16 กุมภาพันธ์ 2553 12:59 น.
ผู้หญิงช่างฝัน
สักกี่ล้านดวงใจไทยทั้งผอง
กี่ร้อยกรองที่กลั่นไปจากใจนี้
มิอาจเทียมแม้ฝ่าละอองธุลีฯ
พระภูมีเปี่ยมล้นพระกรุณา
ธ คือสิ่งรวมใจไทยทั้งชาติ
ซึ่งมิอาจหาใดในโลกหล้า
ทรงมอบความฉ่ำเย็นเช่นธารา
ดุจน้ำทิพย์ของประชาทั่วเขตคาม
ภูมิใจได้เป็นข้าฝ่าพระบาท
เกิดในชาติแผ่นดินถิ่นสยาม
องค์กษัตริย์ขัตติยะพระทัยงาม
ลือพระนาม ภูมิพล ของคนไทย
เปรียบเสมือนสายฝนหล่นจากฟ้า
พระเมตตาที่พระองค์ทรงมอบให้
ดับทุกข์อันใหญ่หลวงของปวงไทย
ขอเทิดไว้เหนือเกล้า.. เจ้าแผ่นดิน
ด้วยพระบารมีที่ปกเกล้า
ล้วนบรรเทาทุกข์ภัยมลายสิ้น
ธ คือฟ้าโอบอุ้มคุ้มครองดิน
ทั่วทุกถิ่นแดนไทยได้ชื่นบาน
ขอพระองค์จงทรงพระเจริญ
กราบอัญเชิญเทวะทุกสถาน
สิ่งศักดิ์สิทธิ์ในสากลดลบันดาล
พระองค์ท่านเกษมพระหฤทัย
ทำไมเรารักพระเจ้าอยู่หัว
คำถามง่าย ๆ แต่ตอบยาก สารคดีสั้น ๆ ที่กินใจ
ดูกี่ครั้งก้อนสะอื้นก็พาลมาจุกอยู่ที่คอเสียทุกครั้ง
จินตนาการไปว่า.. ถ้ามีใครมาถามคำถามนี้กับเรา
เราจะตอบอย่างไรให้ได้เท่าที่ใจรู้สึก..
เพราะมันมากมายเหลือเกิน
เกินจะหาคำใดมาบอกเล่าความรู้สึกนั้นได้
ว่าทำไม.. เรารักพระเจ้าอยู่หัว
21 ธันวาคม 2552 21:01 น.
ผู้หญิงช่างฝัน
ฉันเคยมีค่าใดกับใครเล่า
อย่ารุกเร้าจินตนาจนว้าวุ่น
บทกวีสร้างสรรค์ฝันละมุน
สัมผัสอุ่นล้นเหลือแค่เนื้องาน
ฉันไม่มีค่าใดกับใครดอก
ในม่านหมอกยิ่งไม่เห็นเป็นสีหวาน
ฝันฉันเป็นสีเศร้ามาเนานาน
อีกกี่กาลก็จักเห็นเป็นเช่นนั้น
ฉันไม่มีค่าใดใครทั้งสิ้น
เลิกจมจินต์หมิ่นหมางคนช่างฝัน
ผู้แล้งซึ่งปรารถนามานานวัน
สิ้นผูกพัน ไร้ตัวตน ทุกหนทาง
ฉันไม่มีค่าใดใครทั้งนั้น
อย่าผูกฝันลึกซึ้งถึงบางอย่าง
ไม่เคยมีกวีกลอนซ่อนอำพราง
แค่ความต่างที่ใกล้กัน.. แค่นั้นเอง
..
20 ตุลาคม 2552 14:51 น.
ผู้หญิงช่างฝัน
อยู่ห่างฉัน..
อย่าใกล้กันกว่านี้จะดีกว่า
มันยิ่งสร้างรู้สึกล้นท้นทรมา
ตอกย้ำความไร้ค่าที่ฉันมี
อยู่ห่างฉัน..
วางสัมพันธ์นั้นลงแค่ตรงนี้
โปรดอย่าข้ามสายใยเส้น ไมตรี
ฉันไม่มีค่าพอสำหรับใคร
อยู่ห่างฉัน..
อย่าสร้างความผูกพันหรือชิดใกล้
พบกันเพื่อเพียงพรากและจากไป
ว่ายวนในกระแสธารกาลเวลา
อยู่ห่างฉัน..
ขอให้เป็นเช่นนั้นจะดีกว่า
แค่เศษธุลีดินสิ้นราคา
อย่าลดตัวลงมาหามันเลย..
1 ตุลาคม 2552 15:48 น.
ผู้หญิงช่างฝัน
เห็นเขามาเชิญชวนกันถ้วนทั่ว
ไม่ได้กลัวว่าจะด้อยหรือน้อยหน้า
แค่อยากอวดของดีเรามีมา
ให้รู้ว่าเมืองชายฝั่งยังมีดี
เมืองระยองของเราเขาเล่าว่า
เริ่มสมัยพระธรรมราชาแห่งกรุงศรีฯ
มีอายุยาวนานพันกว่าปี
หลักฐานมีหลงเหลือไว้เพียงค่ายคู
เป็นทางผ่านเจ้าฟ้าพระยาตาก
เมื่อคราจากกรุงศรีฯ มาหาทางสู้
พักไพร่พลก่อนหาวิธีต่อตีศัตรู
หวังกอบกู้อิสรภาพปราบรามัญ
เป็นเมืองฝั่งทะเลตะวันออก
(ถ้าไม่บอกเขาจะรู้หรือไม่นั่น)
เป็นแหล่งอุตสาหกรรมที่สำคัญ
(แต่สิ่งนั้นให้รู้ไว้.. ไม่ต้องการ)
สวนผลไม้โอชา-น้ำปลาเด่น
มิใช่เล่นริมทะเลแหล่งอาหาร
แหลมแม่พิมพ์-หาดแม่รำพึงจึงตระการ
วังแก้วผ่านเมื่อใดให้แวะชม
ร้าน ผัดไทคุณไกร ใกล้ใกล้วัด
ฝีมือจัดว่าเข้าขั้นลือกันขรม
นักท่องเที่ยวไกล-ใกล้ให้นิยม
ใช่แสร้งชมหากไม่เชื่อ.. มาชิมดู (แต่ไม่เลี้ยงนะ)
แหล่งท่องเที่ยวยังมีที่เด็ดเด็ด
เกาะเสม็ด- เกาะมัน-นั้นสวยหรู
กวีเอกผู้สร้างสรรค์งานชั้นครู
สุนทรภู่ แห่งบ้านกร่ำอำเภอแกลง
มากมายสิ่งสถานอันศักดิ์สิทธิ์
เพียงน้อยนิดนำมากล่าวเล่าแถลง
มี พระนอน ไม่เหมือนใคร-ซ้ายตะแคง
แปลกไปกว่าทุกแห่งในเมืองไทย
โอ๊ย.. สาธยายเท่าไหร่คงไม่หมด
เชิญขึ้นรถแล้วมุ่งหน้ามาเที่ยวได้
ว่าแต่ก่อนลดเลี้ยวเที่ยวที่ใด
แวะมารับก่อนใช่ไหม.. จะได้รอ..
24 กันยายน 2552 12:34 น.
ผู้หญิงช่างฝัน
ได้ยินเสียงบทเพลงบรรเลงแว่ว
เมื่อฟังแล้วต้องครวญคิดพินิจว่า
ที่เขาบอก เล่าให้รู้ เรื่องปูนา
หมายความว่าอย่างไรใคร่สังวรณ์
เขาหยิบคำโบราณท่านเคยกล่าว
ใช้เรื่องราวของปูเป็นครูสอน
ผ่านบทเพลงบ้างผ่านนิทานกลอน
เนื้อหาซ่อนอะไรไว้ในปูนา..
ดูให้ดีนะลูกนะแม่จะสอน
ดูแม่ก่อนเดินอย่างไรให้สง่า
เห็นลูกเดินแล้วอ่อนใจให้ระอา
ไยเดินเซไปมาเหมือนขาเก
แม่พร่ำบ่นสอนสั่งด้วยหวังว่า
เจ้าลูกยาเยื้องย่างได้ไม่ไฉเฉ
ขณะแม่ผู้สอนสั่งยังเกเร
เดินซัดเซโซไปไม่ตรงทาง
มองตัวเองสักทีดีกว่าไหม
ก่อนจะให้ใครเห็นเป็นแบบอย่าง
ก่อนเที่ยวพูดเพ้อพร่ำชี้นำทาง
ทุกก้าวย่างเราผ่องแผ้วแล้วหรือยัง