31 กรกฎาคม 2547 18:07 น.
ผู้หญิงสีม่วง
ช่วงเวลาแห่งความทรงจำ ..
25 กรกฎาคม 2547
สวัสดีค่ะ .. คนในความคิดถึง
หวังว่าคุณคงสบายดี .. และไม่ลืมที่จะกินข้าวนะคะ
จดหมายฉบับนี้ .. เป็นฉบับสุดท้ายแล้ว ..
และขณะที่กำลังนั่งเขียนถึงคุณอยู่นี้ .. ฉันไม่รู้เลยว่า .. จะเขียนเรื่องอะไร
ค้นลึกลงไปในห้วงแห่งความทรงจำ .. ฉันพบแต่รอยน้ำตามากกว่าความอิ่มเอมในใจ
แล้วจะให้ฉันเล่าถึงความเจ็บปวดของฉันให้คุณได้รับรู้ .. เช่นนั้นหรือ ..
มันจะมีประโยชน์อะไรเล่า ..
การร้องไห้ฟูมฟาย ..ทำได้เพียงเรียกร้องความสนใจจากคุณ ..
แต่ไม่สามารถที่จะไปเรียกร้องให้คุณมอบหัวใจให้ฉัน ..
การที่คุณได้รับรู้ถึงความร้าวรานในใจฉัน .. อาจสร้างความรู้สึกผิดให้คุณ ..
แต่ก็ใช่ว่าหากเราย้อนเวลากลับไปได้ .. คุณจะไม่ทำมันเหมือนเดิม ..
คำตอบของทุกสิ่ง .. คุณเป็นผู้กุมไว้ .. อยู่ที่ว่าจะเฉลยให้ใครได้รับรู้หรือไม่ ..เท่านั้น
ทุกสิ่งทุกอย่างมีเหตุผลในตัวของมัน .. เรื่องของเราก็เช่นกัน ..
จะแย่ ..ก็ตรงที่ .. ฉันไม่มีโอกาสได้รับรู้ถึงเหตุผลแห่งการเสียใจของตัวเอง ..
ฉันร้องไห้ .. เพราะรู้สึกเจ็บ .. แต่ไม่รู้ว่า .. เจ็บเพราะเหตุใด ..
เพราะฉันไม่รู้อะไรเลย .. กับความเป็นไประหว่างเรา ..
คงเหมือนกับการที่เราสอบตก ..รู้เหตุผลว่าสอบตกเพราะอ่านหนังสือมาน้อย ..
แต่เพราะทำข้อสอบแบบสุ่มเดาคำตอบ .. จึงไม่รู้ว่าทำข้อสอบข้อไหนผิดไปบ้าง ..
ทั้งสองกรณีนี้ .. ป่วยการที่จะคาดเดา .. เพราะหากไม่มีผู้เฉลย .. ไฉนเลยจะรู้ความจริง
ตอนนี้ .. ข้อติดค้างที่ยังอยู่ในใจของฉัน .. เหมือนการว่ายวนหาเข็มอยู่ในอ่าง .. เล็ก ๆ
ขอบเขตแคบ .. แต่กลับงมหาไม่เจอ ..
อยู่ ๆ คุณห่างเหิน .. ใช้การห่างหาย .. มาทำลายเรื่องระหว่างเรา .. โดยไม่มีคำร่ำลา ..
เพราะเหตุใดคุณจึงเปลี่ยนไป .. เพราะอะไรเรื่องระหว่างเราจึงจบลง ..
ฉันอยากที่จะอ้อนวอนขอเหตุผล .. อย่างน้อยฉันจะไม่ติดค้างในความรู้สึก ..
ฉันไม่ดีพอ .. ฉันไม่ใช่แบบที่คุณต้องการ ..
ฉันไม่สวย .. ฉันไม่ฉลาด .. ฉันน่าเบื่อ .. หรือเพราะเรา ไกลกัน ..
เมื่อไม่มีคำตอบของความเจ็บปวด ..
แล้วฉันจะเอาเหตุผลข้อใดมาใช้ ในการช่วยให้หัวใจได้ลืมคุณ ..
คุณเปิดประตูหัวใจของฉัน .. และเดินจากไป .. โดยลืมที่จะปิดประตูกลับ ..
เมื่อพายุโหมกระหน่ำ .. ลมกรรโชก .. ฝนสาดซัด .. ฝุ่นละอองถูกพัดพา ..
ห้องหัวใจของฉัน เปิดรับความบ้าคลั่งของพายุ โดยไม่มีประตูปิดกั้น ..
ฉันทรมาน .. คุณทำร้ายหัวใจฉันได้อย่างไรกัน .. ฉันไม่เข้าใจ ..
เมื่อคุณไม่ให้ทางออก .. ฉันจึงจำเป็นต้องช่วยเหลือตัวเองให้หลุดพ้น ..
เพราะคุณเหงา และต้องการเพียงให้ฉันเป็นตัวฆ่าเวลาของคุณ..เท่านั้น
เป็นเหตุผลที่ฉันหยิบยกขึ้นมา เพื่อใช้ในการปลดปล่อยตัวเองจากความทรมานครั้งนี้ ..
อย่าโกรธ ที่ฉันจะโยนความผิดทั้งหมดให้คุณ ..
เพราะฉันเจ็บปวด และได้รับการลงโทษมามากพอแล้ว ..
ฉันจึงไม่ขอเอาความผิดทั้งหมดมาลงไว้ที่ .. ตัวเอง ..
และเมื่อเหตุผลแห่งการลาจากของเราเป็นเช่นนี้ ..
ฉันจึงควรแล้ว ที่จะสลัดความรู้สึกโง่ ๆ ที่มีให้คนไม่จริงใจคนหนึ่งออกไปจากหัวใจ ..
คนที่ไม่เห็นค่าของความรู้สึกรักอย่างไม่มีข้อแม้ .. ก็ไม่มีค่าพอให้หัวใจของฉันจะจดจำ ..
ฉันจะลืมคุณ ..
ตะกอนเล็ก ๆ เกี่ยวกับคุณในใจฉัน .. จะไม่มีวันได้ลอยขึ้นมาอยู่ชั้นบนที่ค้นเจอง่ายของหัวใจ ..
และเพราะฉันไม่ใช่คนไร้หัวใจพอที่จะลบความทรงจำออกไปได้ ..
ฉันจึงเลือกที่จะกลบฝังความทรงจำทั้งหมดเอาไว้ให้ลึกที่สุด ..หลังจบจดหมายฉบับนี้ ..
แม้ความทรงจำจะติดอยู่ในใจไม่อาจถอน .. แต่ไร้สิ้นแล้วซึ่งความรู้สึกดี ๆ ที่เคยมีให้ ..
ฉันไม่ใช่นางฟ้านางสวรรค์ .. และไม่ใช่นางเอกนิยายน้ำเน่า ที่จะมานั่งป่าวประกาศว่า ..
ฉันรู้สึกดีที่ได้คิดถึงคุณ .. แม้เราจบกันไปแล้ว ..
คงเป็นการโกหกอย่างให้อภัยตัวเองไม่ได้ .. ถ้าฉันจะพูดเช่นนั้นเหมือนที่หลาย ๆ คนมักพูดกัน ..
ทำไมล่ะ ..ก็ในเมื่อฉันร้องไห้ฟูมฟายแทบเป็นบ้า .. จ่อมจมความความคิดวกวนที่ไม่มีทางออก ..
ทั้งก่อนหลับ ..คืนแล้วคืนเล่า .. ทั้งตื่นจากฝัน .. วันแล้ววันเล่า
แล้วฉันจะเอาความความรู้สึกดี ๆ ที่ไหนกัน .. มาให้คิดถึง ..
ใครจะคิด..ใครจะพูด .. พูดไป.. แต่คงไม่ใช่ฉัน ..คนนี้
ภาพความเป็นฉันในตอนนี้ ..ผู้หญิงอ่อนหวานถูกฆ่าตายไปแล้ว ..
เหลือเพียงผู้หญิงหยาบกระด้างคนหนึ่งเท่านั้น ..ที่ยังอยู่ ..
หากมีวันหนึ่ง..ฉันหยุดส่งความคิดถึงไปให้
หากฉันเงียบไป..ไม่ส่งความห่วงใยเหมือนเก่าก่อน
ไม่มีคำกล่าวให้ฝันดี..ก่อนที่เธอจะเข้านอน
ทำคล้ายจะจากจร..หมดความอาทรเหมือนก่อนเคย
หากไม่มีฉันในชีวิต..เธอจะคิดอะไรไหม
หากอยู่อยู่ฉันหายไป..เธอจะใส่ใจหรือชาเฉย
จะมีไหมที่ห่วงหา..เมื่อกาลเวลาได้ล่วงเลย
ทั้งที่เราจบไม่ลงเอย..และไม่ได้เอ่ยคำร่ำลา
หากฉันไม่กลับไป..เธอจะรู้สึกอะไรหรือเปล่า
เมื่อความผูกพันระหว่างเรา..มันบางเบานักหนา
เธอมีฉันในวันเหงา..เพื่อบรรเทาความโศกา
คงเป็นเรื่องธรรมดา..หากฉันจะไร้ค่า..ให้เธอจำ
วันนั้น .. ฉันลังเล .. และใส่ใจความคิดของคุณในการพาตัวเองลาจาก ..
แต่วันนี้ .. ไม่มีคำถามใด ๆ อีกแล้วในการตัดสินใจจากลา ..
. . . . .
อยากให้คุณรับรู้ .. คุณทำฉันเจ็บเพียงใด .. คุณก็ยิ่งไร้ค่าให้ฉันจำ ..
คุณไม่ใช่ผู้ชนะ .. และฉันไม่ใช่ผู้แพ้ .. แต่ ..เราเสมอกัน ..
.. ครั้งสุดท้ายสำหรับการคิดถึงคุณ ..
...ผู้หญิงสีม่วง...
ปล. ลาก่อนนะคะ .. คนเดิน .. ผ่านมา ..
...........................................................
สืบเนื่องจาก ...จดหมายรักฉบับที่ 4 .. ความคิดถึงที่สูญเปล่า...
http://www.thaipoem.com/web/scoopdata.php?id=2888
23 กรกฎาคม 2547 18:51 น.
ผู้หญิงสีม่วง
ในห้องนอนที่เบาบางความคิดถึงคุณ ..
22 ก.ค. 2547
สวัสดีค่ะ .. คนในความคิดถึง
เป็นยังไงบ้างคะ .. กินข้าวหรือยัง ..
จดหมายฉบับนี้ .. ทิ้งช่วงห่างจากฉบับก่อนพอสมควร ..
ฉันคิดแล้ว คิดอีกว่า .. ควรจะเขียนมันขึ้นมามั๊ย ..
เพราะตอนนี้ .. ฉันมองไม่เห็นภาพของคุณอีกแล้ว ..ในใจ..
มันเป็นเพียงความว่างเปล่า .. เท่านั้น ..
แต่ท้ายที่สุด .. ฉันก็ตัดสินใจเขียนถึงคุณ ..
เพราะแม้ไม่มีภาพคุณในใจฉัน ..
แต่ความทรงจำในส่วนลึก .. ฉันยังฝังคุณไว้ไม่อาจถอน ..
นับจากวันนั้นถึงวันนี้ .. นานเท่าไหร่แล้วนะที่ฉันปล่อยให้หัวใจเดินทางอย่างไร้จุดหมาย ..
ฉันเหนื่อยมาแล้วกี่วัน .. ฉันล้ามาแล้วกี่คืน
กี่เช้าวันใหม่มาแล้วที่ฉันต้องตื่นขึ้นมาพร้อมด้วยเสียงถอนหายใจแห่งความ .. ว่างเปล่า ..
ผ่านไปแล้วอีกครั้งกับการรอคอย .. คุณไม่โทรมา ..
หัวใจของคนเรา..ทนความเจ็บปวดได้กี่ครั้งกันนะ ..ในหนึ่งชีวิต ..
เมื่อไหร่ .. ความรู้สึกในใจของฉัน ..จะตายลงเสียที ..
ถึงวันนี้ .. ฉันพูดไม่ได้เต็มปากแล้ว .. ว่าคุณคือคนที่อยู่ในหัวใจของฉัน ..
เพราะดูเหมือนว่าความเป็นจริง .. คุณยืนอยู่แค่ปากประตูหัวใจ ..พยายามที่จะเดินออกไปให้พ้น ..
ขณะที่ฉันยื้อคุณไว้. . ทั้งที่มัน..ไม่มีทาง ..
คุณเพียงผ่านมาเคาะประตู .. ทักทาย .. คุณไม่.. แม้แต่จะรับน้ำดื่มแก้กระหาย ..
น้ำแก้วหนึ่งที่ตั้งไว้ .. มันระเหยไป ..ใกล้หมดเต็มทีแล้ว ..
ขณะเดียวกัน .. ฉันก็ไม่ใช่คนที่อยู่ในหัวใจคุณเช่นกัน ..
ฉันยืนอยู่หน้าประตูแห่งใจคุณ .. .. และพร้อมที่จะก้าวเท้าเข้าไปข้างใน ..
ฉันแรมรอนไปยังแปลกถิ่น .. แต่ .. ไร้การต้อนรับจากเจ้าของใจ .. ไร้หลังคากันแดด ..คุ้มฝน ..
ฉันเหน็บหนาว .. ฉันหิว .. ฉันท้อ ..
บางสิ่งบางอย่างบังตาฉันให้พร่ามัว .. ในสิ่งที่ฉันเฝ้ารอ ..ฉันมองมันไม่เห็น ..
และสิ่งเดียวกันนี้ .. กั้นคุณเอาไว้ให้ไม่รับรู้การมาเยือนของฉัน ..
ฉันไม่รู้เลย..ว่ามันคืออะไร ..
ฉันพาความรู้สึก .. และหอบเอาความผิดหวังกลับมา ..
ซุกตัวอยู่ในมุมมืด ๆ .. สะอื้นไห้ ..จวบจนการรับรู้ดับไป ..
เพื่อที่จะกลับไปยืนอยู่หน้าประตูใจของคุณใหม่ ..ในทุก ๆ วัน .. ฉันทำมันวนเวียนอยู่แค่นี้ ..
ดูเหมือนมันไม่มีค่าอะไรในความรู้สึกของคุณ ..
ฉันใช้เวลาหมดไปกับความคิดถึง .. อย่างไร้จุดหมาย ..
ปล่อยความรู้สึกให้ล่องลอย ..และละลายหาย ไปในอากาศ ..เคว้งคว้าง ..
อะไรนะ .. ที่ทำให้ฉันเข้าไปไม่ถึงหัวใจคุณ ..
การรอคอยของฉัน .. มันไม่มีค่า ..
จุดหมายปลายทางของเรา .. ไม่เคยมี ..
ฉันคงเปรียบนักวิ่งที่มองไม่เห็นเลยว่าเส้นชัยอยู่ ณ จุดใด ..
ฉันมุ่งไปข้างหน้า .. วิ่งวนไปรอบสนาม ..รอบแล้วรอบเล่า .. เหมือนมันไม่เคยจะก้าวหน้า ..
เพราะที่สุดแล้วนั้น .. ฉันก็วกกลับมายังจุดเริ่มต้น ..ที่เดิม ..ที่ที่มองไม่เคยเห็นเส้นชัย
แต่แปลกไหม .. ที่ฉันยังคงวิ่งต่อไป ..
มาตอนนี้ .. ฉันประจักษ์แก่ใจดีแล้วว่า ..
เส้นชัยนั้น .. มันไม่มีอยู่ .. ไม่เคยมีการแข่งขัน ..
ไม่มีกรรมการ .. ไม่มีคู่แข่ง .. ไม่มีรางวัล .. ไม่มีชัยชนะ ..ไม่มีความพ่ายแพ้ ..
มีเพียงความว่างเปล่า .. เท่านั้น ..
ถึงเวลาที่ฉันจะวิ่งออกนอกสนาม .. และยอมรับความว่างเปล่านี้ให้ได้ ..
เรื่องระหว่างเราที่คุณบอกเอาไว้ว่า .. ต้องใช้เวลา ..
คุณรู้ .. ฉันรู้ .. ใคร ๆ ก็รู้ ..เวลาเป็นสิ่งที่ไม่มีวันหยุดนิ่ง ..
เรื่องของเราอาจต้องใช้เวลาชั่วชีวิตของใครต่อใครหลายคน ..
ชั่วชีวิตฉัน .. ชั่วชีวิตคุณ .. หากแม้ว่ามันจะไม่มีวันนั้นของเรา ..
ก็ยังไม่ผิดจากคำที่คุณบอกไว้ .. ว่า ..มันต้องใช้เวลา ..
เพียงแค่ว่า .. เวลาที่ว่า .. เป็นเวลาสำหรับสิ่งใด .. เท่านั้นเอง ..
คุณไม่ผิด ..
ครั้งหนึ่ง ..
ฉันเคยบอกให้คุณรับรู้ว่า .. ฉันคิดถึงคุณตลอดเวลา ..
จะมีบางเวลาเท่านั้น .. ที่ฉันจะไม่คิดถึงคุณ .. แต่มันแทบไม่มี
ฉันถามคุณ .. แล้วคุณล่ะ ..เคยคิดถึงกันบ้างไหม ..
คุณตอบว่า .. บางเวลา ..
วันนี้ .. ฉันมีบทสรุปของคำถาม ..
บางเวลา .. ที่คุณคิดถึงฉัน ..คือเวลาที่ฉันไม่คิดถึงคุณ .. ใช่ไหม
ซึ่งมันไม่เคยมี ..
คิดถึง..คำคำนี้
ทุกนาที..มีไปให้
ถึงแม้..ตัวอยู่ไกล
แต่หัวใจ..ไม่เคยจาง
โอ้เธอ..รู้ไหมว่า
ทุกเวลา..คราไกลห่าง
ใจฉัน..ไม่เลือนลาง
ระยะทาง..ไม่ขวางใจ
อยากพบ..อยากเจอหน้า
อยากพูดจา..สื่อสายใย
อยากเอ่ย..เผยความใน
แต่เมื่อใด..จะได้เจอ
ยิ่งคิด..ยิ่งคิดถึง
จึงรำพึง..ถึงเสมอ
ยิ่งรัก..ยิ่งรักเธอ
จึงเพ้อเจ้อ..ละเมอครวญ
ใจหนอ..ใจดวงน้อย
ยังเฝ้าคอย..ลมพัดหวน
คอยน้ำ..ให้ไหลทวน
แม้เจ็บจวน..ใจขาดรอน
ยังคิด..ยังคิดอยู่
แม้จะรู้..พึงสังวรณ์
เธอหาย..และจากจร
คือลาก่อน..ไม่ย้อนมา
ความคิด..ที่คิดถึง
คงไม่ซึ้ง..ตรึงเข้าหา
ดั่งควัน..ที่เคืองตา
คงไร้ค่า..น่าเคืองใจ
เลิกคิด..เลิกคิดถึง
จะคำนึง..ถึงไปไย
สูญเปล่า..เขาเมินไป
เรานั้นไซร้..คิดฝ่ายเดียว
. . . . .
ฉันพอจะมองเห็นปลายทางข้างหน้าแล้ว ..
อยู่ที่ว่าฉันจะวิ่งเข้าไปหามันหรือไม่ .. เท่านั้น ..
.. ยอมรับความจริงว่าหัวใจไม่เคยมีคุณอยู่ข้างใน ..
...ผู้หญิงสีม่วง...
ปล. ฉบับหน้าฉันจะเขียนถึงคุณ ..เป็นครั้งสุดท้าย ..
...............................................
สืบเนื่องจาก ..จดหมายรักฉบับที่ 3..เฝ้าถามหัวใจ..ทำไมคิดถึงคุณ..
http://www.thaipoem.com/web/scoopdata.php?id=2777
6 กรกฎาคม 2547 22:28 น.
ผู้หญิงสีม่วง
หนึ่งทุ่มกว่า ๆ .. เวลาแห่งการรอคอย
6 กรกฎาคม 2547
สวัสดีค่ะ .. คนในความคิดถึง
ขณะที่คุณอ่านจดหมายฉบับนี้ ..เป็นเวลาเท่าไหร่กันนะ ..คุณกินข้าวหรือยังคะ ?
ส่วนฉัน..ยังไม่ได้กินมื้อเย็นเลย .. รอให้คุณมาถามคำถามเดียวกันอยู่ ..
เมื่อสักพักมานี้ ..ฉันโทรไปหาคุณ แต่คุณก็ไม่ได้รับสาย ..
คิดว่าคุณคงกำลังเล่นกีฬาอะไรสักอย่างอยู่ข้างนอก ..
และไม่ได้เอาโทรศัพท์ไปด้วย .. หวังว่าคุณจะโทรกลับมานะคะ ..
ครบ 3 เดือนมาหลายวันแล้ว .. ฉันยังไม่ได้ไปบริจาคเลือด .. ตั้งใจว่าวันที่ 15 ถึงจะไป ..
ทำไมต้องวันที่ 15 น่ะเหรอ .. เพราะวันนั้นเป็นวันคล้ายวันเกิดของฉันเอง ..
อยากจะทำบุญในวันเกิดตัวเองบ้าง .. เผื่อว่าผลบุญจะหักลบผลบาปได้บ้าง ..
ฉันจะได้สมหวังในความรักเหมือนคนอื่นเขาเสียที ^ ^ ;
คุณรู้หรือเปล่า .. หลังจากที่เราพบกันครั้งแรกนั้น ..
ฉันกลับมาบ้าน .. พร้อมด้วยหัวใจดวงเก่า .. แต่เต็มไปด้วยบรรยากาศใหม่ ๆ ข้างในหัวใจฉัน ..
บัดนี้ .. หัวใจฉันคงกำลังเปลี่ยนสี .. หัวใจที่เคยเป็น..สีม่วง..
( ฉันคิดภาพหัวใจของฉันเองว่ามันต้องเต็มไปด้วยรอยความช้ำสีม่วง ๆ )
ฉันไม่รู้และไม่อยากคาดเดาหรอกว่ามันกำลังเปลี่ยนเป็นสีอะไร ..
รู้เพียงแต่ว่า.. มันเป็นสีที่นำความสดชื่นมาสู่ความรู้สึกของฉันน่าดู ..
ฉันตั้งตารอวันที่เราจะได้พบกันอีก ..
ในวินาทีที่คุณนัดฉันครั้งที่ 2 ในอีก 1 สัปดาห์ต่อมา .. หัวใจฉันพองโต ..และเต้นแรงขึ้นเรื่อย ๆ
จนฉันเกรงว่ามันจะแตกซะให้ได้ ..
ฉันคงไม่ต้องบอกคุณใช่ไหมว่าฉันนั่งนับวันที่เราจะได้เจอกันอีกหรือเปล่า ..
ฉันไม่ได้นับวันหรอก ..หากแต่ฉันนับทุกเสี้ยววินาทีเลยทีเดียว ..
แล้ววันนั้นก็มาถึง ..เราเจอกันครั้งนี้ที่ ..โลกแห่งความฝัน ..
ถ้าฉันมีเงินและมีอิทธิพลมากพอ..ฉันอยากจะเปลี่ยนชื่อสถานที่แห่งนั้นว่า.. โลกแห่งความจริง ..
ฉันจะได้เป็นผู้หญิงที่มีความสุขทั้งยามหลับและยามตื่น .. มิใช่สุขเพียงแค่ในฝันเท่านั้น
ฉันคงไม่ต้องบรรยายถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นระหว่างเราวันนั้น ..
เพราะหากคุณไม่ความจำสั้นพอ ..คุณคงยังพอจำมันได้ ..ฉันแน่ใจ ..
ดูแล้วคุณไม่ใช่คนแก่ หรือเป็นโรคอัลไซเมอร์ ..แล้วก็ไม่ได้เป็นปลาทองด้วย ..
อยากบอกให้คุณรู้ไว้อย่างหนึ่ง .. คุณเป็นคนแรกที่ทำให้ฉันกล้าเล่นเครื่องเล่นหลาย ๆ อย่าง..
ทั้ง ๆ ที่ฉัน ไม่เคยคิดเลยว่าตัวเองจะกล้า..
ฉันยังนึกเสียดายมาจนถึงวันนี้ .. ที่วันนั้นฉันไม่หยิบเอากล้องไปด้วย ..
เปล่านะ .. ฉันไม่ได้คิดจะถ่ายรูปคุณเพื่อเอามาตัดต่อ แล้วโพสต์ลงเวบพันทิพย์ .. ( ฮะฮะ )
แต่ฉันอยากที่จะเก็บภาพบรรยากาศ ..ภาพความทรงจำ .. ภาพคุณ ..เก็บเอาไว้ดู ..
เพื่อให้วันนี้ฉันแน่ใจว่า .. คุณมีตัวตนจริง ๆ ในชีวิตของฉัน ..
มิใช่เพียงแค่ในความฝันเท่านั้น ..
อยากมีภาพผู้ชายใส่แว่นคนหนึ่งที่ล้มตัวลงนอน ( หลับ ) บนม้าหิน..
โดยปล่อยให้ฉันนั่งคว้างอยู่คนเดียว ..พยายามคิดว่าคุณคงง่วงจริง ๆ
เป็นเพราะคุณนอนดึก.. แล้วเราก็เหนื่อยกันมาหลายชั่วโมง .. ( แต่ฉันก็นอนดึกนะ )
คุณรู้ไหม .. ฉันรู้สึกอย่างไรในตอนนั้น ..
ฉันไม่คิดว่าคุณน่าเบื่อ ..แต่คิดว่า ..ฉันต่างหาก .. ที่คงจะน่าเบื่อสำหรับคุณ ..
ดีใจที่คุณไม่รีบกลับ .. ดีใจมากกว่าเมื่อคุณชวนฉันไปดูหนังกันต่อ ..
แปลว่า คุณไม่ได้เบื่อฉันมากมาย .. ใช่ไหม ??
หนังเรื่อง.. The Butterfly Effect ..คงจะเครียดเกินไปสำหรับเราในวันนั้น..
และบรรยากาศยิ่งแย่เพิ่มขึ้นเมื่อคุณปวดท้อง ..
โมโหตัวเองที่ไม่พกยาเคลือบกระเพาะติดตัวไป ..ทั้งที่ตัวเองก็ปวดท้องอยู่บ่อย ๆ
อย่างน้อย มันคงช่วยคุณได้บ้าง ..
ภาพการแยกจากกันของเราวันนั้นไม่สวยงามในใจฉันเอาเสียเลย ..
ในนาทีที่ฉันได้ยินคำพูดประโยคหนึ่งออกจากปากคุณ ..
คุณจะสังเกตบ้างมั๊ย..ฉันหันหลังเดินจากมาโดยยกสองมือกอดอกแน่น..ราวกับว่าจะกอดตัวเอง ..
น้ำตาแห่งความน้อยใจพาลจะไหลเสียให้ได้ ..
เหตุผลต่าง ๆ นานาพรั่งพรูเข้ามาในความคิด ..และหยุดลงเมื่อมือหนึ่งสะกิดที่ไหล่ฉัน ..
เป็นมือของคุณ ..
ความรู้สึกน้อยใจเมื่อครู่หายไป .. แต่ก็กลับมาอีกในไม่นาน..เมื่อฉันทำเรื่องน่าเขกหัวตัวเอง ..
คำพูดโง่ ๆ ของฉันที่เอ่ยกับคุณนั้น .. มันบอกความนัยบางอย่างให้คุณรู้ ..
แต่คุณคงไม่ใส่ใจจะคิดถึงความนัยนั้น..เราจึงแยกจากกันอย่างไม่สวยงาม..อีกครั้ง ..
..ฉันไม่ได้ต้องการให้คุณเดินไปส่ง .. หากแต่ฉันต้องการความอาทรจากคุณมากกว่า..
รู้สึกโดดเดี่ยว..เคว้งคว้าง
ทั้งที่เดินอยู่ท่ามกลาง..ความสับสน
มากมาย..รายล้อมด้วยผู้คน
กลับว้าเหว่เสียจน..หมองหม่นวังเวง
หัวใจที่ยังไม่กลับฟื้น..
อ่อนแอเกินจะฝืน..การข่มเหง
รับไม่ไหว..หากจะเอาไปละเลง
ต้องยกแขนกอดตัวเอง..หวังพ้นภัย
ยิ่งเดินก็เหมือนยิ่งหนาว..
ยิ่งคิด..ยิ่งปวดร้าวยิ่งสงสัย
อยากวิ่งหนี..แต่เหมือนว่ายังอาลัย
ขาเลยค่อยค่อยก้าวไป..คล้ายว่า..รอ..
ยิ่งทบทวนยิ่งกลับจะ..สับสน
บวกกับความกังวล..จนทุกข์ท้อ
ทุกสิ่งไม่ง่าย..แม้การกลืนน้ำลายลงคอ
เกินรู้ซึ้งว่าการเฝ้ารอ... ท ร ม า น ...
ฉันอยากจะคิดว่าทุกอย่างเป็นความฝัน .. และฉันตื่นขึ้นในวินาทีแรกที่คุณเดินจากไป ..
หากที่ผ่านมานั้นฉันหลับอยู่ ..
ฉันจะไม่ทำอะไรที่เป็นการปลุกตัวเอง..โดยการมองตามข้างหลังคุณไปจนลับสายตา ..
มันดูเหมือนเป็นลางร้าย.. เพราะนับจากวันนั้นจนวันนี้ .. 3 เดือนกว่าแล้ว..
เราไม่ได้เจอกันอีกเลย . . . . . .
ช่วงเวลาที่ผ่านมาของเรา .. เป็นเพียงความฝันที่จับต้องไม่ได้ของฉันเอง ..
.. นี่ฉันฝันร้ายไปใช่ไหม .. แล้วทำไม..ใจมันเจ็บไม่หายเสียที ...
ทุกครั้งที่เสียงเพลงนี้แว่วมา .. ฉันต้องหยุดฟัง .. และร้องตามเบา ๆ ในใจ ..
อดคิดเล่น ๆ ไม่ได้..นี่ฉันไปแต่งเพลงนี้ไว้ตั้งแต่เมื่อไหร่นะ .. ( มันโดนใจจริง ๆ )
. . . . .
ทุกอย่างไม่ใช่ความฝัน .. เพราะฉันมีเรื่องให้ต้องเขียนถึงคุณต่อในฉบับหน้า ..
.. หัวใจฉันคงหยุดเต้น .. หากฉันเลิกคิดถึงคุณ ..
... ผู้หญิงสีม่วง ...
ปล. ตอนนี้ 3 ทุ่มกว่าแล้ว .. คุณยังไม่โทรกลับมา ..และฉันไม่อยากพูดความจริงเลยว่า . . ยังรอ . .
......................................................
สืบเนื่องจาก ..จดหมายรักฉบับที่ 2 .. มองในตาฉัน..จะเห็นคุณอยู่ในนั้น..
http://www.thaipoem.com/web/scoopdata.php?id=2718