31 ตุลาคม 2550 15:39 น.
ผู้หญิงช่างฝัน
เคยไหม...
กับวันที่หัวใจไร้รู้สึก
ความเย็นชาครอบงำในสำนึก
ไม่รำลึกรับรู้ต่อผู้ใด
ชินชา...
ไม่มีแม้น้ำตาเคยรินไหล
มันจ่อมจมถมทับกับหัวใจ
หรืออัดแน่นมากไปเกินไหลมา
ไยดี..
กับคำนี้ที่เคยหวังยังไร้ค่า
คล้ายเป็นคำโป้ปดหมดราคา
ไม่รู้สึกรู้สาไปกับมัน
สงสัย..
ว่านี่เกิดอะไรกับใจฉัน
จึงว่างเปล่าหมดทั้งใจได้เพียงนั้น
หรือเจ็บมันท่วมท้นจนด้านชา
25 ตุลาคม 2550 10:58 น.
ผู้หญิงช่างฝัน
โยนอารมณ์สั่นไหวไว้เบื้องหลัง
ปล่อยหัวใจให้ว่างไม่นึกถึง
สลัดจิตพิสวาสที่รัดรึง
ความคิดถึงรุมเร้าเอาทิ้งไป
สงสารใจดวงน้อยจักด้อยค่า
หยุดเพ้อหาเขาเสียทีดีกว่าไหม
สงบเสงี่ยมเจียมตัวเจียมหัวใจ
เหงากันไปอย่างเคยมาประสาเรา
อย่าร้องร่ำคร่ำหวนรัญจวนจิต
ไปยึดติดกับฝันหม่นจนอับเฉา
ยอมให้ รัก ย่ำยีชีวิตเรา
เหมือนแมงเม่าหลงไฟตายทุรน
จะทุ่มเทรักมากสักเพียงไหน
ก็เป็นได้แค่เงาเขาไม่สน
ยิ่งดื้อดึงยิ่งบั่นทอนยิ่งร้อนรน
เหมือนคนไร้เหตุผลจนปัญญา
เลิกพะวัง.. สั่งใจ.. อย่าไปคิด
หยุดหลงผิดหลอกตนเฝ้าค้นหา
สิ่งสุดท้ายที่ควรทำ..เอ่ยคำลา..
แม้ข้างหน้าว่างเปล่าเหงาหัวใจ
19 ตุลาคม 2550 13:23 น.
ผู้หญิงช่างฝัน
คิดถึงนิทานดวงดาว
กับเรื่องราวของความฝัน
คิดถึงคนเคยผูกพัน
ที่นับวันยิ่งห่างไกล
คิดถึง.. รู้สึกอบอุ่น
หวานละมุนชวนหวั่นไหว
คิดถึง.. เสียงหัวใจ
จากเนื้อนัยเคยอาทร
คิดถึง คนทอดาว
กับเรื่องเล่าวันคืนก่อน
คิดถึงเพลงก่อนนอน
เคยขานขับ.. หลับฝันดี..
คิดถึง.. ทุกสัมผัส
เคยชื่นชัดคราก่อนนี้
คิดถึง.. วันดีดี
ที่จากนี้คงเงียบงัน
วาสนาแห่งการพบ
มีจุดจบเพียงแค่ฝัน
โดดเดี่ยวกลางสัมพันธ์
กับวานวันอันมิคืน
ได้ยินมาว่า..
ทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกนี้มีวงจรชีวิตของมัน
ดวงดาวก็มีวงจรชีวิตของดวงดาว มนุษย์ก็มีวงจรของมนุษย์
เค้าว่ากันว่า..
วงจรชีวิตมนุษย์มีอายุสองพันห้าร้อยล้านปี
เมื่อครบสองพันห้าร้อยล้านปี เราจะโคจรมาพบกันอีกครั้ง
อีกสองพันห้าร้อยล้านปี.. เราจะได้พบกันอีกมั้ยนะ
18 ตุลาคม 2550 10:12 น.
ผู้หญิงช่างฝัน
หวานนักหวานจับใจแม้ในฝัน
เมื่อเรามีกันและกันอยู่เช่นนี้
สัมผัสแผ่วจากอ้อมอุ่นคุณคนดี
สุดอ่อนโยนเหลือที่จะพรรณนา
เปิดหัวใจเอิบอิ่มลิ้มความหวาน
ละมุนซ่านทรวงสิ้นถวิลหา
ซ่อนความจริงที่หลั่งล้นท้นทรมา
ไว้ในห้วงเสน่หาแห่งอารมณ์
หวานเอ๋ยหวานหวานได้แค่ในฝัน
พอตื่นพลันฝันชื่นกลับขื่นขม
กรุ่นกลิ่นกายคนดีที่พร่างพรม
แท้แล้วคือสายลมพัดห่มลวง...
17 ตุลาคม 2550 10:13 น.
ผู้หญิงช่างฝัน
ฉันเป็นเพียงอุ่นไอในคืนเหงา
คอยปลอบโยนยามเศร้าก็เท่านั้น
พาเธอผ่านท่วงทำนองของคืนวัน
ที่บรรเลงเพลงฝันอันเหว่ว้า
เป็นที่พึ่งพำนักตอนรักร้าว
ช่วยบรรเทาซ่อนโศกเสน่หา
จากบาดแผลรอยช้ำและน้ำตา
ที่ล้นหลั่งท่ามฟ้ายามราตรี
กล่อมหัวใจให้ปิดประตูเศร้า
คลายเหน็บหนาวขมขื่นค่ำคืนนี้
จุดประกายแห่งหวังว่า ยังมี
ชุบชีวีคนเขลาผู้เปล่าดาย
ฉันเป็นเพียงอุ่นไอในคืนเหงา
เมื่อเธอลบรอยเศร้าจนเลือนหาย
สิ่งที่เคยซาบซึ้งจึงกลับกลาย
บทสุดท้าย สิ้นค่า ยิ่งกว่าใคร