4 กรกฎาคม 2548 19:47 น.
ผู้หญิงสีรุ้ง
ฉันเฝ้ามองคุณ..ผ่านหน้าต่างบานนี้ ด้วยท่าทีเฉยเมย มาระยะหนึ่งแล้ว
คุณสดใส ร่าเริง ทำตามความรู้สึกที่ชัดเจนของตัวเอง ฉันไม่ขอร้องแม้
เพียงให้คุณเห็นฉันสักครั้งหรอก....
ขอให้คุณเดินทางได้อย่างใจ มีความสุขกับทุกสิ่งในชีวิต
ด้วยฉันเป็นเพียงแค่ ดอกพุทธซ้อนในกระถางใบเล็ก เท่านั้น คงไม่มีทางได้
สัมผัสคุณอย่างใจ
แต่ความหวังอันน้อยนิด ที่ฉันจะมีได้ก็คือ
คราวใดที่ฤดูหนาวพัดผ่านมาล่ะก็ ขอให้ลมหนาวอย่างคุณกลับมาทัก
ทายฉันหน่อย หรือเพียงแต่ผ่านมาให้ฉันเห็นใกลๆก้ยังดี
4 กรกฎาคม 2548 19:30 น.
ผู้หญิงสีรุ้ง
วันนี้ก็เป็นอีกวัน ที่ฉันได้รับกำลังใจจากคนรอบข้าง ที่ผ่านเข้ามาในชีวิต แต่ไม่เคยเลยผ่านไป ยังคงมีไมตรีหยิบยื่นความหวังดี และความหวังให้ฉัน ที่มองไม่เห็นทางเดินข้างหน้าของตัวเอง
เขากล่าวว่า เธอต้องลองเริ่มต้นเดินได้ซักทีแล้ว ไม่ว่าการเริ่มต้นเดินนั้น เธอได้มีการไตรตรองไว้ก่อนหรือไม่ก็เถอะ อย่างน้อยก็ยังดีกว่าการยืนจดจ่ออยู่กับที่เดิมๆ ซึ่งเธอก็ไม่ได้พอใจกับมันนี่ และแม้ว่าการเดินครั้งนี้จะพาเธอไปพบกับอะไรก็ตาม คงไม่มีใครมาตำหนิเธอ
การเฝ้ารอความแน่นอน การคาดเดาผลได้นั้น ไม่เรียกว่าชีวิต ไม่เรียกว่าการเติบโต และด้วยเวลาที่ผ่านไปทุกนาทีนี้ คงไม่มีอะไรจะหยุดรอเธอในที่เดิม โอกาสดีๆ เวลาที่สมควร คงไม่ได้เวียนเข้ามาในชีวิตของเธอบ่อยนัก ทุกอย่างจะดำเนิน ในขณะที่เธอยังคงเหมือนเดิม
เดินเถอะ ก้าวทีละก้าว ก้าวเล็กๆก็ได้ ฉันไม่ได้คาดหวังให้เธอทำได้ดีที่สุดในครั้งแรกหลอก แต่เธอต้องโตได้แล้ว........
ฉันรู้สึกดีใจ ปนกับว่าฉันนี่โชคดีจริงๆ มีคนแวดล้อมที่ห่วงใย อาทร และสอนให้ฉันเติบโตด้วยตัวเอง
อย่างน้อยฉันก็คงไม่หลงทางไปกับตัวเองง่ายๆล่ะ
23 มิถุนายน 2548 20:41 น.
ผู้หญิงสีรุ้ง
ดึกแล้ว...แต่ก็ยังพอมองห็น ก้อนเมฆขี้เกียจ ลอยอ้อยอิ่งอยู่เต็มฟ้าเลย
คืนนี้ดวงจันทร์เผยโฉมเพียงเสี้ยว....
ฉันให้เวลากับตัวเอง ได้ถามตัวเองในหลายคำถาม คำถามที่เคยถามมาหลายครั้งหลายคราแล้ว ซึ่งก็ยังไม่ได้คำตอบกลับมา
ฉันเหนื่อย...กับการตอบ
ฉันล้า..........กับการเดินทาง
ฉันไม่รู้ว่าต้องเดิน เพื่อได้รับสิ่งใด จุดหมายที่จะไปนั้นจริงๆแล้วมันจับต้องได้หรือเป็นเพียงภาพเลือน
11 มิถุนายน 2548 21:23 น.
ผู้หญิงสีรุ้ง
ลมโชยเข้ามาแผ่วๆ ผ่านมู่ลี่กันลมไหวอยู่บางๆ.......
ไฟจากตึกตรงข้าม ดับเกือบจะหมดแล้ว
คืนนี้เงียบซะจน ได้ยินเสียงลม ล้อเล่นกับต้นไม้อยู่ใกลๆ..
ลมชื้นๆลอยมาโดนตัว อย่างนี้คงต้องเก็บผ้าที่ตากไว้ ตลอดบ่ายเสียหน่อย สงสัยว่าคืนนี้ ฝนจะตก
นอกระเบียง ฟ้าสะอาด สีเทาหม่น ไม่สนใจแสงจากตึกระฟ้า ฉันจำได้ว่า มันเป็นอย่างนี้ตี้งแต่ครั้งแรกที่ฉันมาถึงแล้ว และก็ยังคงไม่สามารถมองเห็นแม้รอยจางๆของดาวเลย แม้สักดวง จนถึงตอนนี้
ฉันยืนกอดกองผ้าที่เก็บมาเมื่อครู่ แหงนมองดูฟ้าอยู่นาน เหมือนกัน
ฉันถอนใจ...ให้กับสิ่งใดน่ะเหรอ ฉันเองก็ไม่รู้
นั่นไง ฝนเม็ดน้อยตกลงมาเปิดพิธีแล้ว
น้ำตาข้างใน พาลเต่อขึ้นมาซะดื้อๆ...........
ฉันเปล่าเสียใจกับการที่ฝนตกนะ ก็ฉันเก็บผ้าของฉันแล้ว ทั้งฉันก็ไม่ได้เศร้าที่ฝนสาดมาโดนตัวจนชุ่มอย่างนี้เสียหน่อย
น้ำตานี่ มาจากเหตุใด.......
มีบางคน บอกฉันว่า "ฝนตกหลายวัน คงทำเธอหวั่นใหวไปหลายคืน"
อันนี้เห็นจะจริงอย่างที่เขาว่า
ฉันกลับเข้ามาในห้อง พร้อมที่จะเริ่มต้นการนอน ด้วยเสื้อผ้าชุดใหม่แล้ว และฉันก็ไม่ลืมกล่าว ราตรีสวัสดิ์ กับเม็ดฝน และก็ดาว ที่หลบอยู่ที่ไหนสักแห่งนั่นด้วย
อย่างน้อยก็อุ่นใจล่ะ ......เฮ้อ ผ้าฉันไม่เปียกฝน
ราตรีสวัสดิ์ค่ะ