5 กุมภาพันธ์ 2552 08:47 น.
ผู้หญิงช่างฝัน
นั่นสินะ.. เพราะเหตุใด
ถึงต้องพาหัวใจไปจากฝัน
ทิ้งรู้สึกงดงาม-ความผูกพัน-
ปรารถนาดีของคืนวันที่ผ่านมา
เป็นเพราะตัวตน
รักจะอยู่อย่างคนที่ไร้ค่า
มองชีวิตพลิกผัน-วันเวลา
ผ่านหัวใจเฉยชาไปวันวัน
หรือเพราะ.. หนทางเดิน
ทำให้ต้องห่างเหินจากความฝัน
เก็บความรัก-ความงดงาม-ความผูกพัน
ซ่อนไว้กับคืนวัน-กาลเวลา
ไม่ว่า.. เพราะเหตุใด
ปล่อยทุกสิ่งให้ผ่านไปอย่างช้าช้า
อุ่นไอ-มิตรไมตรี-เคยมีมา
บันทึกค่าจรดไว้ในทรงจำ..
16 พฤศจิกายน 2551 09:03 น.
ผู้หญิงช่างฝัน
ถามตัวเองตลอดมาถามว่ารัก?..
ก็อึกอักไม่แน่ใจในรู้สึก
เหมือนแหวกว่ายหลงไปในน้ำลึก
ความรู้สึกคล้ายหาฝั่งยังไม่เจอ
นึกทบทวนเหตุการณ์ดาลอดีต
กับรอยกรีดรอยบาดครั้งพลาดเผลอ
มักเจอสิ่งที่ใครเขาไม่เจอ
สัมผัสเพียงภาพละเมอและมายา
บนหนทางแห่งรักอันขวักไขว่
ย่อมมีผู้ปราชัยในปรารถนา
หากความหวังฉีกขาดปราศราคา
มิวายต้องรินน้ำตามาสังเวย
แต่ก็ตอบไม่ได้ว่าไม่รัก
มันยากเย็นยิ่งนักจักเฉลย
ได้โอบกอดไมตรีอุ่นจนคุ้นเคย
จนงอกเงยเป็นความงามท่ามคืนวัน
เหมือนกระแสลมพรมไล้ให้เย็นฉ่ำ
เหมือนฝนพรำลงมาคราแล้งฝัน
เหมือนอวลอุ่นไอแห่งแสงตะวัน
ที่สร้างวันเวลาให้ไสวสว่าง
สุดท้ายไร้วิถีที่จะตอบ
จึงตีกรอบเอาไว้ในความว่าง
อิสระ ล่องลอย และปล่อยวาง
กับรู้สึกที่แตกต่างในบางที..
1 ตุลาคม 2551 15:08 น.
ผู้หญิงช่างฝัน
เหลือไว้เพียงเท่านี้เท่าที่เห็น
ภาพยามเย็นริมฝั่งทะเลเหงา
กับความหลังครั้งที่ยังมีเรา
สัมผัสผ่าวนุ่มละมุนยังกรุ่นอวล
เคยซบอิงแนบไหล่อยู่ชายฝั่ง
ความสุขพรั่งพรายผสมคลื่นลมหวน
สองมือต่างเกาะกุมอย่างนุ่มนวล
อุ่นรัญจวนเต้นระรัวสองหัวใจ
วันนี้มนต์รักกลายคลายพิษสง
แต่ยังคงงดงามให้หวามไหว
หวนคำนึงขึ้นมาครั้งคราใด
ยังสุขใจแม้นรอยยิ้มปริ่มน้ำตา
หลับตาลงส่งผ่านความคิดถึง
แด่คนซึ่งอยู่ไกลอีกปลายฟ้า
ขอดื่มด่ำอารมณ์รักอีกสักครา
คืนเวลาสู่ห้วงหวามความทรงจำ
ความทรงจำ
เสาวลักษณ์ ลีละบุตร
บางคราวยังเหมือนว่าเธออยู่ตรงนี้
เรื่องราวที่ดีก็ยังฝังใจ...
บางความทรงจำเก่าเก่า ก็ยังงดงามไม่คลาย
กระจ่างอยู่ข้างใน เมื่อไรที่คิดขึ้นมา
บางทียังคิดว่าเธออยู่ที่ไหน
แล้วเคยหรือไม่ที่คิดเหมือนกัน
คิดถึงเรื่องราวเก่าเก่า แล้วยังทบทวนถึงมัน
สิ่งดีดีกับคืนและวัน ของฉันและเธอ
และยังคงยิ้ม ยิ้มทั้งน้ำตา
ที่ผ่านไปแล้วไม่หวนคืนมาก็ไม่เสียดาย
แค่เพียงคิดถึงว่าเคยได้มี
บางครั้งก็ยังชื่นใจ แม้จะมีเก็บไว้แค่ความทรงจำ
อยากเก็บเอาไว้แค่เพียงสิ่งดีดี
ถึงวันนี้มีแต่ความเหงาใจ
ถึงแม้ว่าเราจะห่าง แยกคนละทางที่ไป
ก็เป็นเพียงแค่ความสุขใจ เมื่อคิดถึงเธอ
.. มี เ พี ย ง บ า ง ค รั้ ง ที่ อ า จ จ ะ ยั ง ส ง สั ย
ว่ า เ ธ อ เ อ ง จ ะ เ ค ย บ้ า ง ไ ห ม ที่ คิ ด เ ห มื อ น กั น
7 กันยายน 2551 11:57 น.
ผู้หญิงช่างฝัน
" ราวกับใจจะขาดอนาถแท้
ยามที่ความอ่อนแอเข้าถาโถม
ต้องอาศัยเสียงน้ำตามาประโลม
บรรเทาโทมนัสที่กัดกิน
เฝ้าเสียดายวารวันที่ผันผ่าน
ทั้งที่เหลือเพียงรอยกาลอันแหว่งวิ่น
จมอยู่กับสายน้ำตาที่บ่าริน
สิ้นแล้วสิ้นบางใครจะไยดี "
" เบื่อหัวใจเจ้ากรรมเจ็บซ้ำซาก
ต้องเอ่ยปากปลอบใจอย่างไรนี่
จะอยู่อย่างช้ำไปทำไมมี
เมื่อไม่มีความหมายในสายตา
หยุดเถิดนะน้ำตาความปร่าปวด
เจ้าร้าวรวดทุกข์หนักใดนักหนา
หวังใครยินเสียงร่ำไห้ในน้ำตา
มันหมดค่า.. หมดหวังตั้งนานแล้ว "
26 สิงหาคม 2551 17:26 น.
ผู้หญิงช่างฝัน
เห็น นักรบศรีวิชัย ใจห้าวฮึก
ด้วยรู้สึกถึงพลังอันเข้มแข็ง
ถือธง..โบกสะบัดทะมัดทะแมง
อ่อนโยน.. กล้าแกร่งอยู่ในที
เป็นกำลังสำคัญพันธมิตร
รวมดวงจิตอาสาทำหน้าที่
ป้องกันภัยที่แฝงเฝ้าเข้าราวี
ให้เพื่อนพ้องน้องพี่สิ้นห่วงใย
ถึงเวลาประจัญบานเป็นด่านหน้า
ใช้กายากำยำกำบังให้
ขอบคุณที่ นักรบศรีวิชัย
อยู่เคียงบ่าเคียงไหล่ประชาชน
ภาพ นักรบศรีวิชัย ในความคิด
จะยังติดอยู่ในใจไปทุกหน
วันหนึ่งคงเห็น ผู้กล้า อาสาตน
ปกป้องชนผู้อ่อนแออย่างแท้จริง..