22 กุมภาพันธ์ 2551 13:11 น.
ผู้หญิงช่างฝัน
ระหว่างคืนเงียบงันอันเหน็บหนาว
มวลหมู่ดาวพราวระยับประดับฟ้า
จรัสแสงแข่งขันล้อมจันทรา
เป็นความงามแห่งนภาที่น่ายล
นั่นคือความคู่ควรที่บังเกิด
เจียมตัวเถิดเศษดินถิ่นไพรสนฑ์
แค่จันทร์สาดแสงมาอย่าลืมตน
หลงวังวนแหวกว่ายตะกายเดือน
เจ้าเป็นแค่เศษดินที่สิ้นศักดิ์
แอบทึกทักจันทรามาเป็นเพื่อน
ซ่อนหวังไว้ในฝันอันลางเลือน
เผลอลืมเตือนว่านั่นเพียงฝันไป
ต่อให้จันทร์ลดค่ามาใกล้ชิด
เจ้าก็ไม่มีสิทธิ์จะอ่อนไหว
จันทร์ควรคู่ดาราบนฟ้าไกล
เป็นดินหมายเคียงจันทร์.. อย่าฝันเลย..
........
เคยไหม..
ที่เพียงแค่ได้สัมผัสกับความงดงาม ดีงาม..
ของใครสักคน ก็ทำให้ตัวเองรู้สึกแปลกแยก
เหมือนว่าใครคนนั้นคือ ค ว า ม ดี
ขณะที่คนคนนี้คือ ค ว า ม บ า ป..
ความรู้สึกว่าตัวเองไม่คู่ควร
เหมือนตัวเองต้อยต่ำ..
ไม่มีสิ่งใดดีพอ..
ให้ใครต้องลดตัวลงมาใกล้ชิดด้วย
นั่นคือสิ่งที่บอกตัวเองอยู่เสมอ...
7 กุมภาพันธ์ 2551 15:19 น.
ผู้หญิงช่างฝัน
.. ค ว้ า ง ..
มิรู้จะก้าวย่างทิศทางไหน
มันเวิ้งเหงาเปล่าว่างอยู่ข้างใน
เกินจะกล่าวคำใด-อะไรดี
..ใจหาย...
คงเสียดายอุ่นหวานของวานนี้
นั่นรอยยิ้มของคืนวันอันแสนดี
จะทอดทิ้งก็พิรี้พิไรครวญ
.. หนึ่งใจขมปร่า ..
จนอยากลาลาลับไม่กลับหวน
อีกใจซึ้งถ้อยฝันพารัญจวน
มันปั่นป่วนวุ่นว้าในอารมณ์
.. อย่างไร ? ..
หัวใจจึงจักห้ามความขื่นขม
เอ่ยคำลาแม้ว่าจะโศกซม
หรือยอมจมเจ็บอย่างมิร้างลา
..
By : รวี นิชา