15 ตุลาคม 2550 12:12 น.
ผู้หญิงช่างฝัน
หญิงสาวหน้าตาดี ผมยาวประบ่า เดินเข้ามาในร้านอาหารที่ฉันนั่งอยู่กับเพื่อน ๆ
ฉันเพ่งมองเธอด้วยความรู้สึกเหมือนคุ้นเคย เหมือนเคยเห็นเธอที่ไหนมาก่อน
เธอเข้ามานั่งเงียบ ๆ ลำพัง สั่งเพียงเครื่องดื่มแก้วเดียว...
ฉันพยายามจ้องมอง ด้วยหวังให้เธอรู้สึกและหันมา และฉันก็ทำสำเร็จ..
อ้าว.. คุณกี้.. ฉันร้องทัก
เธอแยกเขี้ยว เอ๊ย!.. ส่งยิ้มให้ฉัน สาวตาคมผิวขาวคนนี้นี่เอง
คนที่ฉันชื่มชอบอารมณ์งานเธอ
เธอคนนี้ ที่เคยมีคนว่าอารมณ์เราใกล้ ๆ กัน.. จริงเท็จอย่างไร ฉันก็ไม่รู้..
แต่นึกไม่ถึงว่าจะได้มีโอกาสได้เจอตัวเธอเป็น ๆ ในวันนี้
ใครหนอ.. ช่างว่า..
ฉันไม่เห็นว่าเธอจะ ดำ ดังคำร่ำลือเลยสักนิด.. ผิวเธอออกจะขาว เนียน..
รับกับดวงตากลมโตคู่นั้น
ไม่นึกว่าจะได้เจอ
ฉันเริ่มคำทักทาย แม้จะนึกแปลก ๆ งง ๆ อยู่ในใจว่าทำไมจู่ ๆ
เธอคนนี้จึงโคจรมาพบกับฉันได้
เราเริ่มสนทนากันแบบสัพเพเหระ แต่ความจำฉันมันช่างลางเลือนนัก
ฉันจำไม่ค่อยได้หรอกว่าเราคุยกันเรื่องอะไรบ้าง ยกเว้นข่าวดี.. ที่เธอคนนี้บอกฉัน..
เมษานี้.. กี้จะแต่งงานแล้วนะ...
จริงสิ . ฉันรู้สึกตื่นเต้นและอดยินดีไปกับเธอไม่ได้..
คุณกี้จะแต่งงาน... ฉันอมยิ้มและบอกตัวเองซ้ำ ๆ อยู่อย่างนี้
คุณกี้จะแต่งงาน..
.....
...
เ อ้ ก อี๊ เ อ้ ก ... เ อ้ ก...ก..
เสียงไก่ที่ไหนนะ... ฉันรู้สึกมึนงง...
เ อ้ ก อี๊ เ อ้ ก ... เ อ้ ก..ก.. แน่ะ.. มันร้องซ้ำ...
เ อ้ ก อี๊ เ อ้ ก ... เ อ้ ก..ก...
ฉันเริ่มรู้สึกตัว.. แล้วควานหาโทรศัพท์มือถือเจ้าของเสียงไก่นั่น
ป้าดดิโธ่... นี่ฉันฝันไปรึนี่... มันเหมือนจริงชะมัด..
2 ตุลาคม 2550 18:09 น.
ผู้หญิงช่างฝัน
แมลงสาบ..
บินสะเปะสะปะมาเกาะฉันสองครั้งสองคราด้วยกัน ทั้งที่ฉันพยายามไล่มันไป
ทำให้ฉันรู้สึกว่า มีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้น
ครั้นแหงนมองดูท้องฟ้า..
หมู่เมฆสีแดงเคลื่อนตัวแผ่คลุมห้วงฟ้ายามค่ำคืนอย่างรวดเร็ว
หรือพระเจ้าจะปราณีมนุษย์ด้วยการหลั่งฝนลงมาดับความร้อนซึ่งแผดเผา
สุนัขจรจัดสีน้ำตาลตัวเดิมเวียนมานั่งจ้องมองฉันอีกครั้ง
ด้วยท่าทางอยากผูกมิตร ฉันไม่รู้ว่า มันต้องการเช่นนั้นหรือเปล่า
และอะไรกันแน่ที่มันต้องการ ในเมื่อฉันไม่มีสิ่งใดพอจะเอื้อแก่มันได้เลย
นอกจากรอยยิ้มและความไว้วางใจ
ฉันมองดูมันและยิ้มอย่างเศร้า ๆ ด้วยความเบื่อหน่าย
ฉันไม่อยากให้มันคิดว่า การแสดงออกของฉัน
เป็นการบ่งถึงความรู้สึกชั่วคราวเท่านั้น แต่เป็นเพราะฉันเบื่อหน่ายเหลือเกิน
ฉันยื่นปลายปากกาให้ขณะที่มันนั่งอยู่ที่เดิม
มันยื่นจมูกเข้ามาดมและแลบลิ้นเลีย ฉันจึงเอื้อมมือลูบคลำหัวของมัน
วางนิ่ง ๆ มันไม่มีท่าทีขัดขืนแต่อย่างใด สายตาจ้องมองฉันแน่นิ่ง
แม้มันจะรับรู้ถึงความจริงใจของฉัน
แต่มันคงรับรู้ถึงความเบื่อหน่ายได้เช่นกัน มันจึงผละจากมือฉันไป
ฉันไม่ได้โทษมันหรอก.. แต่ออกจะรู้สึกเสียใจ
ที่ฉันไม่สามารถให้ความรื่นเริงแก่มันได้แม้เพียงเล็กน้อย
ด้วยความรู้สึกแสนเหนื่อยล้า ไม่อยากทำอะไร
ไม่อยากขยับเขยื้อนไปไหน และไม่อยากอยู่ที่ใด
ชีวิตช่างเป็นเรื่องน่าเบื่อเสียจริง...
แน่ะ มันวิ่งมาอีกแล้ว
จากหนังสือ เอาผืนดินห่มให้หายหนาว / วุฐิศานติ์ จันทร์วิบูล