแสดงกัน
รูปรำพันนุ่มนวลรัญจวนใจ
ลมอื้ออึงอู้ครวญหวนระโหย
น้ำค้างโรยหยดหยาดเสียงหวาดไหว
แผ่วแผ่วดังหลังกระโจมโลมฤทัย
ผสานไออบอุ่นกรุ่นกรุ่นกาย
ทะเลสมห่มฟ้าทุกคราหนาว
จันทร์สกาวเราห่มก็ข่มหาย
ยามหนาวเนื้อเอื้อห่มระทมคลาย
แต่จะวายเพราะห่มมิสมกัน
บนเส้นทางหว่างค่าคำว่าคน
ร่ำรวยจนมีสิทธิ์ลิขิตฝัน
หวังไกลไกลใฝ่สานทุกวารวัน
จุดหมายนั่นเส้นชัยมิไกลเลย.@
หลังเสร็จภาระกิจ ก็ไปพักริมทะเล..ใครเขาอยู่บ้านพัก ..
แต่เรามากางเต้นท์นอน ริมน้ำเลย..บนที่นอนยาง...
กลอนเรื่องนี้ค่อนข้างกระท่อนกระแท่น..เพราะน้ำซัดตลอด..
สมาธิในการเรียบเรียงไม่ดี..เรื่องที่เขียนจึงขาดๆเกินๆ..ขออภัย..
25 ตุลาคม 2547 22:26 น.
ผู้เฒ่า
เวิ้งฟ้าหุ้มคลุมครอบล้อมรอบน้ำ
ฤาตอกย้ำความกว้างเสน่หา
ฟ้าจรดน้ำมองไปไกลไกลตา
เปรียบคลุมข้ากักขังเหมือนดั่งชล
ระลอกพลิ้วริ้วแผ่วเป็นแนวคลื่น
เข้ากลบกลืนทรายขาวทุกคราวหน
เหมือนเติมรักมิละในกมล
ยามได้ยลชลชื้นกับผืนทราย
แสงเรื่อเรืองกระพริบยิบระยับ
เข้าทาบทับชลเชี่ยวทุกเกลียวสาย
ประดับคลื่นดั่งรุ้งพรรณราย
มิคืนคลายเช่นรักข้าภักดี
เพียงสักครั้งทะเลเอ๋ยเคยบ้างไหม
เจ้าหลับไหลปิดตาก้มหน้าหนี
ให้ห่างฟ้าขาดสิ้นแสงสุรีย์
ดั่งข้านี้คงมั่นนิรันดร
ผืนหาดทรายสายชลกับคนเหงา
ลำนำเก่าเพียงอันทุอนุสรณ์
ฟ้าเก่าเก่ากับห้วงห่วงนิวรณ์
ถึงบทตอนสิ้นทางฤาร้างลา
รอยเท้าเลื่อนเลือนลางบนทางทราย
คงกลับกลายมิสมปรารถนา
เหลือรอยโศกรุมเร้าเคล้าน้ำตา
ใต้เวิ้งฟ้าครอบคลุมดั่งหลุมตาย..@