9 ตุลาคม 2552 12:35 น.
ผู้หญิงช่างฝัน
คนดี.. ที่แสนรัก
ขณะที่ฉันกำลังสั่นสะท้าน ต่อสู้กับความเหงาร้ายอยู่ในขณะนี้
คุณไปอยู่เสียที่ไหนหนอ...
ฉันได้แต่เฝ้ารอ.. สายลมหนาวแห่งเหมันต์ฤดู
ด้วยหวังจะส่งผ่านข่าวคราวระหว่างเราให้ถึงกันได้อีกสักครั้ง
*โลกกว้าง ร้างมิตรสหาย* ที่นี่..
ทำให้ฉันรู้สึกอ้างว้าง และเศร้าในหัวใจนัก
ฤดูกาลที่หมุนเปลี่ยนไป ร้อนแล้ว ฝนเล่า..
พัดพา *ปรารถนาบรรณาการ* ของเราไปตกอยู่เสียที่ไหน
อยู่ไหนหนอ...
*ผู้ปรากฏกาย... ท่ามกลางมิตรสหายในราตรีกาล
อยู่ที่ไหน..
*ผู้เงียบสงบ ในความเริงร่า... แหละเรียบง่าย ในความว้าวุ่น
*ผู้สอนให้ผู้ไม่เคย... ได้คุ้นชิน เรียนรู้ เข้าใจ และแบ่งปัน..
เหลียวหา แลเห็น..
ก็พบเพียงความว่างเปล่า.. ให้รู้สึกทดท้อ..สิ้นหวัง
อ้างว้างยาวนาน...
ฤาเพราะไม่เคยมีฤดูกาล.. สำหรับชีวิต
.....
ไม่รู้ว่าความหวัง.. จะเบ่งบานได้อีกสักครั้งไหม
ท่ามกลางสายลมหนาวที่โบกโบยโชยชื่น
หรือว่า..
ฤดูกาลที่ผันเปลี่ยน
ได้เดินทางพาเราจากไกล.. จนไม่อาจสัมผัสกันได้อีกแล้ววันนี้
11 กันยายน 2552 15:00 น.
ผู้หญิงช่างฝัน
วันเวลาเดินทางอย่างเร่งรีบ
วัย.. วัน.. ความฝัน.. มีทั้งเปลี่ยนแปลง และจากไป
สิ่งต่าง ๆ ที่ผ่านเข้ามา
ล้วนผ่านมา.. แล้วผ่านไป
หยิบฉวยอะไรไว้.. ไม่ได้เลย
เว้นแต่.. ความทรงจำ
.
กล่องจดหมายที่เก็บเอาไว้ตั้งแต่สมัยแรกรุ่น
นานครั้ง.. จึงจะนำออกมาปัดฝุ่น
และเมื่อเปิดอ่าน..
ภาพเหตุการณ์เก่า ๆ ที่เคยเลือนลาง เริ่มปรากฎชัดเข้ม
แม้จะผ่านไปหลายสิบปีแล้วก็ตาม
กลิ่นอายของความสุข.. ความฝัน.. เมื่อครั้งยังเยาว์
ส่งกลิ่นเย้ายวนอวลอบ หอมหวาน..
ทำให้นึกอยากย้อนเวลากลับคืนสู่วันเวลาเหล่านั้นเสียจริง
โธ่เอ๋ย..
ระยะทาง..
ระยะเวลา..
พาฉันเดินทางห่างเหินจากสิ่งต่าง ๆ เหล่านั้น.. มานานนัก
ตั๋วหนังใบเล็ก ๆ ..
ที่นั่งเดียว, สองที่นั่ง
ทั้งที่ตั้งใจเก็บและไม่ตั้งใจเก็บ..
ล้วนแล้วแต่มีความทรงจำที่ดี ๆ มากมายเหลือเกิน...
จุ๊ จุ๊ แต่บอกเล่าไม่ได้หรอกนะ
แผนที่บอกทางแผ่นเล็ก ๆ ที่วาดด้วยน้ำใจของชาวบ้าน
เมื่อครั้งเดินทางไปต่างถิ่น..
ก็ทำให้รำลึกได้ว่า
ครั้งหนึ่ง..
ความสุขของฉัน.. อยู่ที่นั่น
ใช่.. ความสุขของฉัน.. ความสุขของเรา..
..
โน๊ตเล็ก ๆ ที่เขียนด้วยลายมือโย้เย้ราวกับเด็ก ๆ
ขอบคุณนะครับ สำหรับขนม แล้วจะแวะมาเยือนอีก
ทำให้นึกถึงผู้ชายตัวโต ๆ ผิวขาว ใส่แว่น ท่าทางใจดี ที่เคยแอบปลื้ม
โดยเฉพาะภาพที่เดินสะดุดสายไฟจนแทบคะมำ
แล้วแก้เก้อเบา ๆ ว่า..
วางกับดักเหรอ ไม่ได้ผลหรอก
คิดถึงแล้ว.. มีแต่รอยยิ้ม
..
2 กันยายน 2552 17:12 น.
ผู้หญิงช่างฝัน
สี่โมงกว่าแล้ว..
ตั้งใจว่า.. เย็นนี้จะไปเดินหาหนังสือสักเล่ม สำหรับวันดี ๆ ที่ใกล้จะถึง
แต่อาการไข้ที่กำเริบขึ้นมา
ทำให้สองจิตสองใจ ว่าจะเอาอย่างไรดี
รถก็เหลือไฟสูงแค่ตาเดียว ไฟต่ำก็ต่ำเตี้ยติดดิน
แตรก็ดังง้องแง้ง ง้องแง้ง มีเสียงบ้างไม่มีเสียงบ้าง
ยังไม่ได้ซ่อม.. (ทำอะไรไม่เป็นเลย)
แถม (หน้า) ตาคนขับก็ไม่ดี มีปัญหาในการขับรถช่วงกลางคืน
อาศัยคลานไปเรื่อย ๆ เพื่อนร่วมทางคันอื่น ๆ
คงนึกค่อนขอดอยู่ในใจ.. สงสัยจะลืมเหยียบคันเร่ง
ถ้าไม่ทันจริง ๆ ก็คงต้องติดไว้ก่อน
ถ้าปีนี้ได้แต่ส่งปรารถนาดี ๆ ไปให้ คงไม่ว่าอะไรนะ
ปีนี้ เงียบเหงาจัง
หรือรู้สึกไปเองคนเดียวก็ไม่รู้
หรือระยะทาง.. จะทำให้ตื่นเต้นน้อยลง
แต่ความตั้งใจยังคงมีเต็มเปี่ยมเหมือนเดิม
ความสุขจากการที่ได้ทำอะไร ๆ ให้ ก็ยังคงเป็นความสุขอยู่เหมือนเดิม
นั่นคือสิ่งที่หล่อเลี้ยงหัวใจ.. ให้คงอยู่ได้ทุกวันนี้
ใกล้จะเลิกงานแล้ว..
คงไม่ไปแล้วหละ แวะไปหาหมอที่คลีนิคก่อนดีกว่า ตามที่สัญญาไว้
เรื่องหนังสือ.. ติดไว้ก่อนก็แล้วกัน ไม่แน่อาจเป็นพรุ่งนี้
หรือไม่ก็สัปดาห์หน้าไปเลย...
กลับบ้านก่อนนะ.. แล้วจะส่งข่าวมาใหม่
27 สิงหาคม 2552 15:02 น.
ผู้หญิงช่างฝัน
วันว่าง ๆ เหงา ๆ อย่างนี้..
กระตุ้นอารมณ์เบื่อของฉันให้กำเริบขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้
เบื่อ.. ไม่รู้ทำไมชีวิตมันถึงน่าเบื่อได้อย่างนี้
เหมือนไม่มีจิตวิญญาณ ไม่มีชีวิตชีวา ไม่อยากทำอะไร..
ประโยคที่ฉันพร่ำบอกให้คนใกล้ตัวฟังซ้ำ ๆ
ทั้งที่รู้ว่าคนที่ฉันคุยด้วย.. เขาเบื่อที่ฉันบ่น ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าสิ่งที่ฉันบ่นว่าเบื่อ...
เขาว่า.. ฉันเปลี่ยนไป..
ช่วยไม่ได้จริง ๆ ..
ในเมื่อต่อมรื่นเริงของฉัน มันมักหยุดทำงานอยู่บ่อย ๆ
และคนอย่างฉันก็รักที่จะกอดความเบื่อหน่ายเอาไว้อย่างนี้
จนกว่ามันจะยอมแพ้และเป็นฝ่ายเดินไปจากฉันเสียเอง
เขาพูดให้ฉันย้อนคิดว่า เขาเคยสบายใจทุกเวลาที่ได้คุยกับฉัน
เขายังเคยคิดว่า.. คนที่จะให้สิ่งใดกับคนอื่นได้ แสดงว่าต้องมีสิ่งนั้นอยู่ในตัว
ครั้งนั้น.. ฉันได้แต่นึกปลาบปลื้มอยู่ในที
ที่ตัวเองสามารถสร้างความสุขและรอยยิ้มให้เขาได้
จะว่าไปแล้ว..
ฉันก็เห็นใครใครต่างปรารถนาความสุข ความสบายใจด้วยกันทั้งนั้น
ใครจะมาพิสมัยความทุกข์เศร้า
หรือนึกยินดีที่ต้องแบกความเหนื่อยหน่ายซังกะตายไว้กับตัว
ไม่เว้นแม้แต่ฉันเอง..
แต่ก็ช่วยไม่ได้อีกนั่นแหละ
คนถูกสาปให้มีอารมณ์ขึ้น ๆ ลง ๆ อย่างฉัน
ใครใครต่างก็พากันถอดใจ และล้าที่จะประคับประคองความรู้สึกฉันให้คงที่
ฉันถึงย้ำกับตัวเองอยู่เสมอ
ใครจะซบซับความรู้สึกใครได้ตลอด
ฉันเองก็เหมือนกัน
ฉันเองก็ซบซับความรู้สึกใครไม่ได้ตลอด
เพราะตอนนี้..
นอกจากความเบื่อหน่ายแล้ว ฉันก็คงไม่มีอะไรที่จะให้ใครได้เหมือนเก่า
ฉันเบื่อ.. เกินกว่าจะแยแสหรือไยดีต่อสิ่งใด
ฉันเสียใจ
10 พฤศจิกายน 2551 18:50 น.
ผู้หญิงช่างฝัน
ไม่ได้เขียนถึงคุณมานาน..
วันนี้.. บรรยากาศเป็นใจเหลือเกิน
อยากให้คุณมาเห็นท้องฟ้ายามนี้นัก
ท้องฟ้ายามพลบ..
จะว่าเหงาก็เหงา.. แต่ก็น่าหลงไหลเสียจริง
ฟ้าสีหม่นแต่งแต้มแซมด้วยสีส้มสด..
เมื่อได้ดื่มด่ำร่ำรสพร้อมกับแกล้มชั้นดี "ความรู้สึกที่ไม่เคยปล่อยผ่าน"
ซึ่งได้จดจารจากวันวาน.. ถึงวันนี้
หัวใจยิ่งเต็มตื้นและอิ่มสุข จนอยากแบ่งความรู้สึกนี้ให้คุณจัง..
หนาวลมมาเยือนอีกครา...
สายฝนและกลิ่นดินที่คุณรักกำลังจะลาจากไป
ใจหนึ่งนึกอาลัยแทนคุณ แต่อีกใจกลับนึกยินดี
ด้วยหวังว่าคุณจะหลุดพ้นจากบรรยากาศยามฟ้าฉ่ำฝน
ที่มักดึงอารมณ์คุณให้หม่นเศร้า.. แม้จะเคล้าสุขอยู่บ้างก็ตามที
มรสุมแห่งความเศร้า ที่กำลังจะพ้นไป
อาจทำให้บางใจทุเลาความห่วงใยคุณไปได้บ้าง
และหวังว่าคุณจะเปิดหัวใจ..
ให้สายลมหนาวได้มีโอกาสโอบกอดคุณสักครั้ง.... นะคนดี
...