19 มิถุนายน 2551 17:36 น.
ผู้หญิงช่างฝัน
ฟ้าใกล้สว่างแล้ว...
จันทร์เสี้ยวสีสุก กับหมู่ดาวที่กระพริบพราวบนราวฟ้าเริ่มอ่อนแสง
แต่ยังคงความงดงาม...
นึกสงสัย.. ท้องฟ้าอันมืดมิดรู้สึกอย่างใดหนอ
ในคืนที่ฟ้าไร้ดาว ไร้เดือน แหงนเงยเมื่อใดก็พบแต่ความว่างเปล่า ไร้ซึ่งคนสนใจ
แต่คือคืนวันอันอิสระ วันที่ฟ้าเป็นฟ้า งดงามอยู่กับความเป็นตัวเอง
ก็ แ ค่ ส ง สั ย..
..
ผ่านไปอีกคืน.. เหมือนเดิม ๆ ทุกสิ่งทุกอย่างเกิดขึ้นแล้วก็จบลง
เหมือน ชี วิ ต อุบัติขึ้นแล้วแตกดับ เวียนว่ายอยู่บนโลกใบนี้ไม่มีเปลี่ยน
โลกที่ไม่เคยรับรู้ต่อสิ่งใด..
ไม่รับรู้ถึงความทุกข์ยาก ความเศร้าโศก ความสูญเสียที่เกิดขึ้นกับมนุษย์
โลกที่ยังคงหมุนไป.. ขณะที่ทุกสิ่งบนโลกก็ยังดำเนินต่อไป.. เหมือนเดิม..
ดอกไม้ยังบาน ยังร่วงโรย.. ลมยังคงพัดเย็น...
แสงจันทร์ที่เคยสาดส่องลงมาอย่างอ่อนโยน
ชั่ ว ข้ า ม คื น.. ก็เลือนหาย
ไ ม่ มี อ ะ ไ ร เ ป ลี่ ย น ..
..
ดวงดาวอ่อนแสงลงไปทุกที
เหลือเพียงจันทร์เสี้ยวสีสุกที่ยังคงครอบครองท้องฟ้ายามรุ่งสาง
สัญญาณแห่งเช้าวันใหม่มาเยือน
วันที่ต้องลุกขึ้นมาเผชิญกับความจริง ที่ไม่ว่าจะชื่นสุขหรือทุกข์เพียงใด
ก็ต้องต่อสู้กับมันต่อไป ตราบเท่าที่ลมหายใจยังไม่ขาดหาย
๒๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๙
17 มิถุนายน 2551 09:47 น.
ผู้หญิงช่างฝัน
การพบคุณเป็นเรื่องยาก.. แต่การบอกรักคุณเป็นเรื่องยากเสียยิ่งกว่า
คุณเหมือนท้องฟ้าสวยงาม เป็นความอบอุ่นเมื่อได้มอง..
ความโอบเอื้อของคุณไม่จำกัดอยู่แค่ใคร เพราะคุณเป็นอย่างนี้กับทุกคน
จึงบอกไม่ได้ว่า แท้จริงแล้วคุณรู้สึกอย่างไร กับใคร แค่ไหน
และกับใครแค่ไหนของคุณนั้น ก็ให้อดคิดไม่ได้ว่า
ถ้าได้เป็นใครคนหนึ่งในนั้นในใจคุณ จะเป็นความโชคดีสักแค่ไหน...
ความรู้สึกในน้ำเสียงอ่อนหวานของคุณ-เป็นเหมือนกำลังใจให้ทุกครั้ง
และทุกครั้งที่โทรหา แม้คุณจะยุ่งสักแค่ไหน แต่ถ้อยคำอ่อนโยนของคุณ
ก็ทำให้รู้สึกเหมือนว่าลอยได้ อย่างที่ไม่เคยรู้สึกแบบนี้มาก่อน
คุณเหมือนความวิเศษเมื่อได้พบ เป็นความดี..
ที่เพียงแค่เข้าใกล้ก็รู้สึกถึงพลังอันมากมาย
จนเหมือนกับว่าตัวเองเป็นความบาป
ที่แค่เพียงใกล้คุณ ความรู้สึกก็แบ่งแยกได้ทันที
ไม่อาจจะบอกได้ว่า รู้สึกกับคุณนั้นแค่ไหน
เพราะคุณห่างไกลเกินใฝ่ฝัน
รู้แต่ว่าเมื่อได้รู้จักคุณ สิ่งดีดีเหมือนจะซึมซ่านกระเซ็นเข้ามาหา
..ในหัวใจ.. ในความรู้สึก..
ตั้งใจเหลือเกินว่า... จะทำความดีให้มากกว่านี้ มากกว่าที่ทำอยู่
เพียงเพื่อว่า.. อาจจะได้พบคุณอีก หวังจะได้พบคุณอีก..สักครั้ง
9 มิถุนายน 2551 12:35 น.
ผู้หญิงช่างฝัน
๕ ธันวามหาราช เมื่อหลายปีก่อน
ฉันกับแม่ จุดเทียนชัยถวายพระพร ร้องเพลงสดุดีมหาราชา
พร้อมคนไทยทั่วประเทศ อยู่หน้าจอโทรทัศน์
ด้วยความรู้สึกว่า ช่างเป็นบทเพลงที่ไพเราะที่สุดในโลก
โดยเฉพาะในยามที่ได้เปล่งเสียงออกมาดัง ๆ .. จากหัวใจ..
มันทำให้ฉันขนลุก ตื้นตัน และสุขใจอย่างบอกไม่ถูก
แม่ของฉัน.. หญิงชาวบ้านธรรมดา ๆ คนหนึ่ง
ซึ่งมีหัวใจอ่อนโยนเหลือเกิน
ร้องเพลงนี้แบบผิดบ้างถูกบ้าง อย่างตั้งอกตั้งใจ
เมื่อเพลงจบ แม่ยกเทียนขึ้นพนมไหว้เหนือศีรษะ พึมพำพอได้ยินว่า
ขอให้ทรงพระเจริญ สุขภาพแข็งแรง อยู่เป็นร่มโพธิ์ร่มไทรไปนาน ๆ นะ
แล้วแม่ก็น้ำตารื้น บอกฉันด้วยเสียงสั่นเครือว่า
แม่รักในหลวงที่สุด รักมากเลย
ฉันคงซึมซับความรู้สึกนี้มาจากแม่กระมัง
เรื่องหนึ่งที่แม่ต้องสอนหลานตัวน้อย ๆ ที่เพิ่งจะรู้ประสา
นั่นคือการชี้รูปให้ดูแล้วบอกหลานว่า
หนู.. นี่ในหลวง ไหนเรียกซิ ใ น ห ล ว ง
ธุจ้าด้วยลูก ธุจ้า...
หรือส่วนหนึ่งเป็นเพราะฉันเกิดมานาน
ได้รับรู้ถึงพระราชกรณียกิจและความเหน็ดเหนื่อยของพระองค์
ได้สัมผัสถึงบรรยากาศของความจงรักภักดีของคนชนบทมาตั้งแต่เด็ก ๆ
ในสมัยก่อน ฉันเคยตามแม่ไปรอรับเสด็จพระองค์และ สมเด็จย่า
สมัยที่ไฟฟ้า น้ำประปา ถนนดีดีสี่เลน ยังไม่ทั่วถึงเหมือนเดี๋ยวนี้
มีแต่ถนนทางเกวียน ที่รายล้อมไปด้วยป่าไผ่
(เสียดายที่ภาพเหล่านั้น หมดไปจากถิ่นที่ที่ฉันอยู่เสียแล้ว)
......