11 กันยายน 2551 14:04 น.
ผู้หญิงช่างฝัน
เสียงสะท้อนจากประชาชนคนหนึ่ง
ไม่ได้นิยมชมชอบสมัคร และก็เกลียดทักษิณมากด้วย
แต่ก็เป็นแค่คนที่ "เคย" นิยมพันธมิตรเหมือนกัน
เสียดายว่าพันธมิตรไม่ฟังในหลวง
ที่อุตส่าห์ส่งตุลาการมาเป็นตัวช่วยของชาติ
เสียดายว่าถ้าวันนี้พันธมิตรมีสติสักนิด เดือนหน้าจะมีคดียุบพรรค
ซึ่งก็มีลุ้นว่าผลจะเป็นอย่างไร
เสียดาย ที่คนนำขบวนเป็นคนที่เห็นชัยชนะของกลุ่ม
สำคัญกว่าประโยชน์ของประเทศชาติ
เสียดายว่า คนที่มาชุมนุม คิดแต่จะโค่นล้ม แต่ไม่คิดสร้างสรร
การโค่นล้ม มันไม่ได้ยากหรอก แต่การสร้างสรรต่อจากนี้ล่ะ
เคยคิดกันมั้ยว่าหลังจากซากปรักหักพังของชาติ
คุณจะสร้างมันขึ้นมาใหม่อย่างไร
ไม่เคย!! ..
เพราะตอนนี้ทุกคนมีแต่อาวุธหนัก
และความคิดแบบก้อนหินเตรียมทุ่มใส่กัน
คุณจะสร้างตึกใหม่ยังไง ถ้าคุณเตรียมพร้อมแต่เรื่องการทุบตึก
แต่ ไม่มีแบบแปลนของการสร้างตึกใหม่
คุณก็ต้องทุบและสร้างอย่างนี้ไม่มีทีสิ้นสุด
สหภาพการบินไทยสั่งหยุดงานประท้วงทั้งที่ตัวเองขาดทุนร่วมหมื่นล้านบาท
ถ้าหัวหน้าสหภาพหัวรุนแรงสั่งพนักงานลาหยุด
ลูกค้าไม่พอใจ boycott คุณ วันหน้าคุณจะขาดทุนยิ่งกว่านี้
แล้วมันจะเหลืองานอะไรให้คุณทำอีก คุณควรจะทำตามหน้าที่หรือไม่ ?
ถ้าพันธมิตรไม่ฟังคำสั่งศาล โดยการอ้างอารยะขัดขืน
คุณคิดว่าถ้ามีการส่งผู้ร้ายข้ามแดน ทักษิณจะไม่อ้างคำๆเดียวกันนี้หรือ
แล้ววันนั้น คุณก็จะมีการชุมนุมไม่รู้จักจบสิ้น
แล้วถ้าคุณเห็นการชุมนุมอย่างรุนแรงอย่างนี้
อังกฤษก็มีสิทธิ์ที่จะให้คำร้องขอเป็นผู้ลี้ภัยทางการเมืองกับทักษิณได้
เพราะความไม่ปลอดภัยจริงไหม ?
ถ้าไม่ฟังคำสั่งศาล ..
คุณจะขอให้ศาลฟังคำขอร้องของคุณ ให้พาคนมาลงโทษได้อย่างไร ?
เพราะในความเป็นจริงคุณจะฟัง
และยอมรับแต่คำสั่งที่เอื้อประโยชน์ต่อคุณเท่านั้นไม่ได้
มหาตมะ คานธี ใช้เวลาเป็น 10 ปีกับคำว่าอารยะขัดขืน
ภายใต้กฏหมาย กว่าจะปลดปล่อยอินเดียสำเร็จ
เนลสัน แมนเดลลา ติดคุกกี่ปีกัน กว่าจะมีวันนี้ วันที่เป็นรัฐบุรุษ
อ.ไชยยันต์ ไชยพร อ้างคำว่าอารยะขัดขืนฉีกบัตรเลือกตั้ง
แต่ก็ยอมมอบตัวอยู่ภายใต้กฎหมาย
ถ้าพันธมิตรจะอ้างคำนี้ก็ควรจะอยู่ใต้กฎหมายไม่ต่างกัน
การชุมนุมเรียกร้องให้เกิดความถูกต้องเป็นเรื่องดี
แต่อย่าสร้างเงื่อนไข ไม่ให้เกิดความรุนแรง นั่นคือเรื่องที่ดีที่สุด
การพูดบนเวที ควรเป็นการพูดยั่วยุใช่หรือเปล่า ?
ถ้าพันธมิตรเครียดเพราะบรรยากาศ
ก็โปรดรู้เถอะว่าตำรวจที่ต้องคุ้มครองท่านก็เครียดไม่ต่างกัน
ท่านต้องจากบ้านมาชุมนุม ตำรวจทั้งหลายก็ต้องลาครอบครัวเขา
มาเพื่อควบคุมสถานการณ์เช่นนี้ไม่ต่างกัน
และแน่นอนเชื่อว่าทุกคนทั้ง 2 ฝ่ายไม่ต้องการความรุนแรง
เพื่อจะได้กลับไปอยู่กับครอบครัวและอยู่อย่างปรกติสุข
ผู้นำชุมนุมก็เช่นกัน อย่างที่รู้หนึ่งในนั้นเป็นทหารเก่า
ทหารมีคำพูดประกาศิตว่า " ไม่มีสิ่งใดแทนที่ชัยชนะได้"
แต่นั่นคือกับศัตรู วันนี้ประเทศจะแพ้ พันธมิตรก็ไม่ชนะ
คนหัวเราะกับชัยชนะบนความล้มเหลวของไทย
อยู่ห่างจากประเทศไทยไปหลายหมื่นกิโลเมตร
โน่น ณ ลอนดอน ประเทศอังกฤษ
แล้วกับเพื่อนๆพี่น้องร่วมแผ่นดินล่ะ
ชัยชนะคือความสามัคคีของคนในชาติหรือเปล่า ลองตอบตัวเองดู ?
ประเทศไทยตอนนี้ แบ่งออกเป็น 3 ก๊ก
พวกเอาทักษิณ
พวกไม่เอาทักษิณ
พวกไม่เอาใครเลย
3 กันยายน 2551 17:30 น.
ผู้หญิงช่างฝัน
ใกล้จะได้เวลาเลิกงานแล้ว..
ฉันละสายตาจากจอคอมพิวเตอร์
หลังจากที่คร่ำเคร่งเอาเป็นเอาตายอยู่กับมันมากว่า ๒ ชั่วโมง
พักสายตาไปสู่บรรยากาศนอกหน้าต่าง...
หน้าต่างแห่งความเปลี่ยวเหงา..บานเดิมของฉัน..
วันนี้..
ท้องฟ้ามืดครึ้ม ลมพัดแรง..
ฉันนั่งมองยอดไม้ที่ไหวโยกเพราะแรงลม
ใบไม้ระหว่างต้น เต้นไหวราวกับมีชีวิต
ฉันสัมผัสได้ถึงความสดชื่น มีชีวิตชีวาภายนอกหน้าต่างนั้น
เออหนอ.. เพียงแค่กระจกกั้น
บรรยากาศสองฟาก ดูแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
ขณะที่สิ่งมีชีวิตภายนอก กำลังเต้นระบำเริงร่ายั่วฝนฟ้าอยู่นั้น
สิ่งมีชีวิตภายในห้องสี่เหลี่ยมกว้าง ๆ อย่างฉัน..
กลับไม่มีชีวิตชีวาเอาเสียเลย
ท่ามกลางเสียงเอะอะโวยวาย ในบางครั้ง
เงียบสงบจนแทบจะได้ยินเสียงหายใจของตัวเองในบางหน
รวมทั้งเจ้าปริ๊นเตอร์ตัวดีเสียงดัง ของหน่วยงานข้าง ๆ
ที่แผดเสียงได้รบกวนประสาทหูอย่างที่สุด
ไหนจะความเย็นจากเครื่องปรับอากาศ ที่ไม่แน่ไม่นอน..
บางวันก็เย็นยะเยือกจับขั้วหัวใจ บางวันก็แค่พอได้รู้สึกว่าเย็น
และอีกบางวัน ถึงขนาดต้องเอ่ยถามเพื่อนร่วมงานว่า
ใครเปิดฮีทเตอร์
ทั้งนี้ทั้งนั้น คงแล้วแต่ว่าต่อมใต้ขนแขนใครจะตอบสนองความเย็นได้มากแค่ไหน
ในวันหนึ่ง ๆ จึงมีคนเดินไปเพิ่มไปลดอุณหภูมิอยู่เนือง ๆ
นี่ฉันมัวแต่บ่นบ้าอะไรอยู่นะ
เพราะที่จริง.. วันนี้ฉันตั้งใจจะเขียนความรู้สึกดีดีถึงใครบางคนมากกว่า..
แต่แปลกจัง.. ฉันกลับนึกอะไรไม่ออก เขียนอะไรไม่เป็นขึ้นมาเสียอย่างนั้น
ทุกอย่างมันเต็มอยู่ในรู้สึก แต่ฉันกลับหยิบจับอะไรในรู้สึกนั้นออกมาไม่ได้เลย
..บ้าจัง..