15 กุมภาพันธ์ 2548 22:43 น.

คิดไปเอง

ผู้หญิงไร้เงา

คงเพราะเรา โง่งม จึงขมขื่น
เขาหยิบยื่น เพียงวาจา มีมาให้
ก็คิดว่า  ฝันเป็นจริง  ทุกสิ่งไป
แต่เขาให้  แค่วาจา  อุราลืม

เราจึงได้ ความช้ำ  กับน้ำตา
ที่มีค่า  ในอุรา  ไม่อาจฝืน
ต้องยอมรับ  กับความช้ำ  ทุกค่ำคืน
มิอาจลืม  เลือนลา  สักคราเลย

เหมือนดั่งเป็น  คนโง่  โถชีวิต
มีแค่สิทธิ์  ใกล้ชิด  คิดเฉลย
เขาไม่รัก  แค่เห็นใน  ใจคุ้นเคย
จึงพร่ำเอย  คำว่ารัก  ปักดวงใจ

ทั้งที่จริง  แค่สงสาร  จึงขานขวัญ
ให้รู้กัน  ถึงสัมพันธ์  ฉันหวั่นไหว
แต่เมื่อรู้ ในความจริง  สิ่งเป็นไป
กับต้องเศร้า  หฤทัย  ไหนจะปาน				
15 กุมภาพันธ์ 2548 19:46 น.

ร่วมวงเมา

ผู้หญิงไร้เงา

วันสิบห้ากุมภาพันธ์ปีสีแปด
เหมือนโดนแดดเผาไหม้ใจเสื่อมสูญ
คนเคยรักห่างหายไร้เพิ่มพูน
ทวีคูณความเศร้าเจ้าน้ำตา

ช่างโดดเดี่ยวเดียวดายทางสายโศก
แสนวิโยคเรื่อยไปไม่หรรษา
เมื่อความรักภักดีที่มีมา
ไม่มีค่าให้เขาเฝ้าผูกพัน

จึงขอกินกับแกล้มแถมด้วยเหล้า
เพื่อให้เงาความภักดีมีเหหัน
แล้วจางหายจากไปในสักวัน
เพื่อให้ฉันไม่ต้องเฝ้าเจ้าน้ำตา				
11 กุมภาพันธ์ 2548 00:37 น.

สมรักได้สมรส

ผู้หญิงไร้เงา

ผู้หญิงไร้เงา

มีเมืองหนึ่งซึ่งอยู่แดนแคว้นไกลห่าง
ประชาชนไม่ลาร้างต่างสุขสันต์
เพราะผู้ครองนครมองย้อนกัน
ตัวท่านนั้นใช้เมตตาพาสุขใจ

แต่ผู้ครองนครกับร้อนจิต
ด้วยลูกสาวใกล้ชิดไม่คิดใฝ่
จะมีคู่เคียงครองรักคล้องใจ
ทั้งที่วัยยี่สิบห้าพาร้อนรน

ตัวท่านจึงได้เป่าเฝ้าประกาศ
หากใครมีความสามารถให้ลูกสน
ตอบตกลงรับรักปักใจตน
เพื่อให้พ้นการอยู่เดียวเปลี่ยวเอกา

จะยอมให้ทรัพย์สินถิ่นอาศัย
พร้อมตำแหน่งอันยิ่งใหญ่ของตัวข้า
เมื่อประกาศออกไปไวทันตา
ด้วยบรรดามากชายต่างหมายครอง

แต่ไม่มีผู้ใดได้สมหวัง
ทั้งต้องยังนั่งเศร้าเฝ้าปวดหมอง
เพราะลูกสาวตอบไปใจคล้องจอง
คือไม่มองไม่สนกับคนใด

จนเวลาผ่านไปได้หลายเดือน
ยังย้ำเตือนมุ่งมั่นไม่หวั่นไหว
ตอบคำใครที่มาสนทุกหนไป
นั่นก็คือคำว่าไม่ไม่ทุกที

แต่แล้วความมุ่งหมายปรารถนา
ที่จะอยู่อย่างเอกามาหลีกหนี
ไม่สนใจกับผู้ใดในชีวี
ก็ต้องมีอันจบลงตรงพบเจอ

กับผู้ชายคนหนึ่งซึ่งหล่อเหลา
ปัญญาเชาว์ยิ่งนักปักใจเพ้อ
รู้แน่ไซร้ในใจของตัวเธอ
มีเสมอคำไม่ใช่ในใจจริง

พอได้เจอพบหน้าพาคำถาม
ที่ตรงข้ามกับความตามแม่หญิง
เจ้าไม่รักข้าใช่ไหมใฝ่ประวิง
ช่วยบอกจากใจจริงให้รู้ที

ส่วนแม่หญิงตอบไปไม่ทันคิด
คำว่าไม่ดลจิตไม่คิดหนี
เลยทำให้ตรงข้ามความเคยมี
ใช่ไหมนี่เพื่อนพ้องลองคิดดู 

                                      บ้านรอจันทร์

มานพน้อยดีใจได้สมจิต
โปรดพินิจท่านเจ้าเมืองเลื่องลือขาน
พระธิดาตอบให้เห็นเป็นพยาน
ว่านงคราญไม่ไม่รักข้าสักครา

เจ้าเมืองยิ้มดีใจได้เขยแน่
ฉลาดแท้เจ้าเขยขวัญอันใฝ่หา
หัวเราะพลางบอกเล่าเจ้าธิดา
โอ้ลูกยาได้ยินไหมใช่หลอกลวง

ไม่ไม่รักก็คือรักสลักจิต
เมื่อเจ้าคิดมอบหทัยไม่แหนหวง
พ่อยินดีมอบให้เขาเป็นคู่ควง
รักชื่นทรวงแต่งกันวันนี้เลย

พระธิดาเอ่ยว่าอย่าร้อนรุ่ม
คำว่าไม่ใช่เพียงสุ่มมาเฉย ๆ 
ลูกบอกไม่ใช่จบสิ้นเพียงไม่เอย
ไม่ผิดเลยคือวจีที่ตั้งใจ

เขาถามว่าไม่รักเขานั้นเลยหรือ
คำตอบคือ ไม่...ผิดคิดเหลวไหล
หากจะรักลูกจะตอบมอบจากใจ
คราวนี้ไซร้.ยังไม่คิดจิตเคียงครอง

                                             ผู้หญิงไร้เงา

เมื่อได้ฟังหญิงสาวกล่าวเช่นนั้น
ทำให้เรานึกหวั่นพลันปวดหมอง
ด้วยเฝ้าคิดเชยชมรักสมปอง
ได้ครอบครองเจ้าแน่แม่ยาใจ

แต่เจ้ากลับบอกไปให้รู้แจ้ง
แถมแสดงคำต่อไปให้หวั่นไหว
ไม่ผิดเลยเฉลยกันในทันใด
พอพูดไปทำให้เราเศร้าเหลือเกิน

แต่อย่างไรด้วยใจใฝ่ห่วงหา
จึงไม่อาจตัดใจลาพาห่างเหิน
จึงขอท้าสู้ไหมใจเผชิญ
ด้วยอยากเดินเคียงเจ้าเฝ้าดูแล

ซึ่งหากเจ้ารับคำท้าเวลาไหน
เราจะถามปัญหาไปให้เจ้าแพ้
เพื่อจะได้ชิดใกล้ในดวงแด
ได้ดูแลตัวเจ้าเฝ้าห่วงใย

แต่หากข้านั้นแพ้ต่อแต่นี้
จะยอมไกลในชีวีมิมาใกล้
แต่หากเจ้านั้นแพ้ข้าอย่าช้าไป
ช่วยตกลงปลงใจกับข้าที

                                    บ้านรอจันทร์

อันธิดาแม้นดวงจิตคิตหวั่นไหว
แต่อย่างไรสมควรค่าน่าสรรเสริญ
หากคิดเพียงสมฤทัยใจเพลิดเพลิน
เขามองเมินชาวประชาจะว่าไร

นางสงสารคนยากจนจะทนทุกข์
ต่างเมืองบุกเขตขัณฑ์ป้องกันไฉน
เพราะคนครองใช่ได้เพียงนางวิไล
เขาจะได้ทั้งพารามาด้วยกัน

นางเฝ้านึกตรึกแล้วจึงตอบถ้อย
ข้าตัวน้อยด้อยปัญญามาเสกสรร
ไม่อาจรับคำท้าอย่าเคืองกัน
แต่หากท่านจริงใจได้โปรดฟัง

ที่กลางพระอุทยานหน้าลานกว้าง
งามสล้างดอกบัวงามบ่อน้ำขัง
คนทั่วไปได้ชื่มชมสมใจจัง
แต่ข้ายังอยากเห็นนักจักขอวาน

หากพรุ่งนี้เห็นบัวงามตามที่ขอ
ไม่รั้งรอจะตอบคำตามเรียกขาน
จะปลงจิตมอบรักให้ไม่ทันนาน
ขอเพียงท่านทำดังใจได้สมปอง

บัดเดี๋ยวนั้นพลันมีสามมานพหนุ่ม
ต่างร้องรุมว่าโปรดฟังท่านทั้งสอง
ข้าก็มีจิตหมายได้เคียงครอง
ขอประลองแข่งบัวงามตามสัญญา

ท่านเจ้าเมืองดีใจไม่สิ้นหวัง
พรุ่งนี้ยังรอได้ไม่รีบหนา
เจ้าสี่คนไปเตรียมตัวนำบัวมา
รุ่งทิวาวันพรุ่งนี้ ณ ที่เดิม

                                   ผู้หญิงไร้เงา

เมื่อได้ฟังคำนางอ้างเหตุผล
ที่เตือนตนกับปัญหาพาสุขสันต์
เพราะเจ้าคิดถึงประชาทั่วหล้ากัน
เพียงให้เขาเหล่านั้นได้สุขใจ

ข้าจึงแสนชื่นชมและยินดี
ยิ่งกว่านั้นแสนสุขีหละรู้ไหม
เพราะเจ้าคือคนที่ข้ายอมฝ่าไป
เพื่อให้ได้ชิดเคียงใกล้ในทุกวัน

แม้บุกน้ำรุดไฟก็ไม่กลัว
ใช่แค่บัวที่เจ้าเฝ้าตั้งมั่น
ให้ข้าไปเด็ดให้ชมสมใจกัน
หรอกหนานั่นหากเจ้านั้นประสงค์ใด

ข้ายินยอมทำให้ในเฉลย
แม้ต้องตายไม่เฉยเมยเลยรู้ไหม
เพราะเจ้าคือคนงามนะทรามวัย
ทั้งนอกในช่างหมดจดงดงามจริง

ส่วนมานพเพื่อนชายทั้งหลายแหล่
ที่มาแลเคียงใกล้ในตัวหญิง
เชิญได้เลยเราเข้าใจไม่ประวิง
หากว่าใครแน่จริงได้หญิงครอง

ซึ่งมานพทั้งหลายหมายเคียงคู่
ไม่คิดสู่ปัญหาพาปวดหมอง
คิดว่าบัวเด็ดง่ายดั่งใจปอง
ไม่คิดมองปัญหาอ่อนล้าใจ

แต่เมื่อไปอุทยานพานปวดหัว
ให้น่ามืดตามัวกลัวหวั่นไหว
เพราะใช่มีแค่บัวทั่วบึงไป
กลับมีผึ้งน้อยใหญ่เหลือคณา

ซึ่งมานพทั้งหลายไม่หาญสู้
เพราะไม่เคยคิดอยู่ในปัญหา
จึงต้องถอยหนีห่างสร้างเวลา
แต่ตัวข้ากลับเข้าใกล้ไม่เกรงกลัว

เพราะด้วยมือถือคบเพลิงช่างเริงรื่น
ให้ผึ้งตื่นตกใจไฟสลัว
เลยได้บัวดั่งคิดนั้นติดตัว
มาฝากน้องทูลหัวเพื่อแลกใจ

                                 บ้านรอจันทร์

อรุณรุ่งฟ้าสางสว่างแล้ว
ฟังเจื้อยแจ้วไก่ขันประชันเสียง
สี่มานพพร้อมหน้ามานั่งเรียง
ต่างหวังเพียงได้พิชิตจิตหญิงงาม

คนที่หนึ่งมีบัวรายหลายสิบดอก
ทุกคนบอกมากเกินใครไม่ต้องถาม
นางมองดูแล้วหันไปไม่เอ่ยความ
เพียงแต่ถามมากเพียงนี้มีค่าใด

คนที่สองมือถือดอกบัวเผื่อน
งามติดเตือนตรึงตากว่าดอกไหน
นางมองเห็นกลับก้มหน้าอย่างอาลัย
แล้วบอกให้มานพนั้นพลันจากจร

คนที่สามเก็บมากว่าสิบดอก
ทั้งดอกจอกและฝักบัวไม่กลัวหนอน
นางบอกว่าท่านไฉนไม่สังวรณ์
กลับคิดถอนทำลายล้างอย่างแท้จริง

บัดเดี๋ยวนั้นคนที่สี่ที่เปรื่องปราด
เดินองอาจถึงเบื้องหน้านางยอดหญิง
สองมือแกร่งว่างเปล่าน่าแปลกจริง
เขาคิดชิงแต่แล้วใยไม่มีบัว

นางจึงถามท่านเอยเคยย้อนยอก
หมายคิดหลอกหรืออย่างไรใยเล่นหัว
ก็ข้าบอกไว้อย่างไรให้หาบัว
หรือท่านกลัวจึงเปลี่ยนใจไม่ชิงดี

มานพน้อยบอกว่าอย่าเคืองขุ่น
กลิ่นบัวกรุ่นหอมระรื่นชื่นสดศรี
เมื่อเย็นวานข้าไปถึงฝั่งนที
มองเห็นมีบัวสวยนักเกินหักใจ

อีกทั้งเหล่าฝูงปลามาอิงแอบ
ตรงข้างแถบบัวงามงดสดไสว
ไม่อยากลงสู่ธาราไล่ปลาไป
มันวางไข่แพร่พันธุ์กันชุกชุม

อีกชาวบ้านหญิงชายมีหลายหลาก
ที่เหนื่อยจากงานทั้งวันอันกองสุม
ได้ชมบัวเหนื่อยหายคลายร้อนรุม
บ้างประชุมที่ริมฝั่งนั่งสุขใจ

ข้าจำได้ท่านธิดาว่าอยากเห็น
ดอกบัวเช่นตอนสวยจริงยิ่งไฉน
ข้าเห็นว่าบัวจะงามเลิศวิไล
ก็เมื่อได้อยู่กลางน้ำท่ามกลางบึง

อีกทั้งยังแบ่งปันไว้ให้คนอื่น
ได้ชมชื่นเสน่ห์บัวอย่างทั่วถึง
จึงขอเชิญท่านเสด็จสู่ริมบึง
ตัวข้าซึ่งน้อยวาสนาขอลาจร

พระธิดาตื้นตันใจใดเทียมเท่า
บุญของเราฟ้าจริงใจไม่หลอกหลอน
มองสบตาเหมือนบอกไว้ใจอาวรณ์
คิดจากจรหรือท่านไม่อาลัยเลย

มานพน้อยบอกว่าข้าแสนรัก
เป็นสุขนักเพียงยินคำพร่ำเฉลย
แต่จนใจไร้บัวงามมาให้เชย
โอ้ใจเอยจึงแพ้พ่ายไม่อาจรอ

พระธิดาว่าท่านไฉนจึงใจร้อน
คำเราก่อนกล่าวไว้หรือไม่หนอ
เราอยากเห็นมิอยากใช่ได้ทั้งกอ
มากเกินพอบัวจากใจท่านให้ชม

ท่านเจ้าเมืองดีใจใดจะเท่า
ลูกของเราเลือกคู่หมายได้เหมาะสม
จูงมือนางส่งมอบให้ใจภิรมย์
สองชื่นชมไอรักอุ่นละมุนทรวง

จากนั้นเป็นงานวิวาห์น่าสุขสันต์
ครบเจ็ดวันเจ้าเมืองใหญ่ไม่แหนหวง
มอบธิดามอบบัลลังก์สิ่งทั้งปวง
ทั้งเมืองหลวงแสนยินดีมีสุขใจ

นับแต่นั้นเจ้าเมืองใหม่ไม่แปรเปลี่ยน
เฝ้าหมุนเวียนใครเป็นสุขทุกข์ไฉน
ชาวประชาล้วนชื่นบานนานเรื่อยไป
เลื่องลือไกลเป็นสุขสันต์นิรันดร.				
10 กุมภาพันธ์ 2548 22:50 น.

ดอกหญ้าริมทาง

ผู้หญิงไร้เงา

เจ็บนักกับรักนี้
ที่คนดีทำเมินเฉย
เหมือนคนไม่คุ้นเคย
ทั้งที่เอ่ยว่ารักกัน

เจ็บนักกับรักนี้
ที่คนดีไม่สนฉัน
แต่ใยให้จำนรร
ว่ารักมั่นนิรันดร

เจ็บนักกับรักนี้
ที่คนดีทำปวดหมอง
ทำให้ใจเนืองนอง
เฝ้าร่ำร้องฟ้องน้ำตา

เจ็บนักกับรักนี้
ที่คนดีไม่ห่วงหา
ทิ้งไว้ให้วิญญา
มีน้ำตามาชื่นชม

เจ็บนักกับรักนี้
ที่ทวีความขื่นขม
ร้าวรวดปวดอารมณ์
จนระทมขื่นขมใจ

เจ็บนักกับรักนี้
ที่คนดีมิหวั่นไหว
ยอมจากพรากร้างไกล
ทั้งที่ใจเรารักเธอ

เจ็บนักกับรักนี้
ที่ทุกทีมีแต่เก้อ
แต่ใจใฝ่พบเจอ
อยากมีเธอเสมอมา

เจ็บนักกับรักนี้
ที่คนดีไม่เห็นค่า
ทิ้งไว้ให้ระอา
เหมือนดอกหญ้าข้างริมทาง				
8 กุมภาพันธ์ 2548 22:03 น.

ใช่หรือไม่

ผู้หญิงไร้เงา

มีเมืองหนึ่งซึ่งอยู่แดนแคว้นไกลห่าง
ประชาชนไม่ลาร้างต่างสุขสันต์
เพราะผู้ครองนครมองย้อนกัน
ตัวท่านนั้นใช้เมตตาพาสุขใจ

แต่ผู้ครองนครกับร้อนจิต
ด้วยลูกสาวใกล้ชิดไม่คิดใฝ่
จะมีคู่เคียงครองรักคล้องใจ
ทั้งที่วัยยี่สิบห้าพาร้อนรน

ตัวท่านจึงได้เป่าเฝ้าประกาศ
หากใครมีความสามารถให้ลูกสน
ตอบตกลงรับรักปักใจตน
เพื่อให้พ้นการอยู่เดียวเปลี่ยวเอกา

จะยอมให้ทรัพย์สินถิ่นอาศัย
พร้อมตำแหน่งอันยิ่งใหญ่ของตัวข้า
เมื่อประกาศออกไปไวทันตา
ด้วยบรรดามากชายต่างหมายครอง

แต่ไม่มีผู้ใดได้สมหวัง
ทั้งต้องยังนั่งเศร้าเฝ้าปวดหมอง
เพราะลูกสาวตอบไปใจคล้องจอง
คือไม่มองไม่สนกับคนใด

จนเวลาผ่านไปได้หลายเดือน
ยังย้ำเตือนมุ่งมั่นไม่หวั่นไหว
ตอบคำใครที่มาสนทุกหนไป
นั่นก็คือคำว่าไม่ไม่ทุกที

แต่แล้วความมุ่งหมายปรารถนา
ที่จะอยู่อย่างเอกามาหลีกหนี
ไม่สนใจกับผู้ใดในชีวี
ก็ต้องมีอันจบลงตรงพบเจอ

กับผู้ชายคนหนึ่งซึ่งหล่อเหลา
ปัญญาเชาว์ยิ่งนักปักใจเพ้อ
รู้แน่ไซร้ในใจของตัวเธอ
มีเสมอคำไม่ใช่ในใจจริง

พอได้เจอพบหน้าพาคำถาม
ที่ตรงข้ามกับความตามแม่หญิง
เจ้าไม่รักข้าใช่ไหมใฝ่ประวิง
ช่วยบอกจากใจจริงให้รู้ที

ส่วนแม่หญิงตอบไปไม่ทันคิด
คำว่าไม่ดลจิตไม่คิดหนี
เลยทำให้ตรงข้ามความเคยมี
ใช่ไหมนี่เพื่อนพ้องลองคิดดู อิอิ				
Calendar
Lovings  ผู้หญิงไร้เงา เลิฟ 2 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟผู้หญิงไร้เงา
Lovings  ผู้หญิงไร้เงา เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟผู้หญิงไร้เงา
Lovings  ผู้หญิงไร้เงา เลิฟ 1 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงผู้หญิงไร้เงา