20 มีนาคม 2548 19:44 น.
ผู้หญิงสีม่วง
ฉันคงสำคัญตัวผิด ..
ที่หลงคิดว่าสำหรับเธอ .. มีความหมาย ..
เพ้อ.. ฝัน .. ถึงวันได้อยู่เคียงข้างกาย
หวังว่าตอนสุดท้าย .. จะจบเหมือนนิยาย .. ได้ลงเอย
เป็นผู้หญิงที่โง่เง่า ..
มีเพียงความเขลา .. ให้ใครเอาไปเยาะเย้ย
แล้วก็คงจบ .. ด้วยความเจ็บอย่างที่เคย
รอแค่เวลาให้เธอเอ่ย .. เผยความจริง
ระหว่างเราเป็นไปไม่ได้ ..
เธอร้อยฉันเอาไว้ใช้ .. เป็นของตายที่อยู่นิ่ง
ถึงคราวเธอเบื่อหน้า .. วันไหนหมดค่าคงโยนทิ้ง
ไม่มีสิทธิ์จะท้วงติง .. หรือประวิงแม้เวลา
เมื่อตัวฉันไม่มีความหมาย ..
ต่อให้รักเธอแทบเป็นแทบตาย .. ก็ไร้ค่า
ความห่วงใย .. ความคิดถึง .. เธอจึงไม่นำพา
ไม่เคยคิดปรารถนา .. เหมือนกรวดหินธรรมดาที่ถูกเมิน ..
............................................
13 มีนาคม 2548 07:50 น.
ผู้หญิงสีม่วง
จะหลอกกันเรื่องใดฉันไม่ว่า
แต่จงอย่าลวงใจให้ขื่นขม
เพียงล้อเล่นเพื่อสาในอารมณ์
คงเจ็บจมความช้ำจนกล้ำกลืน
หากหญิงสองคือกำไรที่ชายหวัง
ไม่ขอพลั้งกายใจเอาไปยื่น
กลัวต้องนอนร้องร่ำทุกค่ำคืน
ทั้งหลับตื่นสะอื้นไห้ในฤดี
อย่าเห็นฉันเป็นของเพื่อลองลิ้ม
ไม่ทันอิ่มก็หน่ายบ่ายหน้าหนี
เปรียบดอกไม้แรกดอมหอมยังมี
พ้นนาทีกลิ่นก็หายมลายไป
จะหลอกกันเรื่องใดฉันไม่โกรธ
แต่ถือโทษหากลวงรักแล้วผลักไส
พอชื่นชมสมอยากก็จากไกล
แค่ความใคร่ เท่านั้น .. ที่มันจริง
..........................................
6 มีนาคม 2548 22:11 น.
ผู้หญิงสีม่วง
คอยเธอ คอยเฝ้า มองหา
แววตา หม่นหมอง ร้องไห้
รอแล้ว รอเล่า เศร้าใจ
เมื่อไหร่ ได้พบ ได้เจอ
น้อยอก น้อยใจ ยิ่งนัก
คนรัก มาปล่อย คอยเก้อ
น้ำหู น้ำตา ไหลเอ่อ
เหมือนเธอ ไม่เห็น สำคัญ
เหนื่อยอก เหนื่อยอ่อน รอนล้า
เหว่ว้า จนใจ ไหวหวั่น
สิ้นเยื่อ สิ้นใย ให้กัน
ทุกวัน เปล่าเปลี่ยว เดียวดาย
หมดจิต หมดใจ ให้แล้ว
ไม่แคล้ว ความฝัน พลันหาย
เคยรัก เคยมั่น คลอนคลาย
พากาย ให้ห่าง ร้างตาม
....................................
22 กุมภาพันธ์ 2548 01:29 น.
ผู้หญิงสีม่วง
แสนคับข้องหมองใจกระไรนี่
รักคนที่ตัวเขามีเจ้าของ
รู้ทั้งรู้ยังไพล่คิดใฝ่ปอง
หวังยึดครองมาชิดเป็นสิทธิ์เรา
สุขไม่จริงสิ่งแท้แน่คือช้ำ
ต้องกลืนกล้ำน้ำตาแทนค่าเขลา
ทุ่มเทให้ทั้งตัวเหมือนมัวเมา
รักไยเล่าร้อนรนดั่งมนตร์ดำ
จะร่ำร้องฟ้องใครให้อายเปล่า
เพราะตัวเจ้าหลงผิดคิดทางต่ำ
ลูกเมียเขามีพร้อมก็ยอมทำ
ยังถลำเกลือกกลั้วเอาตัวปน
ศีลข้อสามท่องไปไม่ซึมซาบ
มัวเริงบาปลืมบุญหนุนกุศล
กว่าตรองตรึกสำนึกได้ใจอับจน
ต้องทุกข์ทนหม่นร้าวหนาวทั้งทรวง
ตกที่นั่ง .. นางรอง .. นางร้องไห้
เหตุเพราะไปเกี่ยวข้องกับของหวง
คงไม่นานหรอกหนาเขามาทวง
หากแม้นควงเคียงได้ก็ไม่นาน
........................................
นางรอง .. เป็นชื่อน้ำตกใน จ.นครนายก .. เพี้ยนมาจาก .. นางร้อง ( ไห้ ) ..
มีตำนานเขียนเล่าเรื่องราวเอาไว้ ... เคยอ่านเมื่อนานมาแล้ว ..
ไม่แปลกถ้าจะจำได้ลางเลือน .. ลืมไปแล้วก็ว่าได้ .. ( ซะงั้น ) .. 555
ใครพอจะรู้มาเล่าให้ฟังบ้างนะคะ ..
เอ .. สงสัยต้องเรียกหาคุณฤกษ์ ฯ เจ้าพ่อเรื่องเล่า .. เล่าเก่งนักละคนนี้น่ะ .. อิอิ
9 กุมภาพันธ์ 2548 23:45 น.
ผู้หญิงสีม่วง
เชิญอยู่ข้างบนอย่างคนสูงส่ง ..
อย่ายื่นเท้าเหยียบลง .. บนพื้นที่ฉันยืนอยู่
คนข้างล่างมันค่าน้อย .. อย่าชม้อยตาลงมาดู
ความหมายของคำ .. ไม่ควรคู่ .. ฉันรู้และเข้าใจ
เท้าเธอคงแดง .. อย่ามาตะแคงให้ระคาย
คนอย่างฉันไร้ความหมาย .. จะอับอายหากเข้าใกล้
มีหญิงอื่นที่เทียมเท่า .. ฉันกับเขาต่างกันเกินไป
เธอรู้ดีว่าคนไหน .. มีสิทธิ์ได้ครองใจเธอ
เชิญอยู่ข้างบนอย่างคนสูงค่า ..
มิบังอาจคิดไขว่คว้า .. อย่ายื่นมือส่งมาเสียให้เก้อ
คนข้างบนกับคนข้างล่าง .. ระยะมันห่างเกินได้พบเจอ
ไม่คิดปีนป่ายไปหาเธอ .. เอาหน้าไปเสนอให้อายดิน
.............................................